“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มอีกครั้งหลังจากเปิดบ้านเอาชนะ นาโปลี ทีมไร้พ่ายแห่งปีจากอิตาลี ไปได้ 2-0 จากการทำประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และดาร์วิน นูเญซ สองกองหน้าคนสำคัญ ทำให้ทั้งสองทีมผ่านเข้ารอบไปด้วยกัน แต่ นาโปลี เฮด ทู เฮด ดีกว่า จึงเข้าเป็นอันดับ 1 ในสาย
ภายหลังเกม เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เปิดเผยว่า ชัยชนะทุกนัดสำคัญอย่างมาก และที่สำคัญก็คือพวกเราสนุกกับเกม พร้อมกับมีการปรับแผนมาใช้ระบบเดิมคือ 4-3-3 อีกครั้ง ก่อนจะเลือกแผนปัจจุบันคือ 4-4-2 ในช่วงท้ายเพื่อกดดันคู่แข่งจนได้ประตู
“ผมสนุกกับเกมนี้ ต่อให้เรายิงไม่ได้ผมก็ยังสนุกอยู่ดี แน่นอนว่าประตูที่เรายิงได้มีความสำคัญโดยนักบอลของเราตอบสนองได้ดีมาก และการเล่นอย่างเหนียวแน่นคือความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการเล่นลักษณะแบบนี้ มันสร้างความแตกต่างได้จริงๆ โดยเฉพาะการเข้าแย่งบอล การวิ่งในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้คู่แข่งจะยากต่อการรับมือ”
คล็อปป์กล่าวถึงแผนการเล่นว่า หลังจากใช้แผน 4-4-2 ไดมอนด์ ทำให้เกมนี้ตัดสินใจเปลี่ยนแผน เนื่องจากต้องการกลับไปในจุดที่เริ่มต้นเล่นกันอย่างพื้นฐาน ดังนั้น แพลน 4-3-3 จึงกลับมาอีกครั้ง โดยอยากให้ทุกคนสตาร์ทกันใหม่ กับจุดสตาร์ทที่เริ่มต้นทุกอย่าง ซึ่งตัวเขาพอใจในการเล่นอย่างมาก
ซึ่ง คล็อปป์ กลายเป็นกุนซือที่คุมทัพลิเวอร์พูล ครบ 400 นัด เป็นคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ทีม ขณะที่ โม ซาลาห์ ยิงได้ 5 เกมติดต่อกันในแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรก กลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลนี้ด้วยจำนวน 7 ประตู และเท่ากับสถิติของสตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ 41 ประตูในยุโรป ของลิเวอร์พูล
ฟากฝั่งของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ เทรนเนอร์ นาโปลี ระบุว่า ดูเหมือนพวกเราต้องการผลเสมอมากเกินไป หลังจากผ่านไปสักพักแล้วน่ะผมก็รู้สึกว่าทีมของผมมีท่าทีพอใจกับผลเสมอนิดหน่อยดังนั้น ผมเลยทำการเปลี่ยนแปลงด้วยการพยายามทำให้ทีมเล่นกันรวดเร็วและมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่มันก็ไม่มากพอ โดย ลิเวอร์พูล คุ้นเคยมากกว่าเราในด้านการรักษาระดับการเล่นที่ดุดันและความเร็วเอาไว้ได้เป็นเวลา 90 นาที
ทางด้าน “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อีกหนึ่งทีมดังของอังกฤษ ฝ่าวิกฤตเข้าสู่รอบต่อไปได้อย่างสุดระทึก
หลังจากบุกไปชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย ที่ฝรั่งเศส 2-1 โดยตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนในครึ่งแรก แต่จากนั้นมาตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 54 จาก เกลมองต์ ลองเลต์ ตามด้วยประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+5 จากกองกลางพันธุ์ระห่ำ ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ก ทำให้ทีมชนะและเข้ารอบไปกับ แฟร้งค์เฟิร์ต จากเยอรมนี ที่บุกไปสยบ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-1 เช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี