ทีม “FIKA” จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (มทม.)ร่วมกับ RV Connex สร้างชื่อให้กับประเทศไทย คว้ารางวัลรองชนะเลิศการแข่งขัน APSCO “Competition on Discovering Historical Cultural Heritage with Eye in Space” ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการประกาศผลเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ณ ที่สำนักงานใหญ่ องค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก (APSCO) กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
โดยทีม FIKA ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน นำทีมโดย ผศ.ดร.สุพงษา เขตต์คีรี อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ ตำแหน่ง Instructor นายอนิวัฒน์ ปลอดภัย ตำแหน่ง Researcher ศูนย์วิจัยดาวเทียมไทพัฒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และนายบรรณกร เพชรทวีธรรม ตำแหน่ง Technical Specialist (GIS)นายอนวัตร ทองทา ตำแหน่ง Software Engineer บริษัท อาร์ วีคอนเน็กซ์ จำกัด โดยมี ผศ.ดร.สมพงษ์ เลี่ยงโรคาพาธ หัวหน้าภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน
การแข่งขัน APSCO “Competition on Discovering Historical Cultural Heritage with Eye in Space” คือการแข่งขันการค้นพบมรดกทางวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์โดยใช้อุปกรณ์รับรู้จากอวกาศ ที่เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการรับรู้จากระยะไกล (remote sensing) และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่อวิเคราะห์และค้นหาโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์จากภาพที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญกำหนดให้
ใช้ระยะเวลาการแข่งขัน ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2564 ถึง 7 ม.ค.2565 ซึ่งรวมถึงการฝึก การแข่งขันเบื้องต้น และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ผ่านการนำเสนอในวันที่ 25 ม.ค. 2565 โดยเกณฑ์การตัดสินและการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ การประมวลผลข้อมูลการรับรู้ระยะไกล การตีความซึ่งอิงจากการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม และระบบสามมิติ (3D)/ความเป็นจริงเสมือน (VR)
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ กองกิจการอวกาศแห่งชาติ (อช.) สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สดช.) ได้คัดเลือกตัวแทนประเทศไทย จำนวน 6 ทีม ได้แก่ทีม SPACE OPS จากศูนย์ปฏิบัติการทางอวกาศ กองทัพอากาศ ทีม Super Gang จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทีม KKU-R2G จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทีม FIKAจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ทีม Archaeo Discoveryจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทีม Black & Jack จากมหาวิทยาลัยมหิดล
จากจำนวนผู้เข้าร่วมอบรมมากกว่า 200 คน หลังจากการประเมินรอบแรก มีเพียง 12 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก จากทีมที่เข้าแข่งขันทั้งหมด 68 ทีม จาก 11 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ จีน อียิปต์ อิหร่าน เม็กซิโก มองโกเลีย ปากีสถาน เปรู โรมาเนีย ไทย และตุรกี โดยตัวแทนจากประเทศไทยที่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกมี 2 ทีม คือ ทีม Archaeo Discovery จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทีม FIKA จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ซึ่งทั้งสองทีมได้นำเสนอผลงานการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 25 ม.ค. 2565
APSCO “Competition on Discovering Historical Cultural Heritage with Eye in Space” เป็นการแข่งขันที่ร่วมจัดโดย APSCO กับ International Centre on Space Technologies for Natural and Cultural Heritage (HIST) ภายใต้การอุปถัมภ์ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) บริษัท PIESAT Information Technology Co., Ltd. (PIESAT),
Belt and Road Aerospace Innovation Alliance (BRAIA), Belt and Road Cultural Heritage Global Alliance (BRCHGA) และ Commission on Geoheritage of the International Geographical Union (IGU-COG) โดยรางวัลชนะเลิศเป็นทีมจากประเทศจีน รางวัลที่ 2 คือ ทีม FIKA จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ประเทศไทย และทีมจากประเทศอียิปต์ และรางวัลที่ 3 เป็นทีมจากประเทศปากีสถาน จีนและโรมาเนีย
ความสำเร็จของทีม FIKA ที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศในครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพและความร่วมมือของทีมนักวิจัยคณาจารย์และวิศวกรของมหาวิทยาลัยฯ และภาคอุตสาหกรรมที่มุ่งมั่นพัฒนางานวิจัย สร้างสรรค์แนวคิดและผสมผสานเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เป็นนวัตกรรมระดับโลกได้เป็นอย่างดี และผลงานที่สร้างชื่อของนักวิจัย คณาจารย์และนักศึกษารุ่นพี่เหล่านี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายให้กับนักวิจัยและวิศวกรในรุ่นต่อไป เพื่อสร้างเสริมทักษะและความเชี่ยวชาญอันจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีที่ทรงพลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี