เลสเตอร์ ซิตี้ พ้นผิดจากการถูกหักแต้ม
สัปดาห์นี้วงการฟุตบอลอังกฤษ ถือว่ารุงรังทั้งในและนอกสนาม
การต่อกรลุ้นแชมป์, หนีตาย ก็ต้องสู้ กฎใหม่ต่างๆ ก็ต้องบู๊กันไป สิ่งที่น่าสนใจคือ 3 ประเด็นที่หยิบยกมากันใน “แนวหน้า” ฉบับนี้
ประเด็นแรก เรื่องของเลสเตอร์ ซิตี้
ไม่เกี่ยวว่า “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” จะเป็นทีมที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ แต่การที่พวกเขาถูกกระทำเหมือนว่า “กลั่นแกล้ง” ในช่วงที่ทีมกำลังปีนบันไดไต่กลับมาจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกแต่จู่ๆ ก็มีการประกาศว่า จะหักคะแนนพวกเขาข้อหาขาดทุนจนผิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืน หรือ Profit and Sustainability Rule (PSR)
ซึ่งเป็นการประกาศล่วงหน้าอย่าง “น่าตกใจ” และ “มีนัย”อะไรบางอย่างที่เหมือนจะไม่ชอบมาพากล เพราะ พรีเมียร์ลีก มาออกประกาศได้ยังไงทั้งที่ เลสเตอร์ อยู่ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ
ระบบฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ คือ 4 ดิวิชั่น โดยที่ พรีเมียร์ลีก (ลีกลำดับที่ 1) จะแยกการบริหารออกมาจาก อีเอฟแอล(องค์กรฟุตบอลอังกฤษ : EFL) ที่ดูแล เดอะ แชมเปี้ยนชิพ, ลีก วัน และลีกทู ที่เป็นลีกลำดับ 2, 3 และ 4
ซึ่งทั้ง พรีเมียร์ลีก กับ อีเอฟแอล ทำงานกับ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ
กฎการเงินที่ตีตรากันไว้ก็คือ พรีเมียร์ลีก ขาดทุน 3 ปี ไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ หรือเฉลี่ยปีละ 35 ล้านปอนด์ ขณะที่ แชมเปี้ยนชิพ ขาดทุน 3 ปี ไม่เกิน 39 ล้านปอนด์ หรือเฉลี่ยปีละ13 ล้านปอนด์
เลสเตอร์ ซึ่งถูกห้ามโอนย้ายนักบอลโดย EFL หลังจากที่ พรีเมียร์ลีก ตั้งข้อหาพวกเขาสำหรับการละเมิดทางการเงิน โดยมีรายงานการขาดทุน 89.7 ล้านปอนด์ ในฤดูกาล 2022-23
พวกเขาติดลบทั้งหมดจาก 3 แคมเปญ ในช่วง 3 ซีซั่นหลังสุดของพรีเมียร์ลีกมากกว่า 215 ล้านปอนด์
เลสเตอร์ อาจจะมีบัญชีแดงจริง แต่ในแง่ของการบริหารจัดการแล้ว ไม่มีสิทธิ์ “ออกคำขู่” แบบนี้ได้
ดังนั้นเมื่อมีประกาศออกมาว่า ถ้าขึ้นชั้นมาได้ จะโดนตัดแต้มทันที ทำให้ เลสเตอร์ ได้รับความเห็นใจจากทั่วทิศ และพวกเขาประกาศสู้คดีนี้ทันที
กระทั่งเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะอนุญาโตตุลาการของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) มีคำตัดสินให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะคดีเกี่ยวกับการละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืน โดยไม่มีสิทธิ์หักคะแนนสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ในฤดูกาล 2023/24
คณะอนุญาโตตุลาการ แจงเหตุผลชัดเจนที่ว่า การที่ พรีเมียร์ลีกและ อีเอฟแอล ขอให้คณะกรรมการกำหนดบทลงโทษอย่างเร่งด่วน “ก่อนวันที่ 4 พฤษภาคม 2024” ซึ่งเป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของการเตะฤดูกาลนี้ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ
เจอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องปลุกลูกทีมตื่นจากฝันร้ายในยูโรป้า เพื่อไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก ต่อไป
ถือว่า “มิชอบด้วยกฎหมาย”
เนื้อหาคำตัดสินระบุว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา หรือ หนึ่งวันก่อนที่พรีเมียร์ลีกจะยื่นฟ้องสโมสร ในข้อหาละเมิดกฎทางการเงิน นั้น ปรากฏว่า อีเอฟแอล ได้ยื่นหนังสือถึงพรีเมียร์ลีกโดยระบุว่า จะลงโทษหักคะแนนเลสเตอร์ ซิตี้ ในข้อหาละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืน ตามคำตัดสินของคณะกรรมการวินัยของพรีเมียร์ลีก “ก่อนวันที่ 4 พฤษภาคม 2024”
ความแปลกก็คือ เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในลีกแชมเปี้ยนชิพ ไม่ใช่พรีเมียร์ลีก
เลสเตอร์ จึงดำเนินการทางกฎหมายทันที โดยให้เหตุผลของการโต้แย้งครั้งสำคัญนี้ว่า การลงโทษด้วยการหักคะแนนในขณะที่อยู่ในแชมเปี้ยนชิพ นั้น เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
ท้ายที่สุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา EFL ยอมรับกฎระเบียบนี้ และจะไม่มีการลงโทษอีกต่อไป
แถลงการณ์ EFL กล่าวว่า : “หลังจากได้รับคำแนะนำทางกฎหมายแล้ว EFL ได้ยืนยันกับทุกฝ่ายว่าในขณะที่ต้องการเคารพการตัดสินใจของคณะกรรมการวินัยของพรีเมียร์ลีก และในทางกลับกัน EFL ก็ไม่มีอำนาจในการหักคะแนน ตามข้อบังคับที่ร่างไว้ในปัจจุบัน”
แน่นอนที่สุด เรื่องนี้เป็นที่เข้าใจกันว่า เลสเตอร์ จะต้องไม่พอใจอย่างยิ่งกับความพยายามของ EFL ที่จะเทียบแต้มพวกเขาในฤดูกาลนี้
มีความรู้สึกที่สโมสร EFL กระทำการเกินความสามารถ เนื่องจากดูเหมือนว่าจะลงโทษในระยะนี้ แม้ว่ากฎระเบียบจะไม่อนุญาตให้พวกเขากำหนดโทษได้ในฤดูกาลนี้ก็ตาม
แถลงการณ์ของพวกเขาเมื่อวันศุกร์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกมสำคัญที่พลีมัธ ขณะที่พวกเขาพยายามรักษาโอกาสในการเลื่อนชั้นให้เป็นไปตามแผน เน้นย้ำถึงรสชาติอันขมขื่นที่ยังคงอยู่ระหว่างเลสเตอร์ กับ EFL แถมยังมีพรีเมียร์ลีกมาเกี่ยวข้อง
เอาเข้าจริงมันส่งผลกระทบต่อจิตใจ และฟอร์มการเล่นไม่มากก็น้อย เพราะ เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนหน้านี้เคยนำ 12 คะแนนหลังวันวาเลนไทน์
จากนั้นมันเกิดเหตุการณ์ตรงจังหวะพอดี แล้วกลายเป็นว่า พวกเขาต้องมาเจอกับเรื่องราวแบบนี้ต่อเนื่องเป็นเดือนๆ
ล่าสุด “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” พลาดท่าปราชัยสองนัดติดต่อกันเมื่อบุกไปพ่าย “สำเภาเขียว” พลีมัธ อาร์ไกลส์ 0-1 ทำให้สถานการณ์ยังตึงเครียดในการลุ้นขึ้นชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า
ประเด็นที่สอง คือการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก
มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซน่อล จะดวลกับ อูไน อเมรี่ บอสใหญ่วิลล่า
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2023 เกมสำคัญล่าแชมป์ 2 สนาม หากว่ากันถึงการลุ้นแชมป์ถึง 3 ทีม วีคนี้ โปรแกรมไล่จาก “ง่ายไปยาก” นั่นคือ แมนฯซิตี้ เจอกับ ลูตัน ทาวน์ เมื่อวันเสาร์, ลิเวอร์พูล เจอกับ พาเลซ และอาร์เซน่อล หนักสