ก่อนเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมบิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์แรกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ มหานครลอนดอน ระหว่าง “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเริ่มต้นขึ้น ถือว่าฟาดกันดุเด็ดเผ็ดมันสมราคา 20 ปี คู่ปะทะยุคใหม่ของพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล กับ เชลซี คู่ตุนาหงัน ตั้งแต่ปี 2003 ได้ปะทะนอกสนามประลองกำลังกันไปเป็นที่เรียบร้อย
ในการปาดกันไปมาในตลาดนักเตะ กรณีของ มอสเซส ไคเซโด้ของไบรท์ตัน กับ โรเมโอ ลาเวีย ของเซาแธมป์ตัน นักบอลมิดฟิลด์จากสองทีมสองแข้งแดนใต้
บอลคู่นี้ควรค่าแห่งการยกให้เป็นคู่ฟัด 2 ทศวรรษโดยแท้ ไม่มีใครเจอกันมากกว่าสองทีมนี้อีกแล้ว โดย 20 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช ย่างกรายเข้าสู่เกาะอังกฤษไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าอยู่คนละภูมิภาคของประเทศแต่แปลกเจอกันบ่อยเกิน
หลังจากสถิติตลอดกาลนับตั้งแต่เจอกันครั้งแรก 25 ธันวาคม ปี 1907 ลิเวอร์พูล ชนะ 84 เสมอ 45 เชลซี ชนะ 65 ไม่น่าเชื่อว่า 20 ปีหลัง จะเจอกันมากถึง 64 นัด!!!!!
เป็นไปได้และเกิดขึ้นแล้วที่ทั้งสองทีมอัดกันถึง 23 เกมบอลถ้วย!!
สองฤดูกาลก่อนน่าสนใจมาก เพราะทั้งสองทีมนี้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยในประเทศทั้งสองรายการ ปรากฏว่าผลออกมาเหมือนกันนั่นก็คือเสมอแบบไม่มีสกอร์ทั้งสองรายการและลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายชนะด้วยการดวลจุดโทษทั้งสองรายการ
น่าแปลกตรงที่ฤดูกาลที่ผ่านมาทั้งสองทีมวูบสนิทแบบไม่ได้นัดกันมาลิเวอร์พูลยังดีหน่อยที่เร่งเครื่องมาได้อันดับ 5 และได้ไปฟุตบอลยูโรป้าลีก ผิดกับเชลซีที่จบการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมจนปวดหัวและไม่ได้ไปบอลยุโรป
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล จะได้ดวลกับ เมาริซิโอโปเช็ตติโน่ กุนซือใหม่ถอดด้ามของ เชลซี ที่เคยวัดฝีมือนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก 2019 ที่ “หงส์แดง” กำชัย 20 ที่กรุงมาดริด ซึ่ง โปเช็ตติโน่ เองเป็นกุนซือคนที่ 9 ของ เชลซี ที่ คล็อปป์จะได้ปะทะฝีมือด้วยตั้งแต่กุนซือชาวเยอรมัน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อตุลาคม 2015
คล็อปป์ สู้กับกุนซือสิงห์ ประกอบด้วย โชเซ่ มูรินโญ่,กุส ฮิดดิ้งค์, อันโตนิโอ คอนเต้, เมาริซิโอ ซาร์รี่, แฟรงค์ แลมพาร์ดจูเนียร์, โธมัส ทูเคิ่ล, แกรห์ม พ็อตเตอร์ และ บรูโน่ ซัลตอร์ ทำให้ คล็อปป์ ชนกับ เชลซี มาแล้ว 21 นัด ชนะ 9 เสมอ 8 แพ้ 4 ซึ่งการเจอกัน 4 เกมหลังสุดไม่น่าเชื่อว่าผลออกมาเสมอกัน 0-0 ทั้งหมด
การพบกันนัดนี้ถือว่าเป็นคู่เอกของสัปดาห์แรกในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2023-24 ในเวลา 22.30 น. เชลซี ผิดหวังจากผลงานในซีซั่นที่แล้ว ซัมเมอร์นี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แทบจะยกทีม รวมไปถึงผู้จัดการทีมได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้ามาคุมเกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แข้งใหม่ที่บาดเจ็บหนักพัก 4 เดือน เช่นเดียวกับ เวสลีย์ โฟฟาน่า และเบอนัวต์บาเดียชิล ส่วน โนนี่ มาดูอาเก้ ต้องรอเช็คความฟิต ที่เหลืออยู่ครบปรับมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 แข้งใหม่อย่าง อักเซล ดิซาซี่น่าจะได้ลงคุมแนวรับร่วมกับ เลวาย โคลวิลล์ คู่มิดฟิลด์ใช้คอนอร์ กัลลาเกอร์ เล่นกับเอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ แนวนำโดย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, คาร์นีย์ ชุควูเมก้า, มิคายโล มูดริค และนิโกลัส แจ็คสัน
ฝั่งทีมเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยกเครื่องในแดนกลางเสียทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และฟาบินโญ่ ทำให้ต้องเร่งหาตัวแทน แต่เกมนี้น่าจะยังไม่ทัน ความไม่พร้อมในเกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ธีอาโก้ อัลคันทาร่า และสเตฟาน บายเซติช ที่เพิ่งหายเจ็บและกลับมาซ้อม คาดว่า เคอร์ติส โจนส์ อาจจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงในแดนกลางเล่นร่วมกับ โดมินิค โซโบสไล และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สามแนวรุกเลือก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ประสานงานกับ โคดี้ กัคโป และดีโอโก้ โชต้า
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม เชลซี (4-2-3-1) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า, รีซ เจมส์, อักเซล ดิซาซี่, เลวาย โคลวิลล์,เบน ชิลเวลล์, คอนอร์ กัลลาเกอร์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, ราฮีมสเตอร์ลิ่ง, คาร์นีย์ ชุควูเมก้า, มิคายโล มูดริค และนิโกลัสแจ็คสัน, ลิเวอร์พูล (4-3-3): อลิสซอน เบ๊คเกอร์, เทรนท์อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จีลฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โดมินิค โซโบสไล, เคอร์ติส โจนส์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้กัคโป และดีโอโก้ โชต้า
สกอร์ที่คาด : เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล
อีกคู่ เวลา 20.00 น. “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์เจ้าถิ่นยังคุมทีมโดย โธมัส แฟรงค์ เหมือนเดิมขยับเสริมทัพพอสมควรหลักๆ คือการซื้อ มาร์ค เฟลคเค่น ผู้รักษาประตูเข้ามาแทนดาบิด ราย่า ที่ต้องการย้ายออกจากทีม รวมไปถึงการทุ่มซื้อ เนธาน คอลลิ่นส์ มาจากวูล์ฟส์ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร แต่เกมนี้จะไม่มี อีวาน โทนีย์ หัวหอกคนสำคัญที่โดนแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลด้วยข้อหาเล่นการพนัน ที่ต้องรอทดสอบความฟิตคือ แฟรงค์ ออนเยก้า และคริสเตียน นอร์การ์ด นอกนั้นอยู่ครบ เกมรุกวาง ไบรอัน เอ็มเบอูโม่, โยอัน วิสซ่า และเควิน ชาเดอ เป็นตัวชูโรง
ทางฝั่งทีมเยือน สเปอร์ส เปลี่ยนแปลงทีมตั้งแต่โค้ชไปดึงอังเก้ ปอสเตโคกลู ข่าวร้ายคือการเสีย แฮร์รี่ เคน ดาวยิงคนสำคัญไปให้กับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เกมนี้ไม่มี โรดริโก้ เบนตานคูร์มิดฟิลด์อุรุกวัยที่บาดเจ็บ แกนหลักที่เหลือถือว่าพร้อม มาในระบบ 4-3-3 วาง อิฟส์ บิสซูม่า คุมแดนกลางร่วมกับ ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ค โดยมี เจมส์ แมดดิสัน เป็นตัวปั้นเกมรุกสนับสนุนสามแดนหน้าอย่าง เดยัน คูลูเซฟสกี้, ริชาร์ลิซอนและซน ฮึง-มิน
สกอร์ที่คาด : เบรนท์ฟอร์ด 2-2 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ทางด้านเกมเปิดสนามพรีเมียร์ลีก ปรากฏว่า “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าบุกไปยำ เบิร์นลี่ย์ น้องใหม่ถึงถิ่น 3-0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี