ผ่าหงส์แพ้! พ่ายคาถ้ำหนแรกรอบ14เดือน
ทีมที่ลงเตะและสามารถคว้าชนะทั้งสองเกมแรกที่แอนฟิลด์ มี 5 ทีมนะครับ
1.ลิเวอร์พูล (1892)
2.โบลตัน (1896)
3.เบิร์นลีย์ (1897)
4.ชาร์ลตัน (1937)
5.อตาลันต้า (2024)
“เราจะชนะที่แบร์กาโมได้ไหม? ใช่ถ้าเราเล่นได้ดี เราจะชนะ 3-0 ได้ไหม? ผมไม่รู้ แต่เราต้องฟื้นตัว ทุกคนคงรู้สึกแย่มากจริงๆ เพราะมันสำคัญมาก"
คล็อปป์ กล่าวหลังเกม ลิเวอร์พูล แพ้ อตาลันต้า 0-3 พังคาบ้านครั้งแรกรอบ 14 เดือน
แฟนฟุตบอลสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้เนื่องจากความคาดหวัง เนื่องจากความรัก แต่ไม่ควรที่จะฟาดลงไปหนักเกิน ต้องประเมินสถานการณ์ด้วย…..
การไม่มีธงยกเว้น ธงขาวราคาประหยัด “No to ticket price increases!” โอเคว่า บรรยากาศไม่ดี แต่ไม่ได้เป็นหัวใจหลักในการแพ้
ไม่ใช่แพ้เพราะไม่ได้โบกธง มันอาจส่งผลกระทบบ้างต่อผู้เล่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจโดยตรง
แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่แพ้แต่อย่างใด
ผลงานของลิเวอร์พูลเต็มไปด้วยความผิดพลาดในหลายขณะและการมาร์ก การเข้าจุดที่ย่ำแย่ และความเจ้าเล่ห์แตกต่างกัน
อตาลันต้า ซึ่งรั้งอันดับ 6 ของตารางเซเรีย อา และมีคะแนนตามหลังจ่าฝูงอย่างอินเตอร์ มิลาน 32 แต้ม ได้เปรียบอย่างเต็มที่จากฟอร์มการเล่นที่ดุดัน, เพรสหนักแน่นทุกแนว และการจบสกอร์ที่โหดเหี้ยม
ผมมองเรื่องจังหวะก้าวเข้าหา การสืบเท้าเข้าพื้นที่ ไม่ใช่แค่ อตาลันต้า ฟิตกว่านะครับ
แต่พวกเขามีความสดมากกว่าชัดเจนจริง ๆ
แล้วความผิดพลาดแบบเดิม ๆ มันชัดเจน
1.การเข้าคู่ปิดพื้นที่ในเกมรับ จนเสียประตูที่ 2
2.ความผิดพลาดส่วนบุคคล นำพาสู่เสียลูกที่ 3
3.เสียประตูง่ายได้ประตูยากจริง ๆ ให้ไปดูประตูแรกที่เสีย
เมื่อลิเวอร์พูลไม่สามารถที่จะลงโทษพวกเขาได้โอกาสมีทั้งหลุดเดี่ยวแล้วก็ยิงชนคานและเสากระดอนออกแบบโชคร้ายของฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เมื่อเปลี่ยนสกอร์นำไม่ได้ฟุตบอล พอโดนนำแล้วบวกกับร่างกายมันสู้กันไม่ได้ด้วยเลยจบ
ลิเวอร์พูล ผ่านหลักครึ่งร้อยนัดในปีนี้ไปแล้ว ขณะที่ อตาลันต้า เล่นไป 42 เกม
แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะจบขาดขั้นนี้นะ
นาทีปัจจุบัน ชนะ 3 นัดจาก 7 เกมให้กับลิเวอร์พูล
ชัยชนะ 3 นัดดังกล่าวในการพบกับสปาร์ตา ปราก, เชฟยูไนเต็ด และไบรท์ตัน
ไม่มีคลีนชีตใน 8 เกม
คล็อปป์ เองก็ไม่ได้ให้ข้อแก้ตัวใดๆ สำหรับสิ่งที่เขาหวังว่า จะเป็นแค่ความผิดพลาด แทนที่จะกังวลอะไรไปมากกว่านี้ โดยที่ ลิเวอร์พูล เป็นอันดับสองในตารางพรีเมียร์ลีก โดยมีคะแนนนำอยู่ 71 แต้มตามจ่าฝูงอาร์เซนอล แต่ตามหลังผลต่างประตูได้เสีย
“นั่นเป็นผลงานที่ย่ำแย่ และเป็นเช่นนั้นจริงๆ” กุนซือชาวเยอรมนี กล่าวกับ TNT Sports “ผมไม่รู้ว่าพวกเขาสามารถเล่นแบบนั้นได้ เราไม่ดี และเขาดีมาก ในหลาย ๆ ช่วงเวลา มันแย่มากจริงๆสำหรับเรา”
ลิเวอร์พูล มีเวลาเพียงเล็กน้อยในการฟื้นตัวจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้
เกมกำลังเข้มข้นและจะมาอย่างรวดเร็วกับ คริสตัล พาเลซ ซึ่งอยู่อันดับ 14 ของตารางพรีเมียร์ลีก ที่แอนฟิลด์ในวันอาทิตย์ 2 ทุ่ม
จากนั้น “หงส์แดง” จะเดินทางไปอิตาลีเพื่อพยายามกอบกู้ผลงานในยูโรปา ลีก ก่อนที่จะเล่นเกมเยือนในพรีเมียร์ลีก 3 นัดติดต่อกันภายใน 1 สัปดาห์กับฟูแล่ม, เอฟเวอร์ตัน และเวสต์แฮม
เป็นช่วงเวลาสำคัญยิ่ง……
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หงส์แดงถูกมองว่า ทำคะแนนหล่นสองแต้ม ไม่ใช่ว่าได้ 1 แต้ม หลังจากเสมอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-2 หลังจากพลาดโอกาสมากมายไปเอง
ในเกมกับอตาลันต้า แนวรับของลิเวอร์พูล ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากผู้มาเยือนทำให้แอนฟิลด์ดูเป็นเรื่องง่าย
ลิเวอร์พูลจะพลิกสถานการณ์ได้หรือไม่?
