ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมมันเดย์ไนท์ ประจำวันจันทร์นี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะบุกไปเยือนถิ่น เอลแลนด์ โร้ด ของ “ยูงทอง”ลีดส์ ยูไนเต็ด เริ่มฟาดแข้งในเวลา 02.00 น. เป็นต้นไป

ทัพ “หงส์แดง” ที่เวลานี้หมดลุ้นแชมป์ในทุกรายการที่ลงสนามแล้ว หลังเพิ่งตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเวลานี้พวกเขารั้งอันดับ 6 ของตารางพรีเมียร์ลีก มีแต้มตามหลังอันดับ 4 อย่าง เวสต์แฮม อยู่เพียง 3 คะแนนเท่านั้น โดยผลงานของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในเกมลีก ช่วงหลังเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลัง 3 นัดหลังคว้าชัยได้ทั้งหมด เกมนี้ สภาพทีมจะยังขาดแข้งเดี้ยงนานแล้วอย่าง เวอร์กิล ฟานไดค์, โจ โกเมซ, โจเอล มาติป, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมทั้งต้องเช็ค ความฟิตของ เคอร์ติส โจนส์ ส่วนแข้งหลักรายอื่นๆ ยังพร้อมลงสนามครบครันนำโดย โอซาน คาบัค, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคันทาร่า และ 3 ประสานในแนวรุกที่เกมนี้ ดีโอโก้ โชต้ามีลุ้นเบียด โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เป็นตัวจริงร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ทางฝั่งเจ้าถิ่น ลีดส์ ที่ฟอร์มยอดเยี่ยม คว้าชัย 3 เกมติด และไม่แพ้ใครใน 4 นัดหลังสุด เกมนี้สภาพทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือของทีม จะยังขาด โรดริโก้ กองหน้าชาวสเปน รวมไปถึงรอเช็คความฟิตของ ราฟินญ่า แนวรุกคนสำคัญ นอกนั้นพร้อมลงสนามเต็มสูบนำโดย ดีเอโก้ ญอร์เรนเต้, คัลวิน ฟิลลิปส์, ไทเบอร์ โรเบิร์ตส์ และ แพททริค แบมฟอร์ด ดาวยิงฟอร์มร้อน

สำหรับเกมแรกที่ทั้งคู่ดวลกัน ปรากฏว่าเป็น ลิเวอร์พูล ที่เอาชนะ ลีดส์ ไปได้ 4-3 เมื่อช่วงเดือน ก.ย. ของปี 2020

ขณะเดียวกันทัพ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทำสถิติกลายเป็นทีมที่ตกชั้นจากศึกพรีเมียร์ลีก เร็วสุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการที่พวกเขาเหลือโปรแกรมลงเตะอีกถึง 6 นัดในฤดูกาลนี้ หลังบุกไปแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ทำให้เวลานี้ เชฟฯ ยูไนเต็ด ที่่รั้งอันดับสุดท้าย ยังคงมีแค่ 14 แต้ม จากการลงแข่ง 32 นัดทำให้ทัพ “ดาบคู่” กลายเป็นทีมที่ตกชั้่นเร็วสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับ อิปสวิช ทาวน์ ฤดูกาล 1994/95, ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ฤดูกาล 2007/08 และ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ฤดูกาล 2018/19

ขณะเดียวกัน ฮันซี่ ฟลิค กุนซือ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ประกาศอำลาตำแหน่งหลังจบฤดูกาลนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าเตรียมเข้าไปรับงานคุมทัพ อินทรีเหล็ก ทีมชาติ เยอรมนี แทนที่ โยอาคิม เลิฟ

โดยหลังเกมที่ บาเยิร์น มิวนิค บุกเฉือนเอาชนะ โวล์ฟสบวร์ก 3-2 เมื่อคืนวันวันเสาร์ ฟลิค ได้เปิดใจว่าจะลาออกจากตำแหน่งแม้ยังเหลือสัญญากับทีมไปยาวจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2023

“ผมต้องการที่จะยุติสัญญาของผมในช่วงซัมเมอร์นี้มันเป็นเรื่องจริง มันสำคัญสำหรับผมมากๆ ที่ทางสโมสรได้รับรู้เรื่องนี้จากตัวผมเอง ผมได้บอกกับผู้คนที่สโมสรไปก่อนหน้านี้หลังจากที่เราตกรอบศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ผมอยากจะขอบคุณสโมสรที่มอบโอกาสให้ผมได้คุมทีมที่น่าเหลือเชื่อแห่งนี้” กุนซือวัย 56 ปีกล่าว

สำหรับ ฮันซี่ ฟลิค เข้ามารับงานคุม บาเยิร์น เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 ก่อนพาทีมจบฤดูกาลด้วยการกวาด 3 แชมป์ (บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก) ขณะที่ในซีซั่นนี้ก็คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับเวิลด์ คัพ มาครองได้สำเร็จ ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่า สาเหตุที่เจ้าตัวเตรียมตัดสินใจโบกมือลาถิ่น อัลลิอันซ์ อารีน่า นอกจากจะรับงานคุมทัพ อินทรีเหล็ก แล้ว เขายังมีปัญหากับ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิชบอร์ดบริหารของสโมสรด้วย