ความเคลื่อนไหว ทัพ “ช้างศึก” ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ที่ประเดิมสนามในศึกเอเชียน คัพ 2023 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ ด้วยการเอาชนะทีมชาติคีร์กิซสถาน 2-0 พร้อมขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม หลังจากผลอีกคู่ซาอุดีอาระเบีย เบียดเอาชนะ โอมาน ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 96 ผลสกอร์ 2-1

โดยเกมที่อับดุลลาห์ บิน คาลิฟา สเตเดียม ทัพ “ช้างศึก” ได้ 2 ประตูจาก ศุภชัย ใจเด็ด สวมบทฮีโร่ ซัดคนเดียว 2 ประตู ให้ทีมชาติไทย เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ซึ่งเป็นการคว้าชัยชนะนัดแรกในการลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทัพ “ช้างศึก” ด้วย

ล่าสุด มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น ที่นำลูกทีมลงวอร์มอัพฟื้นฟูสภาพร่างกาย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้เผยว่าเกมแรกเป็นเกมที่ยาก แต่ว่าเราสามารถเก็บ 3 คะแนนได้ ถือว่าน่าพอใจมาก หลังจากเข้ามารับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอน ก็พยายามเรียกนักเตะเป็นกลุ่มเป็นก้อน เคยเล่นด้วยกันให้มากที่สุด และทำงานร่วมกันมาก่อน ซึ่งมีส่วนสำคัญมากทำให้เราเก็บชัยชนะในเกมนี้

“ทัวร์นาเมนท์เอเชียน คัพ ครั้งนี้ กว่าเราจะได้ถ่ายทอดสด ค่อนข้างกระชั้นชิดมาก แต่เราได้ดูถ่ายทอดสดถึง 2 ช่อง น่าจะทำให้แฟนบอลดีใจกับทีมชาติไทยที่สามารถเก็บชัยชนะได้”

“การที่ สุภโชค สารชาติ เล่นร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ ในทีมได้ดีวันนี้ ถือว่าเขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทำให้เราคว้าชัยในวันนี้ในสนามวันนี้ผมใช้ผู้เล่นที่เคยทำงานด้วยกันมาถึง 7 คน เพราะผมต้องการที่จะใช้พวกเขาในแบบที่ผมถนัดและรู้ถึงความสามารถของพวกเขาซึ่งมันก็ได้ผล ผมไม่ขอพูดถึงทีมคู่แข่ง แต่ผมดีใจมากที่ชนะในวันนี้”

ทางด้าน นิโคลัส มิคเกลสัน แบ๊กขวาคนสำคัญ เชื่อว่าทีมชาติไทย ควรจะทำประตูได้มากกว่านี้ หลังจากที่ทีมมีโอกาสมากมาย “ผมคิดว่าเราทำได้ดีมาก และผมเห็นด้วยว่าเราน่าจะยิงประตูได้มากกว่านี้ เราสร้างโอกาสได้มากมาย และผลสกอร์ที่ออกมาก็ถือว่าดีมาก”

“ประเทศไทยเป็นประเทศของผม ผมสนุก และรับใช้ชาติด้วยความเต็มใจ ผมทำเต็มที่เสมอในการลงเล่นในสนาม ผมภูมิใจ รวมถึงมีความสุขมากกับการได้เล่นให้ทีมชาติไทย”

ส่วน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ขณะเดินทางไปร่วมงานประชุม World Economic Forum (WEF) ระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม 2567 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ระบุว่า “ระหว่างเดินทางนั่งรถขึ้นเขาไป Davos ติดตามการแข่งขันของฟุตบอลทีมชาติไทยตลอดครับ ดีใจครับ หมดเวลาชนะไป 2-0 จากนี้ไปมันแน่ ช่วยกันติดตามและเป็นกำลังใจต่อครับ”

ขณะเดียวกัน จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ คะแนนในอันดับโลกของไทยซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับ 114 ของโลก มีโอกาสขยับขึ้นสูง เนื่องจาก ศึก เอเชียน คัพ มีตัวคูณคะแนน หรือ Weight ถึง 35 มากกว่า การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอ อาเซียนคัพ ที่ได้เพียง 5 คะแนน ถึง 7 เท่าตัว และมากกว่าเกมอุ่นเครื่อง 3.5 เท่า ซึ่งการคำนวนจากชัยชนะเหนือคีร์กิซสถาน อันดับโลกเหนือกว่า ทำให้ไทยมีคะแนนเพิ่มขึ้นจาก 1,175.98 บวกเพิ่มอีก 18.99 คะแนน เป็น 1,194.97 คะแนน ซึ่งเวลานี้จะมีคะแนนมากกว่า อินเดีย 1,193.33 คะแนน อันดับ 105 แล้วอย่างไม่เป็นทางการ

ซึ่งอีกสองนัดที่เหลือ ไทยมีโปรแกรม เจอกับ โอมาน อันดับ 74 ของโลกหากเซอร์ไพรส์เอาชนะได้จะมีแต้มเข้ากระเป๋าอีก 22.53 คะแนน จะมีแต้มเป็น 1,217.5 คะแนน ซึ่งอาจจะเหนือกว่า คาซัคสถาน อันดับ 99 ของโลกในเวลานี้ที่มี 1,215.6 คะแนน ไทยมีโอกาสขยับกลับเข้าสู่ท็อป 100 ของโลกได้หลังจบเอเชียน คัพ เลยทีเดียว

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทย จะทำการแข่งขัน ฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย กลุ่ม เอฟ นัดที่สอง พบกับ โอมาน ที่ อับดุลลาห์ บิน คาลิฟา สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2567 เวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง PPTV HD ช่อง 36 และ T-Sports 7