แน่นอนว่าลิเวอร์พูลมีประวัติศาสตร์ในการพลิกสถานการณ์จากเลกแรกในการแข่งขันยุโรป คล็อปป์และผู้เล่นของเขาจะยังคงเชื่อว่าพวกเขาสามารถกอบกู้สถานการณ์นี้ได้
“เราจะคว้ามันกลับมาได้ไหม??? ใช่!!!” คล็อปป์กล่าว “ถ้าเราเล่นได้ดีมันก็เป็นไปได้”
เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมหงส์แดง กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือต้องไม่แสดงปฏิกิริยามากเกินไป
“ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะไปอิตาลี” กองหลังเนเธอร์แลนด์กล่าว “เราทำให้มันยากมากสำหรับตัวเราเอง ที่จะต้องตามหลัง 3 ลูก แต่หนทางที่จะฟื้นตัวได้ ก็คือการชนะเกมในช่วงสุดสัปดาห์”
“เราต้องการให้ทุกคนเปิดมันอีกครั้ง จากนั้นเราจะมุ่งเน้นไปที่การยิงอย่างน้อย 4 ประตูตรงนั้นที่แบร์กาโม่”
3 ประตูนั้นถือว่ายากสำหรับพวกเขาจริงๆ
แต่ อตาลันต้า คงช่วยให้ทีมลิเวอร์พูลรู้จักที่จะตื่น ถ้าพูดตามตรงคือ มีสติมากขึ้นหลังจากนี้
บางคนเล่นเพื่อตัวเอง และตามเสียงเชียร์จนเคยตัว
บางคนพลาดบ่อยจนเริ่มชาอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ หรือบางคนลืมตัวว่าต้องทำอะไรอย่าง โจ โกเมซ
บางคนจวก คล็อปป์ เรื่องการจัดตัวว่า ประมาท นั่นคือผลลัพธ์ที่มันแพ้ แต่ด้วยวิธีการไม่พบข้อผิดพลาดในการเลือก 11 ตัวจริงของคล็อปป์
ทีมเริ่มต้นได้ดี ที่พบว่ามีข้อผิดพลาดอยู่ที่วิธีการเล่นของเรา กองกลางนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมเกมและกำหนดจังหวะ ตามปกติแล้ว เราเล่นด้วยความเร็ว 200 ไมล์ต่อชั่วโมง
แต่เมื่อแท็คติกของคล็อปป์ ถูกปิด มีการพยายามแก้ไข แต่เปลี่ยนสำรองลงมา ก็แก้ไม่ทัน ดังนั้นไม่ได้เกี่ยวกับไลน์อัพแรกเป็นปัจจัยเลย
ส่วน โจ โกเมซ ได้โปรด ได้โปรด หยุดยิงเถอะ
Call me hopless romantic…..โรแมนติกแบบสิ้นหวัง
ผลลัพธ์นี้แสดงให้ผมเห็นว่าใครคือแฟนบอลแบบใดกันบ้าง และอีกมุมก็เป็นโอกาสที่จดจำจะเป็นค่ำคืนยุโรปนัดสุดท้ายของลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ ภายใต้การคุมทีมของ คล็อปป์ ก็เป็นได้
มันไม่มีธง มันไม่มีบรรยากาศ มันไม่มีอะไรจากผู้เล่น แต่มันจะต้องมีสติให้มาก ๆ ในการดูฟุตบอล
ซึ่งหลายคนหวังว่าจะมีอีกนัด……
อตาลันต้า มองขึ้นไปอีกขั้นในแง่ของคุณภาพ และสภาพร่างกาย จากทุกสิ่งที่ลิเวอร์พูลต้องเผชิญในการแข่งขันครั้งนี้จนถึงตอนนี้ เครดิตการเล่นต้องให้พวกเขาด้วย
ลิเวอร์พูลสมควรพ่ายแพ้ กับทีมที่เข้าใกล้เกมอยู่ตลอดเวย์ ด้วยความเคารพที่สมควรได้รับ
แต่ใครก็ตามที่กำหนดราคาตั๋วฤดูกาลหน้า ซึ่งนำไปสู่การประท้วงที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทำให้สิ่งที่อาจเป็นบรรยากาศที่ยกระดับจิตใจให้มันเบาบางลง
ถึงเวลาที่จะเรียนรู้ต้นทุนในการทำเงิน…อีกสักที
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หากนี่จะเป็นค่ำคืนยุโรปนัดสุดท้ายของเยอร์เก้น คล็อปป์ที่แอนฟิลด์ในฐานะผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล
นี่ไม่ใช่วิธีที่ทุกอย่างควรจะจบลง
#บีแหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี