ผลลัพธ์แดงเดือด ครั้งที่ 214 ทำเอาหลายคน
นอนไม่หลับ
ด้วยวิธีการมันควรจะชนะได้ แต่ด้วยผลลัพธ์อาจทำให้คุณตาค้าง
แต่ถ้าคุณรู้เรื่องฟุตบอลดี มันไม่ได้เกินความคาดหมายที่ว่า โอลด์ แทรฟฟอร์ดคือฝันร้ายของ ลิเวอร์พูล อยู่เสมอๆ
ไม่ต้องกางตำราพูด ก็รู้กันดีอยู่ว่ามีเพียงทีมเดียวที่สถิติการเจอกัน หรือเฮด ทู เฮด มันชัดเจนว่า ลิเวอร์พูล เป็นรองบนโลกใบนี้แค่ แมนยูฯ เท่านั้นแค่ทีมเดียวในบอลอังกฤษ
แม้สถาการณ์จะตรงข้ามสุดๆ เพราะนี่เป็นแมนยูฯ ที่ห่วยสุดๆ ในรอบหลายปียังค้นหาอัตลักษณ์ทางยุทธวิธีที่แน่นอนต่อไป กับปีที่ 2 ของ เอริค เทน ฮาก
ข้อมูลไม่ใช่ทุกอย่าง แต่เป็นอะไรบางอย่างอยู่เสมอๆ ซึ่งเกมนี้ ลิเวอร์พูล เองเหนือกว่าทุกกระบวนท่า แต่สุดท้ายได้แค่ผลเสมอ
ไม่ใช่ว่าเสมอไม่ได้ แต่มันน่าเสียดายเมื่อเทียบกับโอกาสที่มี
ลิเวอร์พูล มีโอกาสยิง 62 ครั้งในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกสองนัดที่พบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ นั่นคือ 34 ครั้ง ที่แอนฟิลด์ กับ 28 ครั้ง ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด
เกมรุกกลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เพราะตัวจริงทั้งหมด “ดิอาซ-นูนเญซ-ซาลาห์” พวกเขาต่างก็เป็นผู้เล่นที่ดีจริงๆ ในแบบของตัวเอง
แต่ตอนนี้เหมือนกับ “ไม่มีเจ้าภาพ”และ “ต่างคนต่างจะเล่น” พร้อมกับไม่สนับสนุน “ซึ่งกันและกัน” ให้ใครในสามคนนั้นจบสกอร์ได้อย่างสม่ำเสมอ
แน่นอนว่า รวมถึงตัวของ โม ซาล่าห์ในด้วยตอนนี้
น่าตกใจตั้งแต่ โอกาสการทำประตูในครึ่งแรกของ ยูไนเต็ด เป็นศูนย์ ขณะที่ลิเวอร์พูล รังสรรค์โอกาสได้มากถึง 15 ครั้ง
เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีที่ยูไนเต็ด สร้างโอกาสไม่ได้เลยใน 45 นาทีแรกนับตั้งแต่เกมกับ แมนฯซิตี้ เดือนตุลาคม 2015
ครึ่งทางของครึ่งแรกการได้ประตูของ หลุยส์ ดิอาซ มาจากการซ้อมที่เข้าใจกัน และไม่มีการเข้าประกบของยูไนเต็ดคนใดเลยเป็นสกอร์ที่ 10 จาก 15 เกมหลังสุดของเขากับ ลิเวอร์พูล โดยยิง 7 แอสซิสต์ 3 ถือเป็นช่วงที่ดี ไม่เพียงแต่การเล่นในพื้นที่สุดท้ายได้น่าสนใจ เขาช่วยในการจบสกอร์ได้ดี
ประเด็นคือ ยูไนเต็ด อยู่ๆ ก็พยายามเหมือนจะเล่น อินเวิร์ตแบ๊ก โดยให้ ดีโอโก้ดาโลต์ เข้ามาด้านใน แต่ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไร เนื่องจากวิธีการของพวกเขาไม่ได้เคยทำแบบนี้มาก่อน เพียงแต่มาเพิ่มจำนวนผู้เล่นในแดนกลางที่ถูกรุมกินโต๊ะ เพราะสองคนอย่าง กาเซมิโร่ กับ ค็อบบี้ เมนู โดนจับฉีกไปฉีกมา เพราะ บรูโน่ ไม่ได้ลงมาช่วยเลย
ทุกๆ เกมรุกของลิเวอร์พูล เหมือนกับว่าพวกเขาก็แค่เดินเข้าไปในพื้นที่ว่าง เกือบจะเหมือนกับว่า เจอกับความง่าย
น่าสังเกตก็คือ เราไม่เคยเห็น เจอร์เก้น คล็อปป์ แสดงปฏิกิริยาโกรธเคืองต่อโอกาสที่พลาดเช่นนั้น ปกติแล้วเขาจะปรบมือให้กับการเล่นที่ต่อเนื่องแม้จะพลาดโอกาสพังสกอร์ เขารู้ดีว่าแมนฯ ยูไนเต็ดมีความเสี่ยงที่จะกลับมาเช่นเดียวกับเกมเอฟเอ คัพ ดังนั้นจำเป็นต้องนำ 2-0
โอกาสแรกของ แมนฯยูไนเต็ด กลายเป็นประตูทันทีนาทีที่ 50 เมื่อการผิดพลาดแบบเด็กอนุบาลของ จาเรล ควอนซาร์ ที่เตะไปไหนก็ได้ เปิดไปได้ร้อยกว่าไร่ ดันส่งไปเข้าทาง บรูโน่ ยิงอย่าง ชาญฉลาดเข้าไป
ไม่ต้องไปโทษกองหน้าที่ยิงไม่ได้ แต่ต้องบอกว่า เป็การพลาดแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในระดับมืออาชีพ
มันเปลี่ยนโฉมหน้าเกม จนกระทั่งมาโดน ค็อบบี้ เมนู หมุนตัวยิงเข้าไปอีกในช่วงที่ทีมกำลังเซตเกม หลังจากการเปลี่ยนตัว แล้วทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิมคือ แมนฯยูไนเต็ด ไม่มีอะไรเลย และลงไปกองเล่นเกมรับ แล้ว ลิเวอร์พูล ก็ได้ประตูจากการต่อบอลจนกระทั่ง แอร่อน วาน บิสซาก้าทำเสียจุดโทษ แล้ว โม ซาลาห์ ก็กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงในโอลด์ แทรฟฟอร์ดทุกรายการ 6 นัดติด
ผลจบที่เสมอ สำหรับ แมนฯยูไนเต็ดคือได้ 1 แต้มใหญ่ แม้ปากของ เอริค เทน ฮากผู้จัดการทีมจะกล้าๆ พูดว่า “เขาเสียสองแต้ม”
นั่นก็เพราะที่ผ่านมา ฝีปากมักจะร้ายกาจกว่าฝีมืออยู่เสมอๆ กับสำหรับกุนซือดัทช์คนนี้
แต่ที่แน่ๆ ทุกแต้มที่หล่นคือความเสียหายของลิเวอร์พูล ที่ทำได้แต่โทษตัวเองเท่านั้น ไม่มีข้อแก้ตัวที่จะไม่ชนะเมื่อคุณมีโอกาสมากเท่าที่พวกเขาสร้างไว้ที่นี่ ไม่มีการสาปแช่งไม่ให้มีโชคจากใครทั้งนั้น เพราะเกมนี้น่าจะจบและปัดฝุ่นก่อนพักครึ่ง
นาทีปัจจุบัน 71 แต้ม-อาร์เซน่อล (ประตูได้เสีย +51 ), 71 แต้ม-ลิเวอร์พูล (+42) และ 70 แต้ม-แมนฯ ซิตี้ (+40 )
ผู้เข้าชิงตำแหน่งแชมป์มีเกมให้เล่นทีมละ 7 เกม และมีอีก 21 แต้มให้ชิงชัย
แล้วใครจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2023/24 ????
บางคนบอกว่า แชมป์ได้ตัดสินไปแล้ว โวยวาย ตีโพยตีพาย หรือดีใจจนออกนอกหน้า สารพัดความบ้าผ่านโลกโซเชี่ยล เอาเข้าจริงก็คือ รู้จักฟุตบอลแล้วคุณก็จะรู้จักชีวิต
รู้อะไรก็ไม่สู้…รู้ตัวเอง
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี