‘แดงเดือด!ผลเสมอ เสียใจ...เสียดาย…เสียโอกาส แต่ไม่ใช่‘จุดจบ’ของซีซั่น

ทุกคนสามารถที่จะคิดไปได้หมด หลังจบแดงเดือด โดยเฉพาะ ลิเวอร์พูล ทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ได้ผลเสมอ 2-2 กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เสียใจ , เสียดาย , เสียโอกาส บลาบลาบลา

บ่นไปไม่ว่า ยังไงก็ยังดีซะกว่า “แฟนบอล” คนเดียวกันกับที่บอกว่า เมื่อแพ้ ก็จะบอกว่าหมดลุ้น , หลุดท็อป 4 , ว่า เอนโดะ เป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดแย่ , อยากให้ขาย ดาร์วิน นูนเญซ ไปซะ และอ้างว่าฤดูกาลนี้ “จบลงแล้ว”

ใช่!!!!มันเป็นผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า มันจะเป็นจุดจบของซีซั่น

เพราะ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยังคงเป็นสนามที่ยากลำบากในประวัติศาสตร์สำหรับ ลิเวอร์พูล อยู่เสมอ ๆ

แล้วมันเป็นการเสีย 2 แต้ม มากกว่าได้ 1 แต้ม จริงหรือไม่?!?!?

“ผมรู้ว่าผู้คนมองว่ามันเป็นการเสียสองแต้ม สำหรับผมเรามีแต้มมากกว่าก่อนเกมนี้ 1 แต้มนะ” เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือหงส์ ระบุ

หลายข้อความ จับตาที่แนวรุก หรือ Our front line players

ลิเวอร์พูล มีโอกาสยิง 62 ครั้งในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกสองนัดที่พบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้

34 ครั้งที่แอนฟิลด์ กับ 28 ครั้ง ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด

เกมรุกกลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เพราะตัวจริงทั้งหมด “ดิอาซ-นูนเญซ-ซาลาห์” พวกเขาต่างก็เป็นผู้เล่นที่ดีจริงๆ ในแบบของตัวเอง

แต่ตอนนี้เหมือนกับ “ไม่มีเจ้าภาพ” และ “ต่างคนต่างจะเล่น” พร้อมกับไม่สนับสนุน “ซึ่งกันและกัน” ให้ใครในสามคนนั้นจบสกอร์ได้อย่างสม่ำเสมอ

แน่นอนว่า รวมถึงตัวของ โม ซาล่าห์ ในด้วยตอนนี้

ซาลาห์ ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน และทำได้ 6 เกมติดต่อกัน

แต่ภาพรวมยังไม่ดีนัก ทำให้หลายคนคิดถึง โชต้า

“ตอนนี้เราได้เวลาเล่นบอลลีก-บอลยุโรป โดยในวันพฤหัสบดี แล้วก็กับคริสตัล พาเลซ เกมส์กำลังมาอย่างเข้มข้นและรวดเร็ว เอาเป็นว่า ผมอาจจะไม่ถึงกับผิดหวังมากนัก มันก็โอเค” คล็อปป์ บอก

กรณีความผิดพลาดของ จาเรลล์ ควอนซาร์ จนเสียประตูตีเสมอนั้น คล็อปป์ มองว่า เป็นปกติ

“ผมคิดว่า จาเรลล์ จัดการกับมันได้ดีมาก เมื่อไอดอลของเราในอดีตทำผิดพลาดแบบนี้ ก็ไม่มีโซเชียลมีเดีย ผมหวังว่าเขาจะฉลาดพอที่จะปิดส่วนนั้นออกไป เพื่อเป็นนักกีฬาที่ดี”

“เด็กๆของผมพาทีมมาได้ 71 แต้ม

ไม่จำเป็นต้องไปพูดในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ทำเรายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์”

นาทีปัจจุบัน

+ 71 แต้ม – อาร์เซนอล (+51 )

+ 71 แต้ม – ลิเวอร์พูล (+42 )

+ 70 แต้ม – แมนฯ ซิตี้ (+40 )

ผู้เข้าชิงตำแหน่งมีเกมให้เล่นทีมละ 7 เกม

แล้วใครจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2023/24????

รู้อะไรก็ไม่สู้…รู้ตัวเอง

คิดกันง่ายๆ “เป้าหมาย” มันคืออะไร ก่อนเปิดซีซั่น

ทีมลุ้นกลับท็อป4 ก่อนเปิดซีซั่น พอผลงานดีก็เจอ “คนสายอวย” มาจุดพลุกันเพียบว่า “จะแชมป์”

ทีนี้น่าประหลาดดีมััย ลองถามกลับไปยังตัวเองว่า คล็อปป์ ทำมาตรฐานไว้สูงมากจนเสมอ 2-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำให้หงส์ยังแต้มเท่า เป็นจ่าฝูงของลีก

แต่ความรู้สึกของแฟนบอลบางคนเหมือนเป็นวันที่แย่ที่สุด

มาตรฐานทีมขนาดนี้เลยหรือ

แน่นอนว่าถ้า 9 ปีที่ผ่านมาภายใต้การคุมทีมของ คล็อปป์ ได้สอนอะไรเราบ้าง

หนึ่งในนั้น คือ ความสนุกในทุกช่วงเวลาและไม่ยอมแพ้?

เคาะประตูเช็คมงคลเลยฮะเปี๊ยก!!!!

#บีแหลมสิงห์