นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อทบทวนแผนยุทธศาสตร์และชี้แจงเกณฑ์ในการบริหารจัดการสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ประจำปี 2565 พร้อมมอบนโยบายการพัฒนากีฬา ปี 2565 ร่วมด้วย นายปรีชา ลาลุน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศที่ ชั้น 8 โรงแรม เดอะแกรนด์ โฟร์วิงส์คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มกราคม 2565
โดยกิจกรรมครั้งนี้ ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ได้จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อทบทวนแผนยุทธศาสตร์และชี้แจงเกณฑ์ในการบริหารจัดการสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ประจำปี 2565 พร้อมมอบนโยบายการพัฒนากีฬา ปี 2565 เป็นเวลา3 วัน เพื่อหารือและทบทวนบทบาทยุทธศาสตร์การกีฬา เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการช่วยผลักดันและขับเคลื่อนการพัฒนาตามแผนสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อพัฒนาการกีฬาขึ้นแท่นเป็นกลุ่มผู้นำทางการกีฬาระดับเอเชีย และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
ซึ่งนายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เปิดเผยว่า “การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและบริบทต่างๆ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่อาจส่งผลต่อการพัฒนาการกีฬาของประเทศ จึงถือเป็นกลไกที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาทั้งประเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อทบทวนแผนยุทธศาสตร์สมาคมกีฬา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการบริหารจัดการขององค์กร ในด้านต่างๆ และช่วยผลักดันและขับเคลื่อนการพัฒนาตามแผนสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาการกีฬาเพื่อเป็นกลุ่มผู้นำทางการกีฬาระดับเอเชีย และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างยั่งยืน”
“การสัมมนาทบทวนยุทธศาสตร์และชี้แจงเกณฑ์การบริหารจัดการสมาคมกีฬาในครั้งนี้ ยังเป็นเหมือนการกำหนดทิศทางของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยให้มีการบริหารจัดการแบบมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งอีกด้านหนึ่งก็ถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้สมาคมสำหรับเตรียมนักกีฬาในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติในรอบปี 2022 ที่รอยู่อีกมากมายหลายทัวร์นาเมนท์ โดยเฉพาะซีเกมส์ ซึ่งจะเป็นมหกรรมกีฬาใหญ่รายการแรกที่ทัพนักกีฬาไทยจะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันในช่วงเดือนพ.ค.นี้ ที่ประเทศเวียดนาม
“วันที่ 25-27 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมหารือกัน3 ฝ่าย ทั้งกกท. คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ถึงแผนในการเตรียมนักกีฬาซีเกมส์ ซึ่งก็จะมีการสรุปยอดนักกีฬาของเราที่จะส่งไปแข่งขันด้วย เบื้องต้นถึงตรงนี้มีการคุยกันว่าจะลดลงให้เหลือราวๆ 400 คนเท่านั้น เพราะการแข่งขันที่เวียดนามมีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้ง สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รวมถึงเจ้าภาพยังกระจายแข่งขันใน 12 เมืองซึ่งจะส่งผลกับการดูแลนักกีฬาที่อาจจะทำได้ไม่ทั่วถึง หากส่งชื่อไปแข่งขันนับพันคนอย่างที่ผ่านๆ มา โดยเมื่อได้จำนวนแล้ว ก็จะให้สมาคมคัดตัวอีกรอบ ก่อนส่งรายชื่อให้กับเจ้าภาพอย่างช้าที่สุดในช่วงเดือนเม.ย.นี้”
“สำหรับความคิดของผม ยังมองว่านักกีฬาของไทยเรายังคงมีโอกาสที่จะคว้าเจ้าเหรียญทองในกลุ่มชนิดกีฬาสากลเหนือเจ้าภาพ เวียดนามในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 แน่นอนว่าไปแข่งขันรอบนี้เราเจออุปสรรคโควิด-19 ทำให้การเตรียมทีมอาจไม่ต่อเนื่องอยู่บ้างแต่ก็พยายามนำเทคนิค วิธีการรวมไปถึงวิทยาศาสตร์การกีฬาที่เข้มข้นกว่าครั้งก่อนมาช่วยเตรียมนักกีฬาไทยก็เชื่อว่าหากเราเสริมตรงส่วนนี้ให้กับนักกีฬาไทยเข้าไป ก็มองว่านักกีฬาของเราดีพอจะกลับมาเป็นเบอร์ 1 ชนิดกีฬาสากลในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี