สองแข้งจากลิเวอร์พูล มาอยู่ที่นี่เรียบร้อยทั้ง ฟีร์มิโน่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
กลายเป็นลีกที่สร้างความตื่นเต้น และสร้างความตกตะลึงให้กับแฟนฟุตบอลทั่วโลก ในซัมเมอร์นี้
ลีกฟุตบอลอาชีพของประเทศซาอุดีอาระเบีย หรือ Saudi Professional League สะเทือนวงการด้วยการดึงตัวนักเตะมากหน้าหลายตา เข้าสู่วงจรลูกหนังของพวกเขาได้อย่างน่าสนใจ
สิ่งสำคัญก็คือ นักบอลส่วนใหญ่มาจากพรีเมียร์ลีก และเป็นนักบอลที่สามารถ “ไปต่อได้” มากกว่า “สังขารไม่อำนวย”
สกู๊ปพิเศษวันอาทิตย์แนวหน้า อ่านกันแบบสบายอุรากับความเป็นมาของ 18 ทีมบนลีกของพวกเขาที่เป็นระดับอาชีพมายาวนานถึง 47 ปีด้วยกัน
l อับฮา
อับฮา คือสโมสรที่มีชื่อเดียวกับเมือง ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,270 เมตร ถือเป็นทีมที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ยังเล่นอยู่ในลีกระดับ 3 ก่อนจะเลื่อนชั้นมาอยู่บนลีกสูงสุด แม้ว่าจะไม่เคยประสบความสำเร็จคว้าถ้วยรางวัลต่างๆ
ทีมนี้มี เชสลาฟ มิคนีวิชซ์ อดีตกุนซือทีมชาติโปแลนด์ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 คุมทัพอยู่ สตาร์ดังของพวกเขาคือ เฟลิเป้ไคเซโด้ หัวหอกชาวเอกวาดอร์ที่เคยค้าแข้งอยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้
l อัล-อาห์ลี
ถือว่าเป็นหนึ่งในสโมสรใหญ่ของลีกซาอุดีอาระเบีย และเป็นหนึ่งใน 4 ของทีมที่ถูก Saudi Arabia’s Public Investment Fund หรือ PIF ที่รู้จักในชื่อของ กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย เข้ามาบริหารกิจการ ซึ่งกลุ่มทุนนี้ก็คือกลุ่มเดียวกับเจ้าของทีมของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก
อังกฤษ ที่กำลังบินสูงในเวลานี้
ซัมเมอร์ 2023 พวกเขาเสริมทัพแข้งใหม่ที่น่าสนใจคือ 3 แข้งระดับแชมป์ยูซีแอล ประกอบด้วย เอดูอาร์ เมนดี้ นายประตูจากเชลซี, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ จากลิเวอร์พูล และล่าสุดคือ ริยาด มาห์เรซจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สมทบกับความเก่าที่มีอยู่อย่าง เอซยานอาลีออสกี้ อดีตผู้เล่นของลีดส์ ยูไนเต็ด, โมดู บาร์โรว์ ที่เคยอยู่กับ สวอนซี ซิตี้ รวมไปถึงบาสตอสที่เคยอยู่กับลาซิโอ
l อัล-อิตติฟาค
หนึ่งในทีมที่มีชื่อเสียงของวงการฟุตบอลซาอุฯ แต่ทว่าพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จมานานแล้ว ครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปในปี 1980 แต่ดูเหมือนว่าปีนี้จะคึกคักมากยิ่งขึ้น เมื่อสามารถดึงสตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีมของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เข้าไปรับหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่
ส่วนสตาร์ดังในทีมที่เคยโลดแล่นในยุโรป คือ โรบิน ไควสัน กองหน้าทีมชาติสวีเดน, อามีน ยูเนส อดีตดาวรุ่งทีมชาติเยอรมนี รวมไปถึง นาอิม สลิตี้ ตัวรุกทีมชาติตูนิเซีย ที่สำคัญก็คือเพิ่งคว้าตัวจอร์แดน เฮนเดอร์สัน จากลิเวอร์พูลไปร่วมทีม
l อัล-ฟาเตห์
สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งมาเมื่อปี 1958 หรือ 65 ปีที่แล้ว เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ 1 สมัย ในฤดูกาล 2012-13 ปัจจุบันมีสลาเวน บิลิช อดีตกองหลังทีมชาติโครเอเชีย และผู้จัดการทีมของ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด รับบทบาททำหน้าที่กุนซือคุมทีมผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดคือ คริสเตียน เตโญ่ อดีตเด็กปั้นของ “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลน่า
l อัล-เฟย์ฮา
อัล-เฟย์ฮา คว้าแชมป์ลีกซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2017 พวกเขามี วุค ราโซวิช อดีตกองหลังของทีมชาติยูโกสลาเวีย เป็นผู้จัดการทีมสนามเหย้าของพวกเขาจุผู้ชมได้แค่ 7,000 ที่นั่งเท่านั้น ถือว่าน้อยที่สุดในลีกแล้ว
แกนหลักจากลีกยุโรป นำโดย วลาดิเมียร์ สตอยโควิช อดีตนายด่านทีมชาติเซอร์เบีย และอเล็คซานดาร์ ตราย์คอฟสกี้ หัวหอกตัวแสบทีมชาตินอร์ธ มาซิโดเนีย ที่ยิงประตูทำให้ทีมชาติอิตาลีอดไปเล่นฟุตบอลโลก 2022
l อัล-ฮาเซ็ม
นี่คือสโมสรที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว พวกเขาไม่เคยประสบความสำเร็จใดๆ ในรายการสำคัญ ชื่อชั้นดูจะเป็นรองทีมอื่นๆ มี เฟลิเป้ กูเวย่า ชาวโปรตุกีสเป็นกุนซือ นักเตะที่โดดเด่นพอจะเป็นตัวชูโรงได้คือ อายเมน ดาห์เมน นายทวารชาวตูนิเซีย
l อัล-ฮิลาล
หนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย ถือว่าเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่มีการพัฒนาอยู่ตลอด พวกเขาคว้าแชมป์เอเชียได้ 4 ครั้ง และแชมป์ลีกได้ถึง 18 ครั้ง
ปัจจุบันมี ฮอร์เก้ เฆซุส อดีตกุนซือเบนฟิก้าเป็นผู้จัดการทีม เจ้าของทีมคือ PIF เสริมทัพแบบจัดหนักในช่วงซัมเมอร์นี้ได้ทั้ง รูเบน เนเวส, คาลิดู คูลิบาลี่, เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช บวกกับตัวเดิมที่มีอยู่อย่าง มุสซ่า มาเรก้า, มาเธอุส เปเรยร่า และอังเดร คาร์ริลโญ่
l อัล-อิตติฮัต
อีกหนึ่งทีมที่อยู่ในเครือข่ายของ PIF เป็นคู่แข่งในการแย่งแชมป์ลีกของ อัล-ฮิลาล ในช่วงหลังจะเป็นการขับเคี่ยวของสองทีมนี้ เรียกได้ว่าเจอกันที่ไรมันคือเกม “เอล กลาซิโก้” ของซาอุฯเลยทีเดียว
พวกเขาเป็นทีมแชมป์เก่า โดยมี นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เป็นกุนซือ และยังเป็นสโมสที่เก่าแก่ที่สุดในซาอุดีอาระเบียด้วย ซัมเมอร์นี้เสริมทัพได้น่าสนใจได้ คาริม เบนเซม่า เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์คนล่าสุดเข้ามา เช่นเดียวกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และยังมี โชต้าแนวรุกจากเซลติก บวกกับตัวเดิมอย่าง อาห์เม็ด เฮกาซี่
l อัล-นาสเซอร์
แชมป์ลีก 9 สมัย สร้างความฮือฮาด้วยการสอย คริสเตียอาโน่โรนัลโด้ สตาร์ดังไปร่วมทีมเมื่อช่วงเดือนมกราคม
ซัมเมอร์นี้มีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือ รูดี้ การ์เซีย กระเด็นตกเก้าอี้หลังพลาดแชมป์ลีกให้กับ อัล-อิตติฮัต แต่งตั้งให้ หลุยส์ คาสโตร เพื่อนร่วมชาติของ “พี่โด้” เข้ามาคุมทีมแทน
ตัวที่ซื้อเข้ามามี มาร์เซโล่ โบรโซวิช กับ อเล็กซ์ เตลลีส บวกของเดิมอย่าง ดาวิด ออสปิน่า นายด่านจากโคลอมเบีย, กอนซาโล่ มาร์ติเนซ, แอนเดอร์ซอน ทาลิสก้า และกิสเลน โคนาน
ผู้นำเทรนด์ คือ คริสติอาโน่ โรนัลโด้
ที่สำคัญ ซาดิโอ มาเน่ กำลังจะมาอีกราย!!!
l อัล-อ็อคดู๊ด
สโมสรเล็กๆ ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน เมื่อ 5 ปีที่แล้วพวกเขายังอยู่ในระดับดิวิชั่น 3 โดยมี ฮอร์เก้ เมนดอนก้า เป็นผู้จัดการทีม ตัวผู้เล่นไม่มีความโดดเด่นเหมือนกับทีมอื่น ที่พอจะมีชื่อในยุโรปคือ เปาโล วิตอร์ นายทวารชาวบราซิลที่เคยค้าแข้งในโปรตุเกส
l อัล-รีด
อีกหนึ่งทีมเล็กๆ ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จเช่นกัน ที่สำคัญตอนนี้พวกเขายังไม่มีผู้จัดการทีม ปาโบล ซานโตส หัวหอกชาวบราซิลคือตัวชูโรงของทีม เพราะเคยค้าแข้งในโปรตุเกส, รัสเซีย และตุรกี
l อัล-ริยาดห์
ทีมจากเมืองหลวง แต่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่คิด ผลงานที่ดีที่สุดคือการคว้ารองแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาล 1993-94 และได้แชมป์บอลถ้วย คราวน์ ปรินซ์ คัพ ในปีเดียวกัน พวกเขาเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาลที่แล้ว และเพิ่งแต่งตั้งให้ ยานนิค เฟอร์เรร่า ชาวเบลเยียมเข้ามาเป็นผู้จัดการทีม ตัวชูโรงคือ นิโกล่า สตอยลิโควิชหัวหอกชาวเซอร์เบียที่เคยเล่นใน โปรตุเกส, สเปน, เซอร์เบีย, ตุรกี และโปแลนด์
l อัล-ชาบับ
อัล-ชาบับ แชมป์ลีกซาอุดีอาระเบีย 6 สมัย ตอนนี้กำลังมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่ คุณภาพผู้เล่นถือว่าใช้ได้มี เอแวร์บาเนก้า จอมทัพชาวอาร์เจนไตน์ที่เคยค้าแข้งให้กับ บาเลนเซีย เป็นตัวบัญชาการ แนวรับมี กุสตาโว่ คูเอญ่าร์ ที่เคยติดทีมชาติโคลอมเบีย และผู้รักษาประตู คิม ซึง-กิว ที่ติดทีมชาติเกาหลีใต้ไปลุยบอลโลกถึง 3 สมัย
l อัล-ทาวอน
อัล-ทาวอน คว้าแชมป์บอลถ้วยคิงส์ คัพ เมื่อปี 2019 มี เปริเซลส ชามุสก้า เป็นผู้จัดการทีม ฤดูกาลที่แล้วถือว่าผลงานดีจบอันดับ 5 ของลีก ตัวผู้เล่นที่โดดเด่นคือ อัลบาโร่ เมดราน จอมทัพชาวสเปน อดีตเด็กปั้นของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด
l อัล-ไท
อีกหนึ่งทีมที่ไม่เคยประสบความสำเร็จ แม้ว่าสโมสรแห่งนี้จะก่อตั้งมา 61 ปีแล้ว ฤดูกาลที่แล้วจบอันดับ 9 ของลีก ล่าสุด เครซิเมียร์ เรซิซ ชาวโครเอเชีย เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแกนหลักคนสำคัญคือ อัลฟ่า เซเมโด้ มิดฟิลด์ชาวกินี-บิสเซา ที่เคยไปค้าแข้งในอังกฤษกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และเรดดิ้ง ในช่วงเวลาสั้นๆ
l อัล-เวห์ด้า
สโมสรแห่งนี้ก่อครั้งได้ 88 ปีแล้ว แต่ความสำเร็จครั้งสุดท้ายของพวกเขาคือการคว้าแชมป์บอลถ้วยเมื่อปี 1966 ปัจจุบันมี จอร์จอสโดนิส อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติกรีซ รับบทบาทเป็นผู้จัดการทีม เป็นการย้ายมาจาก อัล-ฟาเตห์ เพื่อมาแทน โฮเซ่ หลุยส์ เซียร่า ตัวชูโรงคือ ออสการ์ ดูอาร์เต้ กองหลังทีมชาติคอสตาริกา, เฟย์คาล ฟาจร์ และมูนีร์ โมฮามาดี้ ต่างก็เคยลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
l ดามัค
หนึ่งในทีมที่โดน คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ซัดแฮททริกใส่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทีมนี้มี คอสมิน คอนทรา อดีตแบ๊กขวาทีมชาติโรมาเนีย ที่ผ่านการลงเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เอซี มิลานและแอต มาดริด เป็นกุนซืออยู่ ผู้เล่นที่โดดเด่นของพวกเขาคือ อดัม มาเฮอร์ อดีตดาวโรจน์จากลีกดัทช์ รวมไปถึง ดามากอยอันโตลิช กองหลังที่เคยติดทีมชาติโครเอเชียมา 6 นัด
l คาลิจ
คาลิจ รอดพ้นจากการตกชั้นได้แบบหวุดหวิดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว คุมทัพโดย เปโดร เอ็มานูเอล กุนซือชาวโปรตุเกส ผู้เล่นที่เคยค้าแข้งในยุโรปคือ ลิซานโดร โลเปซ ที่เคยเล่นให้กับ เบนฟิก้า,อินเตอร์ มิลาน และเจนัว แถมติดทีมชาติอาร์เจนตินาชุดใหญ่มา 4 นัด
บี แหลมสิงห์
ริยาด มาห์เรซ แกนรุกแมนฯซิตี้ ก็มาแลนดิ้งที่นี่เช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี