‘อาร์เจนตินา’แชมป์โลก!

‘เมสซี่’ซิวแข้งยอดเยี่ยม

ยันชัดไม่รีไทร์ขอเล่นต่อ

‘เอ็มบัปเป้’ครองดาวซัลโว

“ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ยุติการรอคอย 36 ปี ผงาดคว้าดาวดวงที่ 3 หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 มาครองได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศสได้แบบสุดระทึกในการดวลจุดโทษ 4-2 (เสมอใน 120 นาที 3-3) ที่สนาม ลูซาอิล สเตเดี้ยม ประเทศ กาตาร์

โดยเกมนี้ “ฟ้าขาว” ออกนำไปก่อน 2-0 ในครึ่งแรกจากจุดโทษของ ลีโอเนล เมสซี่ นาที 23 และ อังเคล ดิ มาเรีย นาที 36 อย่างไรก็ตามในครึ่งหลังเข้าสู่ช่วงท้ายเกมนาที 80 คีเลียน เอ็มบัปเป้ มายิงจุดโทษตีไข่แตก 1-2 ก่อนที่อีกเพียงนาทีเดียว เอ็มบัปเป้ คนเดิมจะยิงวอลเลย์สุดสวยไล่เจ๊าเป็น 2-2 จบ 90 นาทีต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

ปรากฏว่าว่า อาร์เจนติน่า มาได้ประตูออกนำ 3-2 อีกครั้งจาก เมสซี่ ในนาที 108 แต่ทัพ “ตราไก่” ก็สู้ยิบตาก่อนมาได้จุดโทษจาก เอ็มบัปเป้ ในนาทีที่ 119 นับเป็นแฮททริคคนแรกในเกมรอบชิงชนะเลิศ จ่อจาก เซอร์ เจฟฟ์ เฮิร์สต กองหน้าทีมชาติ อังกฤษ ที่ทำไว้ในเกมชนะ เยอรมนี เมื่อปี 1966 หรือเมื่อ 56 ปีที่แล้ว ทำให้จบเกม 120 นาที เสมอกัน 3-3 ต้องดวลจุดโทษตัดสินและเป็น อาร์เจนติน่า ที่ยิงได้แม่นกว่าเข้าหมดทั้ง 4 คน เอาชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ 4-2 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ นับตั้งแต่ทำได้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 1986

ภายหลังเกม เมสซี่ ที่คว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้เปิดใจว่านี่คือวันที่เขารอคอยมาชั่วชีวิตการค้าแข้ง “มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ ผมอยากปิดฉากการค้าแข้งของตัวเองด้วยตำแหน่งแชมป์โลก และผมคงไม่สามารถขออะไรไปได้มากกว่าอีกแล้ว อาชีพของผมมันใกล้จบลงและนี่จะเป็นปีสุดท้ายของผม

ผมเคยบอกไว้ว่าพระเจ้าจะมอบสิ่งนี้ให้และมันก็มาในครั้งนี้ ตอนนี้เรามีความสุขกับมันจริงๆ ผมแทบอดใจรอที่จะเดินทางกลับไปยังอาร์เจนตินาไม่ไหว เพราะอยากจะเห็นว่า มันจะบ้าคลั่งกันแค่ไหนเมื่อไปถึงที่นั่น”

พร้อมกันนี้ สุดยอดดาวเตะวัย 35 ปียังเผยด้วยว่าจะยังไม่รีไทร์จากทีมชาติในเวลานี้ “ผมตั้งใจที่จะเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนตินาต่อไปอีกระยะหนึ่ง ผมคว้าแชมป์โคปา อเมริกา และฟุตบอลโลกได้ในเวลาอันสั้น และผมต้องการลงเล่นต่อไปอีกในฐานะแชมป์โลก ผมเคยเจ็บปวดจากฟุตบอลโลก แต่ตอนนี้ถ้วยแชมป์โลกอยู่ในมือผมแล้ว”

อนึ่ง เมสซี่ คว้าแชมป์ทุกรายการที่เคยลงเล่นได้ครบทั้งหมดแล้ว มีดังนี้ 1 แชมป์โลก (2022) ,1 แชมป์ทวีป (โคปา อเมริกา 2021) ,1 แชมป์ระหว่างทวีป (ฟินาลิสม่า) ,1 แชมป์โอลิมปิก เกมส์ (2008) ,1 แชมป์โลก ชุดเยาวชน (ยู-20 ปี 2005) ,10 แชมป์ ลา ลีกา สเปน ,7 แชมป์ โกปา เดล เรย์ สเปน ,1 แชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ,4 แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ,3 แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ,3 แชมป์ สโมสรโลก

ทางด้าน ลีโอเนล สกาโลนี่ กุนซือทีมชาติ อาร์เจนติน่า วัย 44 ปียอมรับว่า ไม่คิดฝันว่าจะพาทัพบ้านเกิดคว้าแชมป์เวิลด์คัพ แต่เป็นเพราะความยอดเยี่ยมของลูกทีม

“แมตช์นี้มันบ้าคลั่ง สำหรับผม ในฐานะโค้ช ผมรู้ว่าเรามีเกมที่ดี เราน่าจะชนะได้ใน 90 นาทีแรก อย่างไรก็ตาม เราไม่มีโชคมากพอ เรามีผลงานที่ยอดเยี่ยมในนัดนี้ ผมมีความรู้สึกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา นี่ไม่ได้อยู่ในแผนของผม ผมไม่ได้คิดฝันว่าจะเป็นผู้ชนะในฟุตบอลโลก แต่ตอนนี้เราเป็นแล้ว และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราสามารถประสบความสำเร็จได้ “

ทั้งนี้ สกาโลนี่ กลายเป็นผู้จัดการทีมอายุน้อยที่สุด ที่พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในรอบ 44 ปี นับตั้งแต่ เซซาร์ หลุยส์ เมน็อตติ เคยพา อาร์เจนตินา ได้แชมป์โลกในปี 1978 ด้วยวัยเพียง 39 ปี พร้อมกันนี้ยังเป็นกุนซือคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และได้แชมป์โกปา อเมริกา ต่อจาก มาริโอ ซากัลโล่ กับ คาร์ลอส อัลแบร์โต้ เปร์ไรร่า สองเฮดโค้ชทีมชาติบราซิล

พร้อมกันนี้ก็ได้มีการประกาศผลรางวัลต่างๆ ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ปรากฏว่ารางวัลลูกบอลทองคำหรือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ตกเป็นของ เมสซี่ ที่ยิง 7 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ ส่วนรางวัลรองเท้าทองคำหรือรางวัลดาวซัลโว ตกเป็นของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้า “ตราไก่” ซึ่งซัดไปทั้งหมด 8 ประตู

ขณะที่รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม เป็นของนายด่านอาร์เจนไตน์ อย่าง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ และดาวรุ่งยอดเยี่ยม เอนโซ่ เฟอร์นันเดซ จาก อาร์เจนติน่า เช่นกัน

สำหรับ ฟุตบอลโลก ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปี 2026 ที่ทวีปอเมริกาเหนือ โดยจะมีเจ้าภาพร่วมกันถึง 3 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งฟุตบอลโลก 2026 จะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันถึง 48 ชาติ สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ โดย ฟีฟ่า ได้ตัดสินใจเพิ่มทีมในการแข่งขันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี1998