"บิ๊กแนต" ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานสหพันธ์มนตรีซีเกมส์  ยืนยันการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งต่อไป จะมีการแก้ไขการนำกีฬาฟื้นบ้านเข้ามาเพื่อกอบโกยเหรียญทอง โดยจะเน้นไปที่กีฬาที่มีแข้งใน โอลิมปิกเกมส์ และ เอเชียนเกมส์ รวมไปถึง เอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์เท่านั้น

โดย "บิ๊กแนต"  เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการฝ่ายกฎและระเบียบ (สปอร์ต แอนด์ รูล์ส) ว่า ตอนนี้เป็นเอกฉันท์ในที่ประชุมแล้วคือเรื่องการแก้ไขกลุ่มชนิดกีฬา ที่จะถูกบรรจุในซีเกมส์ ครั้งต่อๆ ไป  ที่จะเน้นไปในกีฬาที่มีในโอลิมปิกเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ 

"เราไม่เน้นกีฬาพื้นบ้าน ซึ่งเดิมเลือกได้ 8 ชนิดกีฬา ตอนนี้ลดลงเหลือเพียง 4 ชนิดกีฬาเท่านั้น ถือว่าเจอกันตรงกลาง ส่วนกีฬาในกลุ่ม 1 เดิมที มีเพียง 2 ชนิดกีฬา คือ กรีฑา กับ ว่ายน้ำ ก็ถูกเพิ่มขึ้นมาเป็น 12 ชนิดกีฬา ซึ่งเป็นกีฬาในโอลิมปิกเกมส์ ทั้งหมด ส่วนกลุ่ม 2 ก็จะเป็นกีฬาที่กำลังรอบรรจุในโอลิมปิกเกมส์ และเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ รวมกันก็จะอยู่ราว 37 ชนิดกีฬา หากรวมกับกีฬาพื้นบ้านของแต่ละประเทศอีก 4 ก็จะทำให้ซีเกมส์ แต่ละครั้งจากนี้จะมีการแข่งขันทั้งหมด 41 ชนิดกีฬา"

"เรื่องของจำนวนเหรียญที่จัดการแข่งขันก็เช่นเดียวกัน จะอิงตามโอลิมปิกเกมส์และเอเชี่ยนเกมส์ ทั้งหมด ส่วนกีฬาพื้นบ้านก็จำกัดให้จัดได้เพียง 8 เหรียญทองเท่านั้น จะไม่มีอีกแล้วที่เจ้าภาพจะมาจัดกีฬาพื้นบ้าน 10-20 เหรียญทอง ส่วนกีฬาสาธิต จะเพิ่มจาก 1 เป็น 3 ชนิดกีฬา เพื่อให้โอกาสกีฬาอื่นๆ อย่าง จานร่อน, ชักเย่อ ฯลฯ เพราะฉะนั้นจากนี้ไปเราจะเห็นซีเกมส์ ในอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ใช่แบบเดิมนับจากนี้ไป"

"สำหรับธรรมนูญนี้จะไม่มีแก้อีกอย่างน้อย 6 ปีครึ่ง นับตั้งแต่ซีเกมส์ ที่ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ แต่หลังจากนั้น ซีเกมส์ ที่ลาว ไม่รู้ว่าจะมีการแก้กันอีกหรือไม่ แต่คงแก้ยากมาก เพราะเราวางกฎมัดป้องกันไว้แล้ว” บิ๊กแนต กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับ ซีเกมส์ครั้งที่ 33  จะมีขึ้นที่ จังหวัด กรุงเทพมหานคร , จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา  ระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568