“จิ้งจอกสีน้ำเงิน” สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังในศึกฟุตบอลอังกฤษ รายงานผ่านทางเว็บไซต์ของสโมสรถึงผลขาดทุน 89.7 ล้านปอนด์ ในฤดูกาล 2022-23 ทำให้ผลขาดทุนรวมจาก 3 ฤดูกาลหลังสุดในพรีเมียร์ลีก มีมูลค่ามากกว่า 215 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

“จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ถูกตั้งข้อหาเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎผลกำไรและความยั่งยืน (profit and sustainability rules : PSR) ที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขที่พวกเขาเปิดเผยในขณะนี้ ซึ่งกฎลีกสูงสุดอนุญาตให้สโมสรขาดทุนได้ 105 ล้านปอนด์ ตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือเฉลี่ยคือปีละ 35 ล้านปอนด์

สิ่งนี้เกิดขึ้นแม้ว่า เลสเตอร์ จะตกชั้นเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว โดยทำกำไรจากการขายนักเตะได้มากถึง 74.8 ล้านปอนด์ แต่มันหักลบไม่พอ ซึ่งในบัญชีของสโมสร ได้ระบุว่า การตกชั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิด และน่าผิดหวังมาก หลังจาก 3 ซีซั่น หลังนั้นทีมจบอันดับที่ 5, 5 และ 8 ก่อนจะตกชั้นในปีก่อนด้วยอันดับ 18

ซูซาน วีแลน ผู้บริหารระดับสูงของสโมสร กล่าวว่า หลังจากการเติบโตและความสำเร็จของสโมสรมาอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ฤดูกาล 2022-23 ถือเป็นการพ่ายแพ้ครั้งสำคัญ ซึ่งผลที่ตามมาจะรู้สึกได้เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว

“เวลานี้เราต้องมุ่งเน้นไปที่การสร้างใหม่และพยายามกลับคืนสู่การสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ในพรีเมียร์ลีก หลังจากบรรลุตำแหน่งจบในพรีเมียร์ลีกที่ดีมากช่วง 3 ฤดูกาลก่อนหน้านี้เป้าหมายของเราและงบประมาณที่เกี่ยวข้องสำหรับปี 2022-23 นั้น สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง”

“อย่างไรก็ตาม สำหรับสโมสรเช่นเรา ซึ่งความสำเร็จด้านกีฬาที่ยั่งยืนได้พิสูจน์ให้เห็นถึงระดับการลงทุนที่จำเป็นในการแข่งขันกับสโมสรที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และไล่ตามความทะเยอทะยานของเรา แต่ฤดูกาลของผลงานที่ด้อยประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญในสนามเมื่อปีก่อน นำมาซึ่งความท้าทายทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก มุมมองของกฎการทำกำไรและความยั่งยืนของเกมในปัจจุบัน”

เลสเตอร์ พยายามระดมทุนได้ประมาณ 70 ล้านปอนด์โดยการขายเวสลีย์ โฟฟาน่า กองหลังชาวฝรั่งเศสให้กับเชลซีในเดือนสิงหาคม 2022 และเจมส์ แมดดิสันกองกลางทีมชาติอังกฤษ ย้ายไป ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่ตัวเลขเหล่านั้นถูกชดเชยด้วยการไล่เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และทีมงานโค้ชของเขา รวมถึงผู้ช่วยผู้จัดการทีม คริส เดวีส์ ในเดือนเมษายน 2023 ที่ “แพงมากจนน่าตกใจ”

บัญชีไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใดในการไล่ ร็อดเจอร์ส แต่มันทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 26 ล้านปอนด์ ทำให้ตัวเลขกลายเป็น 301.8 ล้านปอนด์ทันที

มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 177.3 ล้านปอนด์ จาก 214.6 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า แต่ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรได้เคลียร์หนี้คงค้างของสโมสร 194 ล้านปอนด์ ให้กับบริษัทแม่ คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

“ความมั่นคงทางการเงินและความมุ่งมั่นในระยะยาวและต่อเนื่องที่ได้รับจากคุณอัยยวัฒน์ ครอบครัวศรีวัฒนประภา และคิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ช่วยให้สโมสรสามารถสร้างสโมสรขึ้นมาใหม่ได้อย่างมั่นใจ” วีแลน กล่าวเสริม

การเปิดเผยบัญชีของเลสเตอร์เกิดขึ้น 12 วันหลังจากที่พวกเขาถูก พรีเมียร์ลีก กล่าวโทษจากข้อกล่าวหาการละเมิด PSR และความล้มเหลวในการส่งการเงินที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว

การสูญเสีย 215.3 ล้านปอนด์ในช่วง 3 ปีนั้นรวมถึงการสูญเสียก่อนหักภาษี 33.1 ล้านปอนด์จากฤดูกาล 2020-21 ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอคัพ และการขาดทุนเป็นสถิติสโมสรที่ 92.5 ล้านปอนด์ในปีต่อมา

เลสเตอร์ ยังตกอยู่ภายใต้การสอบสวนทางการเงินแยกต่างหากโดย “ลีกฟุตบอลอังกฤษ” หรือ EFL (ทีมอาชีพนอกพรีเมียร์ลีก 3 ดิวิชั่นขึ้นตรงกับองค์กรนี้) เลสเตอร์จึงตอบโต้ด้วยการเริ่มดำเนินคดีทางกฎหมายกับทั้ง EFL และพรีเมียร์ลีก