ร้อยเอาอุนจิกองเดียวที่เราจะต้องพูดกันถึงเรื่องนี้้เป็นปกติชีวิตว่า เดินออกมาจากบ้าน ออกไปทำงาน ทำธุระ หรือไปเรียนหนังสือ
อยากจะประสบความสำเร็จมีความสุขในทุกๆ วัน ย่อมเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครอยากล้มเหลว
เข้ากับประเด็นกีฬาที่ไปแข่งขันก็เหมือนกัน คงไม่มีใครหรอกที่อยากแพ้ อยากจะบาดเจ็บ หรือว่าไปแล้วไม่อยากแข่งขัน
ชื่อเสียงและเงินทองมาพร้อมกันหากได้รับการคว้าชัยซึ่งก็เว้ากันซื่อๆ ยิ่งเมืองนี้บ้านนี้้ชื่นชักมักหลายกับคำว่า “ชัยชนะ” ด้วยแล้ว มันจะยิ่งทำเงินให้พุ่งๆ ขึ้้นไป
ทำไมใครจะไม่อยากชนะ
ประเด็นดราม่าวงการกรีฑาเอเชี่ยนเกมส์ โดยเฉพาะอาการของ “บิว” ภูริพล บุญสอน ดาวรุ่งพุ่งแรงเจ้าของเหรียญเงิน 100 เมตร ว่าจะหายเจ็บกลับมาทันหรือไม่ กับการวิ่ง 4x100 เมตรหลังจากพลาดไม่ได้แข่ง 200 เมตร จนจบ เพราะมีอาการ“ตึงกล้ามเนื้อ”
อาการตึงกล้ามเนื้อของนักกีกรีฑา คือสิ่งที่อันตรายมาก หากไม่พร้อมจริงๆ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสี่ยงให้เดี้้ยงเรื้อรัง
ถามว่า เจ็บมา กองเชียร์ฮาร์ดคอร์ สายหวังคนไหน จะรับผิดชอบ
ลงท้ายกลายเป็นคนที่ถูกยกเครดิตให้มากเกินไปว่าเป็น “โค้ชคีย์บอร์ด” จริงก็แค่ “ขยะโซเชียล” ที่ด่าทอนักกีฬา, สมาคมฯและผู้ที่เกี่ยวข้องแบบเสียๆ หายๆ ทั้งที่ตัวเองแทบจะไม่ได้มีความรู้ความสามารถอะไรเลยด้วยซ้ำ
นี่คือสังคมไทยในปัจจุบัน ที่ด่าได้ทุกเรื่อง ดราม่าได้ในทุกเหตุการณ์ และลามมายังวงการกีฬา
ใครที่มีพฤติกรรมนี้อยู่ให้หยุดดีกว่า เหมือนกับที่ว่า วันๆ อย่าฝังตัวเองอยู่ในมุมแคบๆ บนโลกออนไลน์ ที่มันกว้างใหญ่ไพศาลก็จริง แต่มันได้ถูกตีกรอบครอบมาอีกทีให้แคบแล้วและแคบอีก
สำหรับทีมชาติไทย เคยได้เหรียญทองจากวิ่งผลัด 4x100 เมตรชาย เอเชี่ยนเกมส์ มาแล้ว 5 สมัย ประกอบด้วย ปี 1970, 1974, 1978, 2002 และ 2006 ได้เหรียญเงิน 2 สมัย 1982 กับ 1998 และเหรียญทองแดง 1 สมัย ปี 2010
ขณะเดียวกัน ทีมหญิงกลับได้เหรียญรางวัลโดยที่หลายคนแอบตกใจ นั่นก็เพราะว่าที่ไม่มีกระแส เนื่องจาก 4x100 เมตรหญิงนั้น ไม่มีการแข่งขันรอบคัดเลือก แล้วก็มาลุยในนัดชิงกับทีมจากชุดมหาวิทยาลัยโลก ที่ตระเตรียมไว้เพื่อการณ์ข้างหน้า
ไทย เคยได้เหรียญทองแชมป์ 2 สมัย ปี 1978 กับ 2010, เหรียญเงิน ปี 1982, 1986, 1994, 2002 และในครั้้งนี้ ส่วนทองแดง ได้ในปี 1990, 1998
เสี้ยววินาทีทุกอย่างเกิดขึ้้นได้ทั้งหมด ในการแข่งขันกรีฑา
ปิดท้ายดราม่าซ้อนไปมานั้นคือ คีริน ตันติเวทย์ ถอนตัวไปทั้งสองรายการ นั่นคือ 10,000 เมตร และเมื่อวานนี้ก็ต้องถอน 5,000 เนื่องจากเจ้าตัวอาการบาดเจ็บที่กระดูกหน้าเเข้ง
ว่ากันว่าคงไม่ไหวจริงๆ ไม่วายโดนจวกอีกว่า มาแล้วทำไมไม่แข่ง!?!?!?!
อยากจะบอกว่า แฟนกีฬาบางส่วนกำลังทำตัวเป็นอะไรไปแล้ว เชียร์กีฬาแต่ไม่รู้จักคำว่ากีฬาเลย
ลองคุณปวดหัวปวดท้องไม่สบายแทบตายห่ะ แล้วเจ้านายยังตะบันให้คุณไปทำงานล่ะ คุณจะเป็นยังไง
ไม่ต้องไปเพ้อเจ้อตามโซเซียลจนน่าขยะแขยง เพราะถ้านักกีฬามันจะไปแข่งแล้วกลัวแพ้ หรือว่ากลัวจะชนะ
เค้าจะไปกันทำไม!?!?!?!
ให้คิดใหม่อีกครั้งครับ และนี่มันปี ค.ศ. อะไรแล้ว
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี