สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ก็คือความคาดหวังที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ และจะเป็นแรงกดดันที่จะมาพร้อมกับแรงผลักดัน
อยู่ที่จะเปลี่ยนอะไรมาอยู่กับเรา ในการเดินทางครั้งสำคัญต่อไปของ ทีมชาติไทย ในยุคของ มาซาทะดะ อิชิอิ
หลังจากเราทำได้ตามเป้าประสงค์
4 คะแนน จาก 2 นัดแรก ตามคาดการณ์ที่ต้องทำให้ได้, ผ่านรอบแรกและตีตั๋วสู่น็อกเอาท์
โลกนี้มี 2 มุม และเหรียญมี 2 ด้าน อยู่เสมอ
มุมแรกแน่นอน คือ ภาพบวก
แม้จะมีการเตรียมการที่ยุ่งเหยิง แต่พวกเขาก็ยังทำผลงานเท่ากันกับปี 2019 นั่นคือเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ไม่มีอะไรอื่นนอกจากความภาคภูมิใจในความพยายามของทีมนี้
แผนและวิธีการบวกกับความกล้าของ อิชิอิ สอบผ่านมากๆ
จะมีโค้ชคนไหนบ้างที่ “กล้า” จะเปลี่ยนแปลงทีมในเกมเจอกับหนึ่งในยอดทีมประจำทวีปอย่าง ซาอุดีอาระเบีย ก่อนจะเสมอได้แบบเหลือจะเชื่อ
วิธีการที่ใส่ไปให้กับทีมน่าสนใจ เพราะนักบอลเคลื่อนตัวดี ออกบอลได้ ผิดหูผิดตากว่าที่เคย
มีแบบแผนรูปทรงองค์เอวดูดีกว่าที่เคยเป็น
การแก้เกมคือปัจจัยสำคัญของทุกกีฬา เราจะเห็นว่า อิชิอิ ทำได้ดีตั้งแต่เกมแรก นั่นคือเมื่อไม่เคยเพรสหนักและไม่เคยถูกเพรสหนัก ใช้การถอนกำลังช่วงปลายครึ่งแรก จากนั้นต้นครึ่งหลังลุยจนได้ผลที่ต้องการคือ ชนะ คีร์กิซสถาน 2-0 คว้าชัยนัดเปิดสนามได้เป็น “ครั้งแรก”
จากนั้นเล่นบอลเพื่อเน้น “ผลเสมอ” ซึ่งถือว่ายากมากกว่าเล่นให้ชนะหรือแพ้ด้วยซ้ำ ก่อนจะยัน โอมาน ได้สำเร็จ 0-0ได้คะแนนที่เป็นไปตามที่คิด
ก่อนจะทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อเปลี่ยนผู้เล่นแบบ “ยกทั้งแผง” เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 0-0 เข้ารอบได้แบบ “ไม่เสียประตู” เป็น “ครั้งแรก”
ก่อนที่จะเข้ารอบน็อกเอาท์ปรับแพ้ให้กับอุซเบกิสถาน 1-2
นักฟุตบอลหลายคนทำหน้าที่ได้ดี
นักฟุตบอลหลายคนควรได้ไปต่อ, นักฟุตบอลหลายคนควรจะได้โอกาสอีกสักครั้ง
แน่นอนว่านักฟุตบอลหลายคนควรจะพอได้แล้ว
ทีนี้นำพามาถึง “ภาพลบ” กันบ้าง
ยุทธวิธีในการเล่นเกมรุกที่เราต้องการความหลากหลาย และช็อต ซีเลคชั่น ที่อาจไม่ต้องว้าว แต่ขอแค่เข้าช่อง และวิธีการรับมือกับฟุตบอลสมัยใหม่ ที่เราได้ปะทะกับทีมที่ “แกร่งขึ้นเรื่อยๆ” กับทัวร์นาเมนท์ที่เตะต่อเนื่อง
นั่นหมายว่า เทคนิคของผู้เล่นต้องมากขึ้น เมื่อเจอการเล่นแบบโดนเพรส, การถูกบีบสนามให้แคบ, การเข้าปะทะ และสำคัญมากๆ คือ บอลสอง
ตัวอย่างสำคัญคือ เกมแพ้ อุซเบกิสถาน ที่เรา “แผนแตก” ในครึ่งแรก ที่เสียประตู ซึ่งการจัดตัวนั้นหลายคนเซอร์ไพรส์และวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง ซึ่งชัดเจนว่า โค้ชต้องการผลเสมอ แต่ดันผิดแผน
อิชิอิ ต้องการเล่นเอาปีกมาซ้อนแบ๊ก เพื่อปิดพื้นที่ไม่ให้ครอส ใช้ผู้เล่นที่มีทักษะเกมรับมากกว่าเกมรุก แต่มันแลกด้วยจังหวะการเล่นเมื่อนานเข้า กองกลางจะปนกับกองหลัง และจังหวะสวนกลับ หรือทรานซิชั่นทำไม่ได้ เท่ากับรอเสียประตู
ทีนี้การเล่นในระดับสูงเพื่อโบกประสบการณ์เข้าหา ซึ่งไทยเราทิ้งโอกาสสำคัญไปอย่าง “ฟีฟ่าเดย์” ที่มีโอกาสไปเจอกับเกมกดดัน เกมเพรสบนแบบยุโรป 2 เกมนั้น ผู้เล่นชุดนี้แทบจะไม่มีใครได้สัมผัส (เพราะเอาชุดสองไปเตะ) มีส่วนไม่น้อย เพราะ อุซเบฯ นี่ก็บอลยุโรปดีๆ นี่เอง
ดังนั้น รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราควรจะดีกว่านี้ทั้งในเรื่องของประสบการณ์, เทคนิค และสมาธิจึงส่งผลต่อเสี้ยววินาทีที่เราผิดพลาด และถูกลงโทษ
ทำให้เราไม่ได้ไปต่อ
...สุดท้ายนี่คือผลงานภาพรวมที่ “แปลกตา” และได้สร้างความสุขให้คนไทย จนต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และสต๊าฟโค้ช รวมถึง อาริกาโตะโกไซมัส กับ อิชิอิ
ภาพสวยๆ แบบนี้ช่วยลบการเตรียมทีมแปลกๆ ไปพอได้ และทำให้บอลไทยดูเหมือนกับมีความหวังอีกครั้ง เนื่องจากวิธีการ กับทรงบอลถ้าหากดีแล้ว ผลการแข่งขันที่ดีมันจะตามมา แต่...
แต่จากนี้ไปคือ ปฏิบัติการสำคัญ นั่นคือภารกิจในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก อีก 4 นัด แน่นอนว่า หลังจากทำได้ดีบนเวทีระดับเอเชียแบบนี้ ย่อมส่งผลถึง “ความคาดหวัง”ที่เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
แสงสว่างจากปลายอุโมงค์เริ่มมี นั่นก็หมายความว่า บรรทัดฐานให้ “อิชิอิ” ที่จากนี้ไป จะต้องพบกับ โดยไม่ต้องพับกบ
1.พบกับแรงกดดันจากความคาดหวังที่มากยิ่งขึ้น
2.พบกับการทำงานแบบไทยแลนด์ เวย์ อีกหรือไม่ ในยุคผู้บริหารใหม่ (เลือกตั้งนายกบอล 8 กุมภาพันธ์)
3.พบกับวิธีการเล่นแตกต่างที่ไม่ใช่ทัวร์นาเมนท์
บอลทัวร์นาเมนท์ กับบอลคัดเลือก วิธีการและอารมณ์มันคนละอย่าง ซึ่งมัน “พลิกยาก” กว่าชัดเจน
กระดูกชิ้นโตอย่าง เกาหลีใต้ สะแหยะยิ้มรออยู่ตรงหน้า 2 นัดติดต่อกัน กับการที่เรา “ตีเป็น 0 คะแนน” ไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งการไปเยือนที่กรุงโซล ในวันที่ 21 มีนาคม ก่อนจะกลับมาบู๊กันในอีกรอบที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 26 มีนาคม
“รูปการณ์” และ “สภาพ” จะออกมาแบบไหน
ว่ากันตามเชิงก็คือ เป้าใหญ่เป้าหลักเพื่อเข้ารอบต่อไปนั่นคือ ต้องบุกไปถลกหนังมังกรจีนให้ได้ถึงแผ่นดินใหญ่ ในวันที่ 6 มิถุนายน ต่อด้วยเฝ้าบ้านทำน้ำกะทิรอซด “ลอดช่อง” สิงคโปร์ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 11 มิถุนายน
กับวลีหลังเกมของ อิชิอิ ที่บอกว่า “ทุกคนทำได้ 100% จากนี้ขอให้ทำให้ดียิ่งกว่าเดิม เป้าหมายของเราอยู่ที่การไปฟุตบอลโลก 2026 เอาใหม่นะทุกคน!” ตามโพสต์ของเพจช้างศึก
ต้องบอกว่า อิชิอิ มีเป้าหมายซึ่งถือว่าดี แต่นั่นแหล่ะมันจะทำได้ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว เมื่อสุดท้ายบนโลกแห่งความเป็นจริงที่สวยงามแต่แฝงไปด้วยความโหดร้ายอยู่เสมอๆ
ทั้งนักบอล, ทั้งอิชิอิ, ทั้งผู้บริหาร และแฟนฟุตบอลที่ชื่นชมในวันนี้
เรื่องอื่นไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องใจสำคัญ...
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี