‘บราซิล’ปึ้ก!

ขี่‘โครแอต’8ทีมบอลโลก

‘ฟ้าขาว’ฉะดัทช์สถิติสูสี

กสทช.เรียกเงินกกท.คืน600ล.

การแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 22 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นเจ้าภาพ เดินทางมาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคมนี้

หลังจากพักไป2วัน โดยจะแข่งขัน2คู่เริ่มคู่แรกในเวลา 22.00น.“แซมบ้า”ทีมชาติบราซิล แชมป์โลก 5 สมัย และเต็ง 1 ที่รอคอยแชมป์มา 20 ปี จะดวลกับ “ตาหมากรุก” ทีมชาติโครเอเชีย รองแชมป์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ดวลกันที่เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม ในอัล รายยัน ถ่ายทอดสด ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทรูสปอร์ต 2

ความพร้อมเกมนี้ “แซมบ้า” เต็ง 1 ที่จะยึดแชมป์ในทัวร์นาเมนต์นี้ จัดการถล่ม “โสมขาว” เกาหลีใต้ มาแบบสบายๆ 4-1 ยิงเข้าเต้นกันทุกลูกในรอบ 2 ทีมของ ตีตี้ ไม่มี กาเบรียล เฮซุส และอเล็กซ์ เตลลิส ที่บาดเจ็บปิดฉากบอลโลกไปแล้ว ในรายของ อเล็กซ์ ซานโดร ยังต้องรอทดสอบความฟิต หากไม่พร้อม ดานิโล่ จะได้ประจำการแบ็คซ้ายเหมือนเดิม ที่เหลืออยู่กันครบมาในระบบ 4-2-3-1 เพื่อความหลากหลายในเกมรุก โดยถอยเอา ลูคัส ปาเกต้า ลงไปคุมแดนกลางร่วมกับ คาเซมิโร่ โดยมี ราฟินญ่า, เนย์มาร์ และวินิซิอุส จูเนียร์ ประสานงานในแนวรุก พร้อมกับวาง ริชาร์ลิซอน ยืนเป็นหน้าเป้า

ฟากฝั่ง “ตาหมากรุก” ผ่านเข้ารอบมาแบบสะบักสะบอมตามสไตล์ ต้องดวลจุดโทษกว่าจะเอาชนะ “ซามูไรบลูส์” ญี่ปุ่น เข้ามาได้แบบจวนเจียน ซึ่งก็เหมือนกับ 4 ปีก่อนที่พวกเขาต่อเวลาทุกนัดถึง 3 รอบติดต่อกัน โดยเกมนี้ต้องรอทดสอบความฟิตของ โยซิป สตานิซิซ แบ็กขวาดาวรุ่งจากบาเยิร์น มิวนิค เพียงรายเดียว เพราะ บอร์นา โซซ่า แบ็คซ้ายหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว น่าจะกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง นอกนั้นไม่มีอะไรให้กุนซือ ชลัตโก้ ดาลิช ต้องกังวล ยึดระบบการเล่น 4-3-3 นำโดยตัวเก๋าอย่าง ลูก้า โมดริช ที่จะลงคุมแดนกลางร่วมกับ มาร์เซโล่ โบรโซวิช และมัตเตโอ โควาซิซ สามแนวรุกน่าจะกลับมาใช้ มาร์โก ลิวาย่า เป็นหน้าเป้า โดยมี อังเดรย์ ครามาริช และอีวาน เปริซิซ เป็นตัวขึ้นเกมด้านข้าง ส่วนแนวรับคู่เซ็นเตอร์แบ๊ก , เดยัน ลอฟเรน กับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ถือเป็นจุดแข็งของทีมชุดนี้ ทำให้พวกเขาเสียแค่ 2 ประตูเท่านั้นจาก 4 เกมแรก

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม เคยดวลมา 4 ครั้ง ในทุกรายการ บราซิล ไม่เคยแพ้ ชนะได้ 3 เสมอ 1 โดยเฉพาะในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เจอกัน 2 หนในปี 2006 “แซมบ้า” เฉือน 1-0 และปี 2014 ถล่ม 3-1 ในเกมนัดเปิดสนามที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ 11ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม บราซิล (4-2-3-1): อลิสซอน เบ็คเกอร์, เอแดร์ มิลิเตา, มาร์ควินญอส, ติอาโก้ ซิลวา, ดานิโล่, ลูคัส ปาเกต้า, คาเซมิโร่, ราฟินญ่า, เนย์มาร์, วินิซิอุส จูเนียร์ และริชาร์ลิซอน โครเอเชีย (4-3-3): โดมินิค ลิวาโควิช, โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซ่า, ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มัตเตโอ โควาซิซ, อังเดรย์ ครามาริช, มาร์โก ลิวาย่า และอีวาน เปริซิซ

จากนั้นในเวลา 02.00 น.รีแมทช์นัดชิงฟุตบอลโลก 1978 “อัศวินสีส้ม” ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ รองแชมป์โลก 3 สมัย พบกับ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนติน่า แชมป์โลก 2 สมัย ที่ลูเซิ่ล ไอคอนิค สเตเดี้ยม ในลูเซิ่ล ถ่ายทอดสด ทาง JKN ช่อง 18 และทรูสปอร์ต 2

“อัศวินสีส้ม” ทัวร์นาเมนต์นี้มาดี โดยเฉพาะเกมรับที่เล่นได้อย่างเหนียวแน่น ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน ฮาล นัดที่แล้วถล่ม สหรัฐอเมริกา 3-1 ตามรายงานไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน เรียกได้ว่าแกนหลักที่ไม่ฟิตในระหว่างทัวร์นาเมนต์ตอนนี้กลับมาเป็นตัวเลือกได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการจัดตัวของ หลุยส์ ฟาน ฮาล กุนซือจอมแทคติค ที่ไม่เคยแพ้ในเวลาของการคุมทัพบอลโลก คาดว่า ฟาน ฮาล จะยึดแผนเดิม 3-4-1-2 แต่กำลังตัดสินใจขั้นสุดท้ายในตำแหน่งแดนกลางว่า จะเลือกใครลงเล่นร่วมกับ เฟร็งกี้ เดอ ยอง คาดว่าจะเป็น มาร์เท่น เดอ รูน กับ ดาวี่ คลาสเซ่น ที่จะเบียดลงสนาม ขณะที่แนวรับ เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค เป็นหัวใจหลัก ส่วนแนวรุก เมมฟิส เดปาย และโคดี้ กั๊คโป ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตู จะประสานงานกันเพื่อล่าตาข่าย

ฝั่ง “ฟ้าขาว” ค่อย ๆ ยกระดับการเล่นขึ้นมาในแต่ล่ะเกมได้อย่างน่าสนใจสุด ๆ นัดที่ผ่านมาเฉือน ออสเตรเลีย 2-1 เกมนี้ไม่น่าจะได้ใช้งาน ปาปู โกเมซ แนวรุกร่างเล็กที่บาดเจ็บข้อเท้า แต่ยังมีข่าวดีเมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย หายเจ็บกล้ามเนื้อกลับมาเรียกความฟิตอย่างหนัก หวังที่จะคืนตัวจริง อย่างไรก็ตาม โรดริโก้ เด ปอล กองกลางคนสำคัญมีอาการบาดเจ็บ ต้องลุ้นจนถึงหยดสุดท้ายว่าจะได้เล่นหรือไม่ คาดว่า ลีโอเนล สกาโลนี่ กุนซือหนุ่ม จะจัดทัพในระบบ 4-3-1-2 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ยืนเป็นห้องเครื่องคอยแจกบอล ขนาบข้างไปด้วย โรดริโก้ เด ปอล ในกรณีฟิตทัน และอเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ โดยมี ลีโอเนล เมสซี่ เป็นผู้นำในเกมรุกประสานงานกับ อังเคล ดิ มาเรีย และฆูเลี่ยน อัลบาเรซ

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม เคยดวลมา 9 ครั้ง ในทุกรายการ ถือว่าสูสีสุด ๆ เนเธอร์แลนด์ ชนะได้ 4 เสมอ 2 และอาร์เจนติน่า ชนะ 3 ส่วนการเจอกันในฟุตบอลโลก 5 ครั้งด้วยกัน “อัศวินสีส้ม” ชนะ 2 เสมอ 1 การพ่ายแพ้ครั้งเดียวของพวกเขาคือเกมนัดชิงชนะเลิศ 1978 โดย อาร์เจนฯ กำชัยในช่วงต่อเวลา 3-1 พร้อมกับได้แชมป์โลกเป็นสมัยแรก

11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เนเธอร์แลนด์ (3-4-1-2): อันดรีส น็อปเพิร์ท, เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, นาธาน อาเก้, เดนเซล ดุมฟรีส์, มาร์เท่น เดอ รูน, แฟรงกี้ เดอ ยองก์, ดาลีย์ บลินด์, ดาวี่ คลาสเซ่น, เมมฟิส เดปาย และโคดี้ กั๊คโป อาร์เจนติน่า (4-3-1-2): เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ, นาฮูเอล โมลีน่า, คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, มาร์กอส อคุนญ่า, โรดริโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์, ลีโอเนล เมสซี่, อังเคล ดิ มาเรีย และฆูเลี่ยน อัลบาเรซ

ขณะเดียวกัน การประชุมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ด กสทช.) มีการประชุมเรื่องเกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย ในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 รอบสุดท้าย นั้น ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เรียกเงินคืนเงิน 600 ล้านบาทจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และให้คืนเงินภายใน 15วัน ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณี กสทช.ส่งหนังสือด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้ว่าการ กกท.เรื่องให้ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก โดย กกท.จะต้องดำเนินการตามกฎมัสต์แครี่ ให้กล่องไอพีทีวีถ่ายทอดบอลโลกได้ มิเช่นนั้น กกท.จะต้องจ่ายเงินคืนแก่สำนักงาน กสทช.600ล้านบาท ภายใน 15วัน นับแต่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือ พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ5ต่อปี (หากมี)