ปัจจุบันน้ำผักผลไม้ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น ด้วยคุณประโยชน์ของผักผลไม้ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ในการบำรุงร่างกาย ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ แต่การดื่มน้ำผักผลไม้เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพนั้น จำเป็นยิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลักโภชนาการที่ถูกต้องควบคู่ไปด้วย ดังนี้

การดื่มน้ำผักผลไม้ให้ได้คุณประโยชน์อยู่ที่ความสดใหม่ น้ำคั้นจากผักผลไม้จำเป็นจะต้องมีความสดใหม่ เนื่องจากสารอาหารในผักและผลไม้สามารถสลายตัวได้เร็วเมื่อถูกออกซิเจนในอากาศ หรือแม้แต่การเก็บมะนาว ส้ม และผลไม้อื่นๆ ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีไว้เป็นเวลา1 เดือน จะสูญเสียวิตามินซีถึงร้อยละ 40 แม้แต่ตู้เย็นก็ไม่สามารถป้องกันการสลายตัวของวิตามินซีได้ 

ทั้งนี้ ในการรับประทานน้ำผักผลไม้ ควรเลือกรับประทานน้ำผักผลไม้ให้หลากหลาย หรือรับประทานให้ครบทั้ง 5 สี เนื่องจากผักผลไม้แต่ละสี แต่ละชนิด จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก่อนนำมารับประทานควรล้างผักผลไม้ให้สะอาดก่อนเพราะอาจมีสารเคมีปะปนได้

การนำผักผลไม้มาคั้น คือ การทำให้น้ำและกากแยกออกจากกัน ประโยชน์ที่ได้จากการคั้นก็คือ กากในผักผลไม้ที่ย่อยไม่ได้จะถูกแยกออกไป เหลือเพียงแต่น้ำที่มีแต่สารอาหารล้วนๆ จึงมีความเข้มข้นกว่าการรับประทานสดด้วยวิธีปกติ เช่น เมื่อเรารับประทานแครอทแบบสดๆร่างกายจะดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้เพียง 1% ส่วนที่เหลืออีก 99% จะจับอยู่กับกากใย แต่ถ้าเป็นการคั้นน้ำแครอท กากใยเหล่านั้นจะถูกแยกออกไปเราจึงได้รับเบต้าแคโรทีนเกือบ 100% ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าการคั้นน้ำผักผลไม้ดื่มทุกวัน ร่างกายของเราจะได้รับวิตามิน เกลือแร่ และเอนไซม์เต็มๆ

หรือบางท่านอาจชอบเครื่องดื่มสมูทตี้ ซึ่งเป็นการปั่นรวมผักผลไม้และส่วนผสมหลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่น นม โยเกิร์ต โปรตีน เป็นต้น นับเป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยเปลี่ยนผักหรือผลไม้ที่ไม่ชอบให้เป็นเมนูอร่อยและได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ หากปกติไม่ชอบกลิ่นเหม็นเขียวของผักใบเขียว อาจนำผักโขมมาปั่นรวมกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ หรือพีชที่มีกลิ่นหอมเพื่อกลบกลิ่นเขียว ตามด้วยนมหรือโยเกิร์ต ผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย และควรเลือกโยเกิร์ตธรรมชาติไขมันต่ำ แต่ทางที่ดีการเลือกดื่มน้ำผลไม้ที่ปั่นแบบไม่แยกกาก จะให้คุณค่าทางสารอาหารและมีกากใยมากกว่า ทั้งยังทำให้รู้สึกอิ่มด้วย

ในขณะที่น้ำผลไม้คั้นแยกกากนั้นไม่ได้ช่วยให้รู้สึกอิ่ม จึงทำให้ต้องรับประทานอาหารอื่นๆ เพิ่ม ส่งผลให้ได้รับแคลอรีสูงขึ้นในแต่ละวัน นอกจากนี้หลังจากคั้นหรือปั่นควรดื่มให้หมดภายในครั้งเดียว เพราะหากปล่อยไว้ แบคทีเรียจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้มีอาการท้องไส้ปั่นป่วนหรือถ่ายท้องตามมาได้ ส่วนน้ำผลไม้คั้นสดในบรรจุภัณฑ์ต่างๆก็ควรเลือกที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์มาแล้ว

เคล็ดลับในการดื่มน้ำผักผลไม้ คือ ควรดื่มช้าๆ ด้วยช้อนหรือค่อยๆ ดูดน้ำเข้าไป เพราะน้ำผักผลไม้จะได้ผสมกับน้ำลาย ซึ่งน้ำลายจะช่วยย่อยน้ำตาลในน้ำผักผลไม้ จากนั้นเมื่อลงสู่กระเพาะ จะใช้เวลาเพียง20-25 นาทีในการย่อย นอกจากนี้ผู้ที่ชื่นชอบหรือเลือกดื่มน้ำผลไม้แทนการรับประทานผักผลไม้สดๆ ควรควบคุมปริมาณให้พอเหมาะพอดีด้วย โดยไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 แก้วเล็ก หรือ 150 มิลลิลิตร และดื่มพร้อมมื้ออาหารแล้วแปรงฟันทุกครั้ง เนื่องจากน้ำผลไม้มีน้ำตาลสูง เสี่ยงทำให้ฟันผุได้

ผลวิจัยล่าสุดทางการแพทย์สอดคล้องกับความเชื่อที่ว่า สารสำคัญที่มีในผักผลไม้ เป็นกุญแจป้องกันโรคอันเกิดจากความเสื่อมของร่างกายได้หลายโรค เพราะปริมาณและความหลากหลายของวิตามิน เกลือแร่โฟโทนิวเทรียนส์ (phytonutrients) หรือสารสำคัญที่มีในพืช และเอนไซม์ในผัก ผลไม้ ล้วนเป็นพื้นฐานสู่การมีสุขภาพดี ช่วยขจัดสารพิษในร่างกายลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ทำลายเซลล์และเป็นเหตุของการแก่ก่อนวัย นอกจากนี้ร่างกายยังได้รับประโยชน์จากการดื่มน้ำผักผลไม้ คือ

1.ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระฉับกระเฉง

2.ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น ไม่แห้ง หยาบกร้าน

3.วิตามินซีในน้ำผลไม้ยังช่วยชะลอวัยให้แก่ผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นดี ผิวไม่เหี่ยวหรือมีริ้วรอยก่อนวัยอันควร

4.ช่วยล้างสารพิษตามระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้เป็นอย่างดีทำให้เราขับถ่ายเป็นปกติ

5.น้ำผลไม้ไม่มีไขมัน มีแคลอรีต่ำ จึงช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก และควบคุมน้ำหนักอย่างได้ผล

6.ช่วยทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต้านทานโรคต่างๆได้ดีขึ้น

7.ช่วยดับกระหาย ปรับอุณหภูมิภายในร่างกายให้เป็นปกติ

การดื่มน้ำผักผลไม้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับบางท่านที่ไม่ชอบรับประทานผัก ผลไม้สด ถือเป็นเครื่องดื่มที่ให้รสชาติหลากหลาย ให้ความอร่อย ช่วยดับกระหาย แถมมีประโยชน์ และร่างกายได้รับวิตามินในคราวเดียวกัน แต่ไม่ควรรับประทานทดแทนสารอาหารหลัก ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตามหลักโภชนาการ เพื่อให้ร่างกาย
ได้รับสารอาหารที่หลากหลายและครบถ้วน

เรียบเรียงข้อมูลจาก

https://www.pobpad.com

http://www.omixjuice.com

https://health.mthai.com/

https://pordeeshops.com/

https://medthai.com/

https://web.ku.ac.th/

https://www.google.co.th/

กองประชาสัมพันธ์

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)