การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษในรอบ 6  หรือ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2024 เป็นการปะทะกันของคู่ปรับตลอดกาล “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในเวลา 22.30 น. 

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้พักมาเต็มๆ เพราะไม่มีโปรแกรมกลางสัปดาห์ ผลงาน 5 เกมหลังสุดชนะ 3 แพ้ 2 ในรายการนี้รอบที่ผ่านมาบุกไปเฉือน “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮมฟอเรสต์ มา ทีมของ เอริค เทน ฮากจะไม่มี ลุค ชอว์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, เมสัน เมาท์ และไทเรลล์ มาลาเซีย ที่ยังบาดเจ็บ ส่วนราสมุส ฮอยลุนด์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และแอรอน วาน-บิสซาก้า น่าจะผ่านความฟิตมีส่วนร่วมในเกมนี้ จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 วาง คาเซมิโร่ คุมแดนกลางร่วมกับดาวรุ่งอย่าง ค็อบบี้ ไมนู แนวรุกใช้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ประสานงานกับ บรูโน่ เฟอร์นานเดส และมาร์คัส แรชฟอร์ด โดยมี ราสมุส ฮอยลุนด์ ยืนหน้าเป้า ฝั่งผู้มาเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ถล่ม “นักบุญ” เซาแธมป์ตันในรอบที่แล้ว 3-0 เพิ่งผ่านเกมกลางสัปดาห์ในศึกยูโรป้า ลีก ด้วยการเปิดบ้านถล่ม สปาร์ต้า ปราก 6-1ชนิดที่ไม่ได้โรเตชั่นทีมมากมาย แม้เลกแรกจะบุกไปชนะได้ก่อน 5-1เกมนี้กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ไรอัน กราเฟ่นแบร์ช,ดีโอโก้ โชต้า, เคอร์ติส โจนส์,อลิสซอน เบ็คเกอร์ และเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ส่วน อิบราฮิม่าโกนาเต้ ต้องรอทดสอบความฟิต นอกนั้นไม่น่ามีปัญหาอะไร ยึดระบบ 4-3-3 ใช้ วาตารุ เอนโดะ คุมแดนกลางร่วมกับ โดมินิค โซโบสไล และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ส่วนแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น่าจะได้สตาร์ทตัวจริงประสานงานกับ ดาร์วิน นูนเญซ และหลุยส์ ดิอาซ 

สถิติการพบกันของทั้งสองทีมในรายการนี้ เจอกันมา 18 ครั้งแมนฯยูไนเต็ด ข่มมิดชนะได้ถึง 10 เสมอ 4 และลิเวอร์พูล ชนะ 4 แถมไม่แพ้ให้กับ “หงส์แดง” รายการนี้ยามที่เล่นในบ้านมาตั้งแต่ปี 1921 หรือ 103 ปี

สกอร์ที่คาด : แมนฯยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล

อีกคู่ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เริ่มในเวลา 19.45 น. “สิงห์บลูส์” เชลซีจะเปิดถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือน “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้จ่าฝูงจากศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ช่วงนี้ผลงานไม่ค่อยดี ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 จากการลงเล่น 5 เกมหลังสุด 

สกอร์ที่คาด : เชลซี 3-1 เลสเตอร์ ซิตี้