การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2022 มีการดวลแข้งกันตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมทช์ ครั้งที่ 241 ระหว่าง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ดวลกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สนามกูดิสัน พาร์คเวลา 18.30 น.
“ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ลงเล่นมา 5 เกมยังไม่ชนะใคร เสมอ 3 แพ้ 2 นัดล่าสุดบุกเจ๊า “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1 เกมนี้กุนซือ แฟรงค์ แลมพาร์ด ยังเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเล่นงานหลายรายไล่ตั้งแต่ เยอร์รี่ มิน่า, อับดูลาย ดูคูเร่, อันเดรโกเมส, เมสัน โฮลเกต, เบน ก็อดฟรีย์,โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น และแอนดรอสทาวน์เซ่นด์ ข่าวดีจะได้ใช้งาน นีล โมเปย์ หน้าเป้าอาชีพที่ลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ แอนโทนี่ กอร์ดอน จะกลับไปประจำการปีกซ้ายตามที่ถนัด จัดทัพในระบบ 4-5-1 ส่ง อเล็กซ์ อีโวบี้ ไปคุมแดนกลางร่วมกับ อมาดู โอนาน่า และทอม เดวีส์เกมรุกฝั่งขวาใช้ ดไวท์ แม็คนีล
ทีมเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บดเอาชนะ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาแบบสุดระทึก 2-1 กว่าจะได้ประตูชัยต้องรอช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+8 เกมนี้ยังคงเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเล่นงานหลายรายไม่มี อิบราฮิม่า โกนาเต้, นาบี เกอิต้า, ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และรายล่าสุดคือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่วน ดีโอโก้ โชต้า กลับมาซ้อมแล้ว คาดว่า โฌแอล มาติ๊ป ที่มีชื่อสำรองในเกมล่าสุดจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงยืนคู่กับ เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค ในแนวรับ มิดฟิลด์ต้องเข็นแข้งวัยดึกอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาคุมจังหวะเกมร่วมกับ ฟาบินโญ่ และฮาร์วีย์ เอลเลียตต์สามแนวรุกยังใช้ขุดเดิมนำโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์,โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และหลุยส์ ดิอาซ รวมถึงดาร์วิน นูนเญซ พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือก
ขณะที่เวลา 21.00 น.“สิงบลูส์” เชลซีที่ทุ่มซื้อนักเตะมากที่สุดในตลาดซัมเมอร์นี้251 ล้านปอนด์ ทำศึกลอนดอน ดาร์บี้แมทช์ เจอกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยเจ้าถิ่นแพ้เกมที่ 2 ของฤดูกาลด้วยการบุกไปโดน “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ทุบมา 2-1 เกมนี้ยังไม่มี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์คนสำคัญที่บาดเจ็บ เช่นเดียวกับรูเบน ลอฟตัส-ชีค นอกนั้นไม่ปัญหาอะไร ได้คอนอร์ กัลลาเกอร์ พ้นโทษแบนกลับคาดว่าน่าจะได้ลงตัวจริงทันที เช่นเดียวกับเวสลีย์ โฟฟาน่า ปรับทัพมาใช้ 4-3-3จอร์จินโญ่ เป็นตัวโฮลบอลขนาบข้างไปด้วย เมสัน เม้าท์ และคอนอร์ กัลลาเกอร์, สามแนวรุกเลือก ฮาคิม ซีเย็ค ลงมาประสานงานกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ และราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ฝั่งผู้มาเยือน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พัฒนาผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ นัดล่าสุดเปิดบ้านเสมอกับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-1 เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน นาเยฟ อเกิร์ด ที่บาดเจ็บ ส่วน จานลูก้าสกามัคก้า, เบน จอห์นสัน และเคร็ก ดอว์สันยังไม่สมบูรณ์ เดวิด มอยส์ กำลังติดใจในระบบ 3-5-2 ปรับมาแล้วดูดีขึ้น เดแคลน ไรซ์และโทมัส ซูเซ็ค เป็นหัวใจในแดนกลาง โดยมีแข้งใหม่อย่าง ลูคัส ปาเกต้า เป็นตัวสร้างสรรค์เกมป้อนบอลให้กับ มิคาอิน อันโตนิโอ และจาร์ร็อด โบเว่น
ทางด้าน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังคงไม่แพ้ใครลงเล่นมา 5 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 มี 11 คะแนน ล่าสุดบุกเสมอกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 เกมนี้ต้องเตะดาร์บี้ แมทช์ ต่อเนื่องซดกับ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม โดยเจ้าบ้านนั้นรอทดสอบความฟิตของ คริสเตียน โรเมโร่, ลูคัส มูร่า และโรดริโก้ เบนตานคูร์ อาจจะมีการปรับทีมบางตำแหน่ง เคลมองต์ ล็องเล่ต์น่าจะได้รับโอกาสลงเล่นเช่นเดียวกับ แมตต์ โดเฮอร์ตี้, อิฟส์ บิสซูม่า และไรอันเซสเซญง ตำแหน่งเกมรุกฝั่งซ้าย ซน ฮึง มินฟอร์มไม่ดีเลย อาจจะต้องพักบ้างเปิดทางให้ ริชาร์ลิซอน ลงประสานงานกับ แฮร์รี่ เคน และเดยัน คูลูเซฟสกี้
ทีมเยือน “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ถือว่าผลงานใช้ได้เลยทีเดียว ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 เกมล่าสุดหยุดสถิติไม่แพ้ใครบนลีกสูงสุดของไบร์ทตันเอาไว้ที่ 9 เกม ด้วยการบุกชนะ 2-1 นัดนี้ยังไม่มี มานอร์ โซโลม่อนและแฮร์รี่ วิลสัน สองตัวเลือกเกมรุกที่บาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรให้กุนซือ มาร์โก ซิลวา ต้องหนักใจ ยึดระบบการเล่น 4-2-3-1 แฮร์ริสัน รีด และชูเอา ปาลินญ่า กำลังจับคู่แดนกลางได้อย่างลงตัว แผงเกมรุกใช้ บ๊อบบี้ เด คอร์โดว่า-รีด, อันเดรียสเปเรยร่า และนีสเก้น เกบาโน่ โดยมีอเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ที่กำลังฟอร์มฮอต5 นัด 5 ประตูลงล่าตาข่าย
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด สเปอร์ส เหนือกว่าเยอะพวกเขาไม่แพ้เลย เอาชนะได้ 4 และเสมอ 1
คู่สำคัญอีกคู่ปิดท้ายคืนวันเสาร์ เวลา 23.30 น. “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ที่แพ้มา 3 เกมติด ต้องเจอกับ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าที่ฟอร์มแรงสุดๆ โดยเจ้าถิ่นนั้นสถานการณ์ของตัวกุนซืออย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด เข้าขั้นโคม่าเลยทีเดียว มีโอกาสสูงที่จะเป็นผู้จัดการทีมรายต่อไปที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เกมล่าสุดบุกพ่ายให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 2-1 เกมนี้ไม่มี ดีเอโก้ คาร์ลอส แนวรับที่บาดเจ็บต้องพักยาว ส่วนตัวใหม่ที่เสริมเข้ามาในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะมี เลอันเดอร์ เดนดอร์คเกอร์ และแยน เบ็ดนาเร็ค มีลุ้นได้ลงสนามทันที มาในระบบ 4-3-3 นำทัพโดย จอห์น แม็คกินน์,บูบาการ์ กามาร่า, ดั๊กลาส ลุยซ์, เลออน ไบลีย์, โอลลี่ วัตกิ้นส์ และฟิลิปเป้ คูตินโญ่
“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังฟอร์มแรง 5 เกมชนะ 4 เสมอ 1 ล่าสุดเพิ่งถล่มเอาชนะ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 6-0 เกมนี้ยังไม่มี อายเมริค ลาปอร์ก และคาลวิน ฟิลิปป์ส ที่บาดเจ็บ ส่วนนาธานเอเก้ และแจ็ค กรีลิช รอทดสอบความฟิตเควิน เดอ บรอยน์ ที่ได้พักจะกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วน โรดรี้ น่าจะได้พักใช้ อิลคายกุนโดกัน และแบร์นาร์โด้ ซิลวา สามแนวรุกวาง ริยาด มาห์เรซ และฟิล โฟเด้น ขึ้นเกมริมเส้นสองฝั่ง โดยมี เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ ที่ซัดแฮตทริกมา 2 เกมติดเป็นตัวจบสกอร์
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯซิตี้ เอาชนะได้ทั้งหมด ยิงไป 11 ประตู เสีย 5 ลูก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี