ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ลีโอเนล เมสซี่ จะได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะเลิศรางวัลสุดยอดนักเตะโลก หรือ “บัลลงดอร์” สำหรับฤดูกาล 2022-23

ลีโอเนล เมสซี่ เพิ่มสถิติคว้ารางวัลบัลลงดอร์เป็นสมัย ที่ 8 หลังเคยทำได้เมื่อปี 2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019 และ 2021

บทบาทที่สร้างแรงบันดาลใจของเขาแตกต่างจาก 7 ครั้งแรกที่ได้รับ เพราะครั้งนี้สำคัญอย่างที่สุดในการช่วยให้ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1986 หรือสิ้นสุดยุคสสมัยของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่พอได้รางวัลปุ๊บ ก็แทบจะรับประกันได้ว่า เขาจะคว้ารางวัลนี้มาครอง แม้ว่าจะมีผู้ท้าชิงที่สุดยอด และดีที่สุดอย่าง “จอมมารบู” เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ กองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กวาด 3 แชมป์บอลถ้วย ก็ตาม

ไม่รู้ใครบ้วนวลีเอาไว้ว่า สำหรับนักกีฬาไทยแล้วนั้น แม้จะคว้ามาได้ “10 แชมป์โลก” ก็ไม่เท่ากับ “1 เหรียญทองโอลิมปิก”

เข่นเดียวกับวงการฟุตบอล ต่อให้คว้ามาสารพัดถ้วยก็ไม่เท่ากับ “1 ถ้วยแชมป์โลก”

คู่แข่งที่เหมาะสมมาตลอดของ เมสซี่ อย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ซึ่งปัจจุบันค้าแข้งอยู่ในซาอุดีอาระเบีย เป็นคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดของเมสซี่ด้วยจำนวน 5 บัลลงดอร์ แต่ด้วยวัย38 ปี และไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 30 คนด้วยซ้ำ จึงเป็นเรื่องยากที่จะเห็นกองหน้าชาวโปรตุเกสมาท้าทายการแย่งชิงตัวของ เมสซี่ แถมตลอดซีซั่นก็ไม่มีอะไรที่จับต้องได้

หากเรามองลึกลงไปจากนี้ แม้ว่าโลกใบนี้จะมี ฮาลันด์, จู๊ด เบลลิ่งแฮม ของเรอัล มาดริด และทีมชาติอังกฤษ หรือใครต่อใครในอนาคต แต่คงอีกนานก่อนที่จะมีใครสักคนที่เข้าใกล้ “สถิติ” ของ เมสซี่

ประเด็นคือ เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่า เมื่อใดที่ผลงานการทำประตูอันน่าประทับใจนี้จะพังทลายและถูกทุบสถิติลง แต่ประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่าอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง

โดยเฉพาะถ้าเรานับเฉพาะตัวเลขหลายคนอาจสงสัยว่า เมสซี่ ปีไหนที่ “โหดสุด”

50 ประตูของเมสซี่จากการลงเล่น 37 นัดให้บาร์เซโลน่าในฤดูกาล 2011-12 ไม่เพียงแต่เป็นสถิติลาลีกาเท่านั้น แต่ยังเป็นสถิติสูงสุดในฤดูกาลของผู้เล่นคนใดคนหนึ่งใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป นับตั้งแต่สถาปนาบอลอังกฤษ ยุคพรีเมียร์ลีก ปี 1992-93

นับตั้งแต่ก่อตั้งลาลีกาในปี 1929 มีผู้เล่นเพียง 3 คนเท่านั้นที่ยิงได้ 40 ประตูต่อปี นั่นคือ เมสซี่, โรนัลโด้ (ทำได้สองครั้ง) และหลุยส์ ซัวเรซ ทำได้เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่บรรลุถึงเป้าหมายนั้น

ในฤดูกาล 2011-12 เมสซี่ ยังทำประตูได้มากถึง 73 ประตู ในทุกรายการให้กับบาร์เซโลน่า และไม่มีใครใกล้เคียงเลยนับตั้งแต่นั้นมา

ฮาลันด์ อาจทำลายสถิติทุกประเภทในการเดบิวต์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว แต่แม้จะดูเหมือนทำประตูทุกสัปดาห์ แต่เขาจบฤดูกาลด้วย 52 ประตู ซึ่งน้อยกว่า เมสซี่ ในปีนั้นถึง 21 ประตู

แม้แต่ ดิ๊กซี่ ดีน ผู้ยิ่งใหญ่ของเอฟเวอร์ตัน ที่ยิงไปอย่างน่าทึ่งถึง 63 ประตู เมื่อฤดูกาล 1927-28 ซึ่งเป็นสถิติในลีกสูงสุดของอังกฤษที่ยืนหยัดมา 95 ปี

ในระดับสโมสร เมสซี่ ดูเหมือนขาดสถิติเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในแชมเปี้ยนส์ลีก ไปเท่านั้น โดยเขาอยู่ในอันดับที่สอง โดยน้อยกว่า โรนัลโด้ ที่ทำไว้ 140 ประตู อยู่ 11 ประตู เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งคู่น่าจะเล่นเกมสุดท้ายในการแข่งขันรายการนี้ไปแล้ว

ขณะเดียวกัน การพาทีมชาติครองแชมป์โลก คือสิ่งที่ทำให้แฟนบอลเมสซี่ นอนหลับสบายที่สุด พร้อมกับการจารึกชื่อว่า เป็นผู้ถล่มประตูให้กับทีมชาติอาร์เจนตินามากที่สุด 106 ประตู

เขายิงประตูได้มากกว่าเจ้าของสถิติคนก่อนอย่างกาเบรียลบาติสตูต้า ถึง 48 ประตู และมากกว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ อันดับ 3 ไปไกลถึง 63 ประตู

สถิติที่สุดยอดต่าง ๆ มากมาย เกิดขึ้นในยุคของ เมสซี่ โชคดีของแฟนบอลอย่างเราท่าน ที่ได้เห็นไปพร้อมๆ กันในคราเดียว

บี แหลมสิงห์