ฟอร์มสุด : แฮร์รี่ เคน หัวหอกทีมชาติอังกฤษ ของ ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ เริงร่ากับผลงานพังสองประตูให้ทีมบุกชนะ คริสตัล พาเลซ สบายแข้ง 4-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค กรุงลอนดอน
แฮร์รี่ เคน สร้างประวัติการณ์สำคัญเพิ่มเติมเรื่องสถิติ และช่วย “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้อีกครั้ง หลังจากเกมพรีเมียร์ลีกครึ่งแรกที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ของ “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ นั้น สเปอร์ส มีปัญหา และดูเหมือนจะไร้ชัยชนะต่อไปนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก ปรากฏว่า เคน ก็สร้างความแตกต่างขึ้น
เคน พังได้สองประตูต่อเนื่อง ก่อนที่สเปอร์ส จะปิดเกมด้วยสกอร์ 4-0 ขยับเข้าใกล้ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 4 อยู่สองแต้ม
เคน ลงสนามเป็นเกมที่ 300 ในพรีเมียร์ลีกและยิงประตูได้รวมเป็น 198 ลูก ทุบสถิติของ “ฮอตช็อต” อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิงทีมชาติอังกฤษของ เซาท์แธมป์ตัน, แบล็คเบิร์น และนิวคาสเซิ่ล ที่เคยทำไว้ 196 ลูกในการลงสนาม 300 นัด
ที่สำคัญก็คือ เขายิงไปแล้ว 264 ประตู นำพาเขาไปเข้าใกล้สถิติตลอดกาลของสโมสรที่ จิมมี่ กรีฟส์ ที่เคยยิงเอาไว้ให้ทีม 264 ประตูที่ลงเล่นให้ทีมระหว่างปี 1961 ถึง 1970 พร้อมกับ เป็นเพียงผู้เล่นคนที่ 2 ต่อจาก เท็ดดี้เชอริงแฮม ที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกนัดที่ 100, 200 และ 300 ที่ลงสนาม
“มันยอดเยี่ยมอยู่เสมอเมื่อคุณพูดถึงผู้เล่นในตำนาน” เคน กล่าวกับ BBC Sport “ผมต้องเดินหน้าต่อไป ผมรู้สึกสดชื่นและฟิตสมบูรณ์ หวังว่าจะสามารถจบฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่ง”
ตอนนี้ เคน เป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับ 3นับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกก่อตั้งขึ้นในปี 1992 รองจากเชียเรอร์ ที่ยิงไว้ 260 และ เวย์น รูนี่ย์ ที่ 208 ประตู
สื่อมวลชนอังกฤษ ได้ยกเครดิตให้กับทีมบริหารของ สเปอร์ส ที่รั้งตัว เคน เอาไว้ได้เมื่อ 18 เดือนก่อน หลังจากถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามเซ็นสัญญากับเขานั้นด้วยเงินก้อนโต ทำให้นับเป็นปีปฏิทินที่ 11 ที่ เคน สามารถพังประตูให้กับทีมได้สำเร็จ ดีกว่าการเซ็นสัญญาใดๆ ที่พวกเขาสามารถทำได้
นอกจากนี้ เคน ยังทำประตูได้แล้ว 16 ประตู ในทุกรายการในฤดูกาลนี้
ทางด้านศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 3 ประเดิมเตะคู่แรก วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม 2022 “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เวลา 03.00 น.
“ปีศาจแดง” หลังจากพักเบรกฟุตบอลโลกชนะมา 4 เกมติดในทุกรายการ ล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านถล่ม บอร์นมัธ 3-0 เกมนี้ยังคงไม่มี เจดอน ซานโช่ แนวรุกที่ยังไม่พร้อม ส่วน ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค เดี้ยงมาจากเกมที่ผ่านมา มีแววจะต้องพักยาว นอกนั้นไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะ ลิซานโดร มาร์ติเนซ และดีโอโก้ ดาโลท์ ต่างก็กลับมาหมดแล้ว คาดว่า เอริค เทน ฮาก ยังยึดระบบ 4-2-3-1 วาง คาเซมิโร่ คุมแดนกลางร่วมกับ คริสเตียน เอริคเซ่น แนวรุกมี อเลฮานโดรการ์นาโช่, บรูโน่ เฟอร์นานเดส และมาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นตัวปั้นเกมป้อนบอลให้กับหน้าเป้า อองโตนี่ มาร์กซิยาล
ทีมเยือน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตันยังไม่ชนะใครเลยหลังพักเบรกฟุตบอลโลกแพ้ไป 3 เสมอ 1 ล่าสุดโดน ไบรท์ตัน บุกมาถล่มคารัง 4-1 มีข่าวลือเกี่ยวกับการปลดโค้ชแต่บอร์ดบริหารของทีมยังคงเชื่อมั่นในตัว แฟรงค์ แลมพาร์ด เกมนี้ยังไม่มี เจมส์ การ์เนอร์,ไมเคิ่ล คีน, แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ และเนธาน แพตเตอร์สัน ที่บาดเจ็บ แต่จะได้ แอนโธนี่กอร์ดอน ที่หายป่วยกลับมาเป็นตัวเลือกในแนวรุก ที่เหลือถือว่าอยู่กันครบ นำโดยอเล็กซ์ อีโวบี้, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, อมาดูโอนาน่า, ดไวท์ แม็คนีล, โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น และเดมาไร เกรย์
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯยูไนเต็ด ชนะได้ 2 เสมอ 2 และเอฟเวอร์ตัน ชนะ 1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี