ทัพ “ช้างศึก” ฟุตบอลชายทีมชาติไทย เตรียมลงสนามนัดที่ 2 ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก กลุ่ม C บุกไปเยือน“เมอร์ไลออนส์” ทีมชาติสิงคโปร์ ที่สนามสิงคโปร์ สเตเดี้ยมในวันอังคารที่ 21 พ.ย.นี้ เวลา 19.00 น. ไทยรัฐทีวีถ่ายทอดสด
โดยทัพ “ช้างศึก” เกมแรกต้องผิดหวังแพ้คาบ้านให้กับ จีน 1-2 ทำให้สถานการณ์เวลานี้รั้งอันดับ 3 ของกลุ่มยังไม่มีแต้ม ล่าสุดเมื่อวันอังคาร มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือเก้าอี้ร้อนทีมชาติไทยได้แถลงความพร้อมก่อนเกมที่ห้องประชุม Parkroyal Hotel ซึ่งมาโน่เผยว่าเกมนี้ไม่ใช่แมทช์ที่ง่าย แต่พวกเขาต้องการเอาชนะให้ได้
“นี่จะเป็นเกมที่ยากของทั้งสองทีม เราตกอยู่ในสถานะเดียวกัน คือแพ้มาในเกมแรก แต่ตอนนี้เราต้องมีสมาธิและเราก็พร้อมที่จะเก็บชัยชนะจากเกมนี้ เป็นเรื่องปกติที่เราจะกดดันในเกมนี้แต่ว่าเราได้พูดคุยกันภายในทีมว่าเราจะล้มลงอยู่ไม่ได้เราต้องรีบลุกขึ้นมา และกลับมามีสมาธิกับเกมนี้อีกครั้งนึง เพราะว่าระยะเวลาค่อนข้างที่จะใกล้กัน ไม่มีเวลาให้เราผิดหวัง”
ไม่ใช่เกมที่ง่ายสำหรับเรา แต่อย่างไรก็ตามเราได้วิเคราะห์เกมของสิงคโปร์มาอย่างดี และได้วิเคราะห์ข้อผิดพลาดของตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก เราต้องมุ่งมั่นและทำให้เต็มที่เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้” มาโน่ กล่าว
เกมนี้สภาพทัพ “ช้างศึก” จะต้องขาดสองแกนหลักอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ พรรษา เหมวิบูลย์ ที่เดี้ยงจากเกมที่แล้วจนต้องถอนตัวไปแล้ว พร้อมกับต้องรอเช็คความฟิตของ ธีรศิลป์ แดงดา ว่าจะพร้อมเล่นในเกมนี้หรือไม่ โดย ไทย จะยังมาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู มีโอกาสที่จะเปลี่ยนมาใช้งาน กัมพล ปฐมอรรฆย์กุลอีกครั้ง ส่วนแผงเซ็นเตอร์แบ๊กเกมนี้เอเลียส ดอเลาะ จะได้ยืนคู่กับ กฤษดากาแมน ที่ มาโน่ โดนวิจารณ์ว่าทำไมไม่เก็บไปเล่นมิดฟิลด์ตามตำแหน่งที่เจ้าตัวถนัด ส่วนแบ๊กสองฝั่งจะเป็นหน้าที่ของ ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีม ส่วนแบ๊กขวา นิติพงษ์ เสลานนท์ น่าจะเบียด ทริสตอง โด ที่ฟอร์มหลุดเกมที่แล้ว เป็นตัวจริงในเกมนี้
ว่ากันที่แผงแดนกลางจะปรับมาใช้ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ เป็นห้องเครื่องร่วมกับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ส่วนแนวรุก สุภโชคสารชาติ มีโอกาสจะได้กลับมาเล่นในตำแหน่งท็อปฟอร์มของตัวเองในแนวรุกฝั่งซ้าย ร่วมกับ สารัช อยู่เย็น ที่จะได้เขยิบขึ้นมาเป็นจอมทัพในเกมนี้ ส่วนฝั่งขวา ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จะเขยิบลงมาเล่น พร้อมให้ ธีรศิลป์ แดงดา เข็นลงปักหอกล่าตาข่าย
11 ตัวจริงไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม (ระบบ 4-2-3-1) : กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ผู้รักษาประตู)-นิติพงษ์ เสลานนท์, เอเลียส ดอเลาะ, กฤษดา กาแมน, ธีราทร บุญมาทัน (กัปตันทีม)-วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, สารัช อยู่เย็น, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ศุภชัย ใจเด็ด
ทางฝั่งเจ้าถิ่นสิงคโปร์ ที่เกมที่แล้วพ่าย เกาหลีใต้ 0-5 รั้งบ๊วยของกลุ่ม เกมนี้สภาพทีมของ ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือ ชาวญี่ปุ่น จะขาดแกนหลักในเกมรับอย่าง อิรฟาน ฟานดี้ ที่เจ็บจากเกมที่แล้ว ทำให้ต้องฝากความหวังไว้ที่แกนหลักที่เหลืออย่าง ฮัสซัน ซันนี่ นายทวารจอมเก๋าวัย 39 ปี, ฮาริสส์ ฮารูน กองกลางกัปตันทีม, ไรฮาน สจ๊วร์ต แนวรุกจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ซอง อุย ยอง จอมทัพชาวเกาหลีใต้โอนสัญชาติ และ ชาวัล อันนัวร์ ศูนย์หน้าคนสำคัญ
ทั้งนี้ ผลงานการดวลกัน ระหว่าง ไทย กับ สิงคโปร์ ปรากฏว่าเคยปะทะแข้งกันมา 64 ครั้ง เป็น ไทย ที่เอาชนะไปได้ 38 เกม เสมอ 15 เกม และสิงคโปร์ ชนะ 11 เกม โดยทัพ “ช้างศึก” สามารถเอาชนะสิงคโปร์ได้ตลอดในการเจอกัน 6 นัดหลังสุด
ทั้งนี้ แมทช์สุดท้ายที่แข้ง “เมอร์ไลออนส์” คว้าชัยเหนือแข้งไทยได้นั้น ต้องย้อนไปไกลถึงเดือนธันวาคม 2012 หรือเกือบ 11 ปีที่แล้ว โดยแมทช์นั้น สิงคโปร์ เปิดบ้านเอาชนะ ไทย 3-1 ในนัดแรกของรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี