เกมใหญ่ประจำสัปดาห์ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ยกแรกของฤดูกาลนี้ลงเล่นในเวลา 22.30 น.“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเปิดโรงละครแห่งความฝันต้อนรับการมาเยือน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เจ้าถิ่นภายใต้การคุมทีมของเอริค เทน ฮาก เริ่มมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ หลังคว้าชัยชนะมา 3 เกมติดในทุกรายการ แต่พวกเขายังไม่มี ลิซานโดร มาร์ติเนซ และไทเรลล์ มาลาเซีย ที่บาดเจ็บ รวมไปถึง เจดอน ซานโช่ ที่มีปัญหาเรื่องทัศนคติ ที่ต้องรอทดสอบความฟิตคือ คาเซมิโร่, แอรอน วาน-บิสซาก้า และลุค ชอว์ นอกนั้นถือว่าอยู่กับครบ นำทัพโดยแนวรุกอย่าง อันโตนี่, บรูโน่ เฟอร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และราสมุส ฮอยลุนด์

ฝั่งผู้มาเยือน แมนฯซิตี้ ฟอร์มเริ่มดีขึ้นทันตาเห็นชนะติดต่อกันมา 2 เกม หลังกลับมาจากพักเบรกทีมชาติ ทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ยังไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพที่บาดเจ็บพักยาว ส่วน มานูเอลอคานจี ติดโทษแบน ทำให้ นาธาน อาเก้ น่าจะได้ลงเสียบแทน ตำแหน่งอื่นๆ ถือว่าไม่มีอะไรต้องกังวลใจ วาง โรดรี้ เป็นตัวคุมจังหวะเกมแดนกลางร่วมกับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ปล่อยให้ ฟิล โฟเด้น, ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ และเฌเรมี่ โดกู มีอิสระในการเล่นเกมรุกสอดประสานกับหน้าอย่าง เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ที่ยิงในลีกไปแล้ว 9 ประตู

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่มีจบลงด้วยผลเสมอ เป็น แมนฯซิตี้ ที่เหนือกว่าแบบชัดเจนชนะได้ 4 ส่วน แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 1

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1): อองเดร์ โอนาน่า,ดีโอโก้ ดาโลท์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ราฟาเอล วาราน, เซร์คิโอ เรกีลอน, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, คาเซมิโร่, อันโตนี่, บรูโน่เฟอร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และราสมุส ฮอยลุนด์

แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้,ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้,ฟิล โฟเด้น, ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ, เฌเรมี่ โดกู และเออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์

สกอร์ที่คาด : แมนฯยูไนเต็ด 1-3 แมนฯซิตี้

อีกคู่ที่น่าสนใจเวลา 21.00 น.“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เจอกับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ โดยเจ้าถิ่นไม่แพ้ใครมา4 เกมติด ชนะ 3 เสมอ 1 ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน เคอร์ติส โจนส์ มิดฟิลด์ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง แอนดรูว์โรเบิร์ตสัน ที่เพิ่งผ่าตัดหัวไหล่ ส่วน ธีอาโก้อัลคันทาร่า ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บไม่เลิกนอกนั้นตามรายงานถือว่าพร้อมลงเล่นทั้งหมด มาในระบบ 4-3-3 ตามถนัด คาดว่าไรอัน กราเฟนแบร์ช ที่ฟอร์มดีน่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงคุมแดนกลางร่วมกับ อเล็กซิสแม็ค อัลลิสเตอร์ และโดมินิค โซโบสไล สามแนวรุกวาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ประสานงานกับ ดาร์วิน นูนเญซ และหลุยส์ ดิอาซ

ทีมเยือน ภายใต้การคุมทีมของ “เฮียง่วง” สตีฟ คูเปอร์ มี 10 คะแนนจากการลงเล่น 9 นัด ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 3 เกมนี้ยังเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บไม่มี ดานิโล่,เฟลิเป้, กอนซาโล่ มอนเทียล, คัลลั่มฮัดสัน-โอดอย รวมไปถึง ดิว็อค โอริกี้ที่จะอดเจอทีมเก่า ส่วน ไตโว่ อโวนิยี่และนูโน่ ตาบาเรส รอทดสอบความฟิตที่เหลืออยู่ครบ นำโดย อิบราฮิม ซ็องกาเร่,โอเรล ม็องกาล่า, นิโคลัส โดมิงเกซ,มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, คริส วู้ด และแอนโธนี่ เอลังก้า

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล เหนือกว่าชนะ 3 เสมอ 1 และฟอเรสต์ ชนะ 1

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่าโกนาเต้, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส, โดมินิค โซโบสไล, อเล็กซิสแม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ช,โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และหลุยส์ ดิอาซ

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (4-3-3) : แมตต์ เทิร์นเนอร์, แซร์ก ออริเย่ร์,วิลลี่ โบลี่, มุสซ่า เนียกาเต้, อิบราฮิมซ็องกาเร่, โอเรล ม็องกาล่า, นิโคลัส โดมิงเกซ,มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, คริส วู้ด และแอนโธนี่เอลังก้า

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 3-1 ฟอเรสต์