ฟ้าขาวชนโครแอตตัดเชือก!
‘เมสซี่’ฉุนจวกกุนซือดัทช์ยับ
‘เนย์มาร์-ติเต้’อำลาแซมบ้า
ทัพ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ยังเดินหน้าผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ หลังต่อเวลาดวลจุดโทษเอาชนะ “อัศวินสีส้ม” ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 4-3 (เสมอในเวลา 120 นาที 2-2) โดยจะเข้าไปดวลกับ “ตาหมากรุก” ทีมชาติโครเอเชีย ที่หักปากกาเซียน เอาชนะ“แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล เต็ง 1 ของรายการ ในการดวลจุดโทษ 3-1(เสมอในเกม 1-1)
โดยเกมที่สนาม ลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดี้ยม เมื่อวันเช้าวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค. (ตามเวลาประเทศไทย) อาร์เจนติน่า ได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จาก นาอูเอล โมลินา นาที 35 ก่อนที่จะได้จุดโทษและเป็น ลีโอเนล เมสซี่ ยิงเข้าไปในครึ่งหลังนาที73 อย่างไรก็ตามช่วงท้ายเกม เนเธอร์แลนด์ ยังไม่ยอมง่าย ๆ เมื่อมาได้ประตูตีไข่แตกในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 83 จากลูกโหม่งของ วูท เวกฮอร์สต์ ก่อนจะดราม่าตีเสมอช่วงทดเจ็บนาที 90+10 จากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษที่ เทิน คูปไมเนอร์ส เลือกเล่นสั้นจ่ายเรียดให้ เวกฮอร์สต์ จับแล้วยิงด้วยซ้ายเป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ ทำให้จบเกม 90 นาที เสมอกันไป 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที ซึ่งก็ยังไม่มีประตูเพิ่มเติม ก่อนจบ 120 นาทีด้วยสกอร์ 2-2 เท่าเดิม ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
ก่อนที่ช่วงดวลจุดโทษจะกลายเป็นอาร์เจนตินาที่ยิงแม่นกว่าเอาชนะไปได้ 4-3 ตีตั๋วผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ไปพบกับโครเอเชีย ในวันอังคารที่ 13 ธันวาคมนี้ได้สำเร็จ
ภายหลังเกม ลีโอเนล สกาโลนี่ กุนซือทัพ “ฟ้าขาว” เผยว่า “ทีมชุดนี้มีสปิริตที่พร้อมเผชิญหน้าในทุกสถานการณ์ ส่วนตัวผมมองว่าเราไม่ควรต้องไปลุ้นถึงจุดโทษนะ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงบุคลิก เราครองเกมเอาไว้ได้ แต่ฟุตบอลก็แบบนี้ แม้ตอนที่คุณคิดว่ามันจบไปแล้ว เราคิดถึงการบุกอยู่เสมอไม่สำคัญว่าพวกเขาจะพูดอะไร เกมนี้ค่อนข้างสูสีและยากสำหรับเราโดยเฉพาะครึ่งหลัง อย่างไรก็ตาม เราพอใจมากๆ เราแสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์มากมายในฟุตบอลโลกครั้งนี้”
พร้อมกันนี้แมตช์ดังกล่าว ยังได้กลายเป็นสถิติใหม่ที่มีผู้เล่นและโค้ชโดนใบเหลืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกทั้งหมด 17 ใบ แบ่งเป็นผู้เล่นของของทั้งสองฝั่งเท่ากันที่ฝั่งล่ะ 8 ใบ รวมกับกุนซืออย่าง ลีโอเนล สกาโลนี่ ของอาร์เจนติน่าอีก 1 ใบ
ซึ่ง ลีโอเนล เมสซี่ จอมทัพกัปตันทีม ก็เผยถึงจังหวะเดือดหลังยิงจุดโทษให้ทีมออกนำ 2-0 โดยเจ้าตัวไปแสดงอาการดีใจหน้าซุ้มม้านั่งสำรองของ เนเธอร์แลนด์ด้วย “ผมบอกตรงๆว่า ผมไม่เคารพ ฟาน กัล ก่อนเกมเขาดูพูดเยอะและนักเตะเนเธอร์แลนด์หลายคนก็พูดมากเกินไป ฟาน กัล พยายามขายของว่าทีมของตัวเองเล่นฟุตบอลได้ดีนักดีหนา แต่ดูเหมือนผมจะเห็นแต่การโยนบอลยาวในเกมนี้เท่านั้น ชัดเจนว่าเกมนี้เราสมควรเป็นผู้ชนะ และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น”
ทางด้าน หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือเนเธอร์แลนด์ ก็ยืนยันว่าเขาจะลงจากตำแหน่งอย่างแน่นอน หลังไม่สามารถพาทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งความพ่ายแพ้ในเกมนี้ของ เนเธอร์แลนด์ ถือเป็นการพ่ายจุดโทษต่อ อาร์เจนติน่า เป็นหนที่สองของพวกเขา หลังจากปี 2014 ก็เคยแพ้ในการดวลเป้าในรอบรองชนะเลิศ
สำหรับ หลุยส์ ฟาน กัล คุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ มาแล้ว 3 ครั้ง หนแรกคือในช่วงระหว่างปี 2000-2002 หลังคุมทีมไม่ผ่านรอบคัดเลือกอดไปเล่นฟุตบอลโลก 2002 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ หลังจากนั้นอีก 10 ปีต่อมา (2012) ได้กลับมาคุมอีกครั้งลุยฟุตบอลโลก 2014 ตกรอบรองชนะเลิศด้วยการพ่ายจุดโทษให้กับ อาร์เจนติน่า หลังเสมอกันในเวลาปกติ 0-0 และครั้งล่าสุดคือปี 2021 เข้ามาทำงานแทนที่ของ แฟรงค์ เดอ บัวร์ หลังทัวร์นาเมนต์ยูโร 2020
ส่วน เนย์มาร์ แนวรุกคนสำคัญของทัพ “แซมบ้า” บราซิล ที่ยิงประตูได้ในเกมล่าสุด ทำให้เขายิงในนามทีมชาติบราซิลไปแล้ว 77 ประตู จากการลงเล่น 124 นัด เทียบเท่ากับสถิติสูงสุดของตำนานอย่าง เอ็ดสัน อรานเตส โด นาสซีเมนโต้ หรือ “ไข่มุกดำ” เปเล่ ได้เปิดใจว่าเขายังไม่การันตีว่าในอนาคตจะเล่นให้กับทีมชาติต่อไปหรือไม่ หลังเพิ่งอกหักตกรอบฟุตบอลโลก 2022
“มันยากที่พูดออกมาในตอนนี้ ผมไม่อยากพูดอะไรในตอนที่กำลังอ่อนไหว ผมไม่ได้ปิดประตูในการเล่นทีมชาติ แต่ผมไม่สามารถการันตีได้ 100 % ว่าจะกลับมา ต้องใช้เวลาคิดในการทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ อะไรคือสิ่งที่ถูกต้องสำหรับตัวผมเองและทีมชาติ มันเป็นเรื่องของอนาคต” ซูเปอร์สตาร์จาก เปแอสเช กล่าว
ขณะเดียวกัน ติเต้ กุนซือทีมชาติบราซิล ยืนยันว่าเขาจะออกจากตำแหน่งหลังพาทีมตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก จากการแพ้จุดโทษ โครเอเชีย
“ตามที่ผมเคยพูด เวลาของผมจบแล้ว ผมเคยพูดไว้เมื่อปีครึ่งก่อน ผมรักษาคำพูดตัวเอง เราไม่ควรสร้างดราม่าอย่างที่ผมพูดเมื่อปีครึ่งที่แล้ว มีมืออาชีพที่ยอดเยี่ยมคนอื่นๆ ที่สามารถแทนผมได้ อาจมีหลายองค์ประกอบให้วิเคราะห์ แต่เวลามันหมดแล้ว”
ทั้งนี้ ติเต้ มีสถิติคุมทีมชนะ 61 จากทั้งหมด 81 นัดนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีม โดยแพ้เพียง 7 เกมเท่านั้น
ปิดท้ายที่ ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือทีมชาติโครเอเชีย กล่าวว่านี่ถือเป็นชัยชนะสำหรับคนโครเอเชียทั่วทุกมุมโลก หลังสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ได้อีกหน “ผมต้องขอแสดงความยินดีกับเหล่าลูกทีมของผม พวกเขาเล่นได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย และเราก็เขี่ยตัวเต็งแชมป์อันดับ 1 ร่วงไปได้ ผมรู้สึกภูมิใจมากๆ แต่นี่ยังไม่ใช่ตอนจบหรอกนะ เราจะเดินหน้ากันต่อไป นี่เป็นชัยชนะสำหรับทุกคน มันเป็นชัยชนะสำหรับทุกคนที่ทุ่มเทกันอย่าง นี่เป็นชัยชนะสำหรับคนโครเอเชียนทุกคน โครเอเชีย เข้าถึงรอบรองชนะเลิศของ ฟุตบอลโลก ได้ถึง 2 ครั้งทั้งที่มีประชากรเพียงแค่ราว 3 ล้านคน “ดาลิช
สำหรับโปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ จะมีขึ้นในอังคารที่ 13 ธ.ค. และพุธที่ 14 ธ.ค. นี้ เริ่มฟาดแข้งในเวลา 02.00น. ทั้งสองคู่เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี