2นักแบดโฉ่กลับถึงไทย
กูขอโทษ!
“อาร์ต”ส่งข้อความ
แต่คู่กรณียังไม่ตอบ
สหพันธ์จ่อลงโทษ
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม นายจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง สว.สระบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ “เอ-มณีพงศ์ จงจิตร” กับ “อาร์ต-บดินทร์ อิสระ” 2 นักแบดมินตันไทยมีเรื่องชกต่อยกันระหว่างการแข่งขันแบดมินตันระดับกรังด์ปรีซ์ รายการแคนนาดาโอเพ่น ที่เมืองแวนคูเวอร์ ว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เห็นชัดว่าสปิริตและความมีน้ำใจของนักกีฬาหายไป ทั้งนี้ เชื่อว่านอกจากเรื่องของความบาดหมางระหว่างทั้งคู่แล้ว อาจจะมีต้นเหตุมาจากปัญหาเรื่องสิทธิประโยชน์ให้กับนักกีฬาที่ปัจจุบันยังพบข้อร้องเรียนมายังกรรมาธิการฯ อีกทั้ง กรรมาธิการฯ เตรียมเชิญ ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันฯ มาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ ภายหลังจากที่ทางสมาคมฯ สอบสวนประเด็นดังกล่าวแล้ว
ทางด้าน นายเจน ปิยะทัต ประธานสโมสรแบดมินตัน แกรนนูลาร์ ระบุถึงเหตุการณ์ที่ บดินทร์ ซึ่งเป็นนักกีฬาในสังกัด ไล่ชก มณีพงศ์ ว่า ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหาย โดยขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ที่ไม่สามารถควบคุมนักกีฬาในสังกัดได้ในสนามการแข่งขัน อย่าไปโทษนักกีฬาฝ่ายเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วทางทีมงานของตนเก็บภาพได้หมด แต่ไม่อยากให้เรื่องบานปลายไปกว่านี้ เพราะเอยังต้องไปแข่งชิงแชมป์โลก ถ้าทำอะไรลงไปประเทศเสียหาย น้องเค้าเสียหาย สิ่งเดียวที่ตนทำได้ตอนนี้คือ ยุติทุกอย่างให้จบแค่นี้
นายเจน ยังได้เปิดเผยด้วยว่า บดินทร์รู้สึกผิดหวังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ส่งไลน์ไปขอโทษ มณีพงษ์ว่า "กูขอโทษ" แล้ว แต่ มณีพงษ์ยังไม่มีคำตอบใดๆ กลับมา ซึ่งตนได้สอบถามทีมงานของสมาคมแบดมินตันถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ทั้งคู่แถลงข่าวร่วมกัน แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้
สำหรับกรณีที่สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ และสหพันธ์แบดมินตันโลก(บีดับเบิ้ลยูเอฟ) ซึ่งมีการพูดถึงบทลงโทษถึงขั้นการ ลงโทษห้ามแข่งตลอดชีวิต ถ้าจะแบนบดินทร์ ก็ขอให้แบนสโมสรแกรนนูลาร์ด้วย ทั้งนี้ ในเบื้องต้นอาจจะให้บดินทร์โอนสัญชาติไปเล่นในลีกอาชีพของประเทศอื่นในรายการที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสหพันธ์ แต่ถ้าเจ้าตัวตัดสินใจเลิกเล่น ก็จะให้มาเป็นผู้ฝึกสอนในสโมสร และพนักงานของบริษัท แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทางสโมสรจะดูแลบดินทร์ และครอบครัวจนถึงที่สุด
ด้าน ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากสหพันธ์แบดมินตันโลก มีเพียงสหพันธ์แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ ว่ารับทราบเรื่องนี้ และคณะกรรมาธิการด้านวินัย กำลังพิจารณาลงโทษ โดยหลักๆ แล้ว มีอยู่ 2 ทาง คือ จากทางสหพันธ์ที่กำลังพิจารณาอยู่ เบื้องต้นการที่คู่ของบดินทร์ ถูกปรับแพ้ และโดนใบดำ จะโดนปรับอย่างน้อย 500 เหรียญสหรัฐฯ หรือมากที่สุด 2,000 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนโทษทางวินัยต้องรอผลต่อไป
ส่วนการพิจารณาลงโทษอีกทาง ทางสมาคมฯจะเป็นผู้ดำเนินการ โทษฐานที่ทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหาย ซึ่งสมาคมมีระเบียบอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การพิจารณาโทษสมาคมจะพิจารณารอบด้าน เป็นไปตาม พรบ. กกท. ปี 2528 ซึ่งเป็นกฎหมายกีฬา ไม่ใช่กฎหมายทางอาญา โดยจะมุ่งให้สำนึกว่าสิ่งที่กระทำลงไปเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ส่วนการที่ทั้งคู่จะกลับมาคืนดีกันนั้นยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก
ด้านนายสุรศักดิ์ ส่งวรพันธ์ เลขาธิการสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย และเลขาธิการสมาพันธ์แบดมินตันเอเชีย เผยว่า ขณะนี้ทางสหพันธ์เริ่มรวบรวมหลักฐานเพื่อประกาศบทลงโทษแล้ว โดยอาจจะเชิญนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ทางบดินทร์ จะเดินทางกลับถึงเมืองไทยด้วยสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เวลา 23.30 น. ขณะที่ฝั่งมณีพงษ์ จะเดินทางกลับถึงไทยด้วยสายการบินไทย เวลา 23.40 น. คืนวันที่ 24 กรกฎาคมนี้
ทางด้าน "เดอะ ซัน" แท็บลอยด์ดังของอังกฤษ พาดหัวข่าวเสียดสีเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "Bad-men-ton" เนื่องจากเป็นครั้งแรกของวงการแบดมินตันโลกเลยก็ว่าได้ที่นักกีฬามีเรื่องทำร้ายร่างกายกลางคอร์ตต่อหน้าคนดู แถมเป็นนักกีฬาจากชาติเดียวกัน พร้อมลงภาพประกอบด้วย
ส่วน "เดลี เมล" อีกหนึ่งสื่อใหญ่ของอังกฤษ ระบุว่า การวิวาทกันครั้งนี้ เป็นเรื่องของการแก้แค้น หลังจากทั้งคู่แยกทางกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดย บดินทร์ ไปเข้าสังกัดแกรนนูลาร์ ขณะที่ มณีพงศ์ ยังอยู่ภายใต้ สมาคมขนไก่แห่งประเทศไทยต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี