อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หมดความอดทน ออกมาวิจารณ์ลูกทีมทัพ “ไก่เดือยทอง” ว่าขาดแพสชั่นแห่งความเป็นนักสู้ในสนาม พร้อมชี้มองไปที่ผู้เล่น 11 คนแล้วเห็นแต่นักเตะเห็นแก่ตัวในเกมที่บุกไปเสมอ เซาแธมป์ตัน 3-3 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

โดยเกมที่สนามเซนต์ แมร์รี่ส์ นั้น สเปอร์ส กำลังจะจบด้วยชัยชนะแต่โดน เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ตีเสมอนาที 90+3 และด้วยผลงานที่ไม่สม่ำเสมอ จนแต้มสะดุดหลายครั้งซึ่งแม้จะยังรั้งตำแหน่งท็อปโฟร์แต่โดน นิวคาสเซิ่ล ไล่มาเหลือ 2 คะแนน ทำให้ คอนเต้ ออกมาวิจารณ์ลูกทีมครั้งใหญ่

“นี่คือฤดูกาลที่สองของผม และผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องพูดออกมา เพราะฟอร์มการเล่นในวันนี้คือสิ่งที่รับไม่ได้เรากำลังนำ 3-1 เราครองเกมได้ จากนั้นเสีย 2 ประตู ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ เราไม่ใช่ทีม เราคือผู้เล่น 11 คน, ผมเห็นผู้เล่นหลายคนที่มีความเห็นแก่ตัว, ผมเห็นผู้เล่นหลายคนที่ไม่ช่วยเหลือกัน พวกเขาไม่ได้เล่นด้วยหัวใจ”

“ก่อนหน้านี้ผมพยายามปิดบังสถานการณ์ของเรา และพยายามใช้คำพูดหลายครั้งเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แท็กติกและเทคนิคต่างๆ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือความกระหาย รวมถึงไฟนักสู้ที่คุณจำเป็นต้องมี ทั้งจากแววตาและในหัวใจคุณต้องมีสิ่งเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเทียบเรื่องนี้กับฤดูกาลก่อนแล้ว เราแย่ลงกว่าเดิมอีก ตลอดกว่า 20 ปี ทีมเรามีเจ้าของคนนี้ และพวกเขาไม่เคยคว้าแชมป์อะไรเลย ทำไมล่ะ?มันเป็นความผิดของสโมสร หรือผู้จัดการทีมทุกคนที่อยู่ที่นี่? ถ้าพวกเขายังเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้พวกเขาจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมเปลี่ยนอีกหลายคน แต่สถานการณ์มันจะไม่เปลี่ยนไปจากนี้ผมบอกเลย” คอนเต้ กล่าวแบบฟิวส์ขาด

อนึ่ง นัดต่อไป สเปอร์ส จะกลับมาเกมลีกหลังโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ในวันที่ 4 เมษายน พบกับเอฟเวอร์ตัน เวลา 02.00 น.ตามเวลาประเทศไทย

ทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เฮดโค้ช แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รับลูกทีมอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ อาจเจอปัญหาใหญ่ในอนาคต หลังเจ้าตัวถูกคาดหวังจากแฟนบอลมากเกินไป

โดย ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ เพิ่งซัดแฮททริกที่ 6 ในซีซั่น พร้อมพา “เรือสีฟ้า” เปิดบ้านถล่ม เบิร์นลี่ย์ 6-0 เกมฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันเสาร์ นั่นทำให้แข้งวัย 22 ปี กดไปแล้ว 42 ประตู จากการลงเล่น 37 นัดนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับยอดทีมเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ และแฟนบอลหลายคนคาดหวังว่าเขาอาจจะยิงกระจุยถึง 60 ประตู ในฤดูกาลนี้

“ผมไม่มีคำตอบเกี่ยวกับตัวเลขนี้ เด็กคนนี้กำลังมีปัญหาในอนาคต ผู้คนต่างคาดหวังกับเขาในทุกเกมว่าต้องยิง 3 หรือ 4 ประตู ซึ่งมันไม่มีทางเกิดขึ้น ผมรู้ว่าเขาไม่สนใจมันหรอก เพราะเขาเป็นคนคิดแง่บวก มองโลกในแง่ดี เขาไม่เคยบ่นและมองที่ตัวเองตลอด ”

สำหรับ ฮาแลนด์ ซัดไปแล้ว 6 แฮททริก ในฤดูกาลนี้ประกอบด้วยใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คริสตัล พาเลซ 4-2วันที่ 27 สิงหาคม 2565, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 6-0 วันที่ 31 สิงหาคม 2565, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6-3 วันที่ 2 ตุลาคม 2565 และ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0 วันที่ 22 มกราคม 2566 /ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แอร์เบ ไลป์ซิก 7-0 รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันที่ 14 มีนาคม 2566 และ เอฟเอ คัพ เบิร์นลี่ย์ 6-0 วันที่ 18 มีนาคม 2566

ทั้งนี้ ฮาแลนด์ ที่ยิงไปแล้ว 42 ประตู กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 6 ของ พรีเมียร์ลีก ที่ยิงได้ทะลุ 40 ประตูต่อ 1 ฤดูกาลจากการลงเล่นทุกรายการ และมีโอกาสยิงทลายสถิติของรุด ฟาน นิสเตลรอย ดาวยิงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยทำไว้ 44 ประตูด้วย