การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ ปีที่ 105 ครั้งที่ 47 “โคปาอเมริกา 2021” รอบชิงชนะเลิศถือเป็นเกมในฝัน หรือ “Dream Final” เป็นการโคจรมาปะทะกันเป็นครั้งที่ 3 ของสองชาติยักษ์ใหญ่แห่งแดนลาติน“แซมบ้า” บราซิล เจ้าภาพ และแชมป์เก่า ดวลกับ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา ที่ “ชามอ่างยักษ์” เอสตาดิโอ เดอ มาราคาน่า ประเทศบราซิล ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคมนี้ เวลา 07.00 น. โดยสถานีโทรทัศน์“พีพีทีวี HD ช่อง 36” เวิลด์คลาส สปอร์ต จะทำการถ่ายทอดสดให้ชมกันถึงบ้าน

l คีย์แมนไม่เคยได้แชมป์รายการนี้

อาร์เจนตินา ที่นำทัพมาโดย ลีโอเนล เมสซี่ ลงเล่นไปแล้ว 6 นัดซัดไป 4 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ ขึ้นนำทั้งดาวซัลโว และแอสซิสต์จนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยได้สัมผัสแชมป์รายการนี้มาก่อน เช่นเดียวกันกับ จอมทัพของบราซิล อย่าง เนย์มาร์ จูเนียร์ ก็ไม่เคยได้แชมป์รายการนี้เช่นกัน โดยทัวร์นี้ เนย์มาร์ ลงเล่นไป 5 เกมยิงได้ 2 กับ แอสซิสต์ ไป 3 ลูก โดยเขาได้พักในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายที่เสมอเอกวาดอร์ 1-1

ทั้งสองคนนี้ เคยได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์มาแล้วทั้งคู่ โดย เมสซี่ ได้เมื่อปี 2008 ส่วน เนย์มาร์ ได้แชมป์ในการแข่งขันครั้งล่าสุดปี 2016 และในรายการโคปา อเมริกา หนนี้ เนย์มาร์ มีสถิติแปลกๆ ด้วยการเล่นลูก “Nutmeg” หรือ ลูกจันทร์เทศ นั่นคือโชว์เล่นลอดขาคู่แข่งมากที่สุด 6 ครั้ง

l ปรีวิว‘ฟ้าขาว’เต็มสูบ-แซมบ้าขาดเฮซุส

ความพร้อมเกมนี้ อาร์เจนตินา ที่ไม่ได้แชมป์มานานถึง 28 ปี ในรอบแรกผลงานยอดเยี่ยมเข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอ จากการชนะ 3 และเสมอ 1 มี 10 แต้ม ก่อนจะถล่ม เอกวาดอร์ 3-0 ในรอบ 8 ทีม และล่าสุดดวลจุดโทษดับ โคลอมเบีย มาได้ เกมนี้กุนซือ ลีโอเนล สคาโลนี่ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพแกนหลักอยู่กันครบ มาในระบบ 4-3-3 เอมิเลียโน่มาร์ติเนซ เป็นด่านสุดท้าย แดนกลางใช้ กุยโด้ โรดริเกซ เป็นตัวตัดเกมขนาบข้างไปได้ โรดริโก้ เด ปอล และโจวานนี่ โล เซลโซ่ ส่วนสามประสานในเกมรุกนำโดย ลีโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ และนิโกลัส กอนซาเลซ

ทางฝั่ง “แซมบ้า” บราซิล ทีมเจ้าภาพจำเป็นผลงานยอดเยี่ยมเช่นกัน รอบแรกเหมือนกันเป๊ะชนะ 3 เสมอ 1 เข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มบี มี 10 คะแนน ส่วนรอบน็อกเอาท์ 2 เกมเอาชนะ ชิลี และเปรูมาด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งสองนัด เกมนี้ไม่มี กาเบรี่ยล เฮซุส หัวหอกจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ติดโทษแบนจากการไปกังฟูคิกใส่ผู้เล่นชิลีในรอบ 8 ทีม ที่เหลือถือว่าไม่มีปัญหาอะไรกุนซือ ติเต้มาในแผนเดียวกัน 4-3-3 เอแดร์ซอน ยึดมือหนึ่งมาจาก อลิสซอนเบ็คเกอร์ ขณะที่แผงมิดฟิลด์ใช้ คาเซมิโร่ เป็นตัวตัดเกมให้ เฟร็ด คอยไล่บอลและมี ลูคัส ปาเกต้า ปั้นเกมสนับสนุนสามตัวบนอย่าง เอแวร์ตอน, เนย์มาร์และริชาร์ลิซอน

l 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เจนตินา (4-3-3) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ, นาฮูเอล โมลีน่า,เกร์มัน เปซเซลล่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, นิโกลัส ตายาฟีโก้, โรดริโก้เด ปอล, กุยโด้ โรดริเกซ, โจวานนี่ โล เซลโซ่, ลีโอเนล เมสซี่, เลาตาโร่มาร์ติเนซ และนิโกลัส กอนซาเลซ

บราซิล (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส, ดานิโล่, มาร์กินญอส, ธิอาโก้ ซิลวา, เรนาน โลดี้, ลูคัส ปาเกต้า, คาเซมิโร่, เฟร็ด, เอแวร์ตอน, เนย์มาร์ จูเนียร์ และริชาร์ลิซอน

สถิติการพบกับของทั้งสองทีม เจอกันมา 111 ครั้ง ในทุกรายการ บราซิล เหนือกว่าเล็กน้อย ชนะได้ 46 เสมอ 25 และอาร์เจนตินา ชนะ 40 ส่วนการเจอกันในถ้วยโคปา อเมริกา หนล่าสุดคือปี 2019 บราซิล เอาชนะอาร์เจนตินาในรอบรองชนะเลิศ 2-0 ก่อนจะเข้าไปชิงชนะเลิศคว้าแชมป์ด้วยการถล่ม เปรู3-1

l ลูกหนังฟ้าขาวบนเส้นทางโคปา

อาร์เจนตินา ครองแชมป์รายการนี้มาแล้ว 14 สมัย มากที่สุดเป็นอันดับ 2 และเป็นรองแชมป์ 14 สมัย ได้แชมป์เป็นรองเพียงแค่ อุรุกวัยที่ได้มากที่สุด 15 สมัย โดยหนล่าสุดที่เป็นแชมป์ต้องย้อนกลับไปในปี 1993 ที่ประเทศเอกวาดอร์ เป็นเจ้าภาพโดยรอบชิงเอาชนะ เม็กซิโก 2-1จากการเหมาคนเดียวสองประตูของกาเบรียล บาติสตูต้า

หลังจากปี 1993 ที่เป็นแชมป์พวกเขาเข้าชิงฯอีก 4 ครั้ง แต่อกหักทั้งหมด เริ่มจาก ปี 2004 แพ้ให้กับ บราซิลในการดวลจุดโทษ 2-4(ในเวลาเสมอกัน 2-2), ปี 2007 แพ้ให้กับ บราซิล แบบหมดรูป3-0 เป็นทัวร์นาเมนท์แจ้งเกิดของ ดานี่ อัลเวส, ปี 2015 แพ้ให้กับชิลี ในการดวลจุดโทษ 1-4 (ในเวลาเสมอ 0-0) เป็นการอกหัก2 ปีซ้อน เพราะในปี 2014 ก็เข้าชิงฟุตบอลโลก แต่ก็แพ้ในช่วงต่อเวลาพิเศษให้กับ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี และ ปี 2016 หนังม้วนเดิมแพ้ให้กับ ชิลี ในการดวลจุดโทษ 2-4 (ในเวลาเสมอ 0-0) คราวนี้ เมสซี่ยิงคนแรกแล้วพลาด จนเป็นชนวนให้เขาประกาศเลิกเล่นทีมชาติ ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง

l “เซเลเซา”หวังคว้าชัยเป็นสมัยที่10

บราซิล อาจจะเป็นแชมป์โลกมากที่สุด 5 สมัย แต่พวกเขาครองแชมป์รายการนี้มาได้แค่ 9 สมัยเท่านั้นและเป็นทีมแชมป์เก่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เอาชนะอาร์เจนตินาในรอบรองชนะเลิศ 2-0 ก่อนจะเข้าไปชิงชนะเลิศคว้าแชมป์ด้วยการถล่ม เปรู 3-1

สถิติในการเล่นรอบชิงชนะเลิศรายการนี้ เข้าชิงฯมาทั้งหมด 20 ครั้ง ชนะ 9 แพ้ 11 เคยป้องกันแชมป์ได้ 2 ครั้ง คือในปี 1997, 1999 และ 2004, 2007

l คู่ปะทะที่แสนจะยาวนาน

เจอกันมาทั้งสิ้นรวมทุกรายการ 111 ครั้ง บราซิล เหนือกว่าเล็กน้อย ชนะได้ 46 เสมอ 25 และอาร์เจนตินาชนะ 40 จากการพบกันมาตั้งแต่ปี 1914 พร้อมกับได้รับฉายาว่า “Superclásico de las
Américas” โดยถูกยกให้เป็นคู่ปะทะที่สุดยอดที่สุดลำดับที่ 2 ของโลก ต่อจาก อังกฤษ กับ สกอตแลนด์

ถ้านับเฉพาะ โคปา อเมริกา เจอกันมา 33 ครั้ง อาร์เจนตินา ชนะ 15 เสมอ 8 และบราซิล ชนะ 10

ในส่วนของการเจอกันในรอบชิงชนะเลิศนั้น นับจริงๆ คือพบกันเพียง 2 เกมเท่านั้น เพราะในยุคก่อนหน้านี้มีเงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยฟุตบอลรายการนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1916 โดยที่ อาร์เจนตินาเป็นเจ้าภาพชาติแรก ลงแข่งขันในชื่อ South American Championship จนถึงครั้ง 29 ปี 1967 จากนั้นมาใช้ชื่อ Copa América ตั้งแต่ปี 1975 เป็นต้นมา

ถ้านับการบี้แชมป์กันในนัดสุดท้าย ในยุคแรกรวม 4 นัด ปี 1925 เจอกันนัดสุดท้ายเสมอ 2-2 อาร์เจนตินาแชมป์, ปี 1937 แต้มเท่ากัน ต้องมาเตะเพลย์ออฟตัดสิน อาร์เจนตินา ต่อเวลาชนะ 2-0 จากสกอร์ของ บิเซนเต้ เด ลา มาต้า, ปี 1946 เจอกันนัดสุดท้าย อาร์เจนตินา ชนะ 2-0, ปี 1959 เสมอ 1-1 อาร์เจนตินา มี 11 แต้ม บราซิล 10 แต้ม จากนั้นในยุค โคปา อเมริกา ปี 2004 บราซิล ชนะจุดโทษ 4-2 หลังจากเสมอกัน 2-2 ที่เปรู และปี 2007 บราซิล ชนะ 3-0 ที่เวเนซุเอลา

l เปาจอมโหดตัดสิน!สถิติเอาเรื่อง

สำหรับกรรมการ ที่จะลงทำหน้าที่ในเกมสำคัญนี้ เอสเตบันออสโตยิช จากอุรุกวัย ตัดสินมาแล้ว 3 เกม 12 ใบเหลือง 2 ใบแดง เป็นกรรมการที่แจกใบเหลืองและใบแดงมากที่สุดในทัวร์นาเมนท์นี้ โดย 3 เกมที่ลงตัดสิน ประกอบด้วย บราซิล 3-0 เวเนซุเอลา (4 ใบเหลือง), โคลอมเบีย 1-2 เปรู (3 ใบเหลือง) และเปรู 2-2 (จุดโทษ 4-3) ปารากวัย (6 ใบเหลือง 2 ใบแดง)

บี แหลมสิงห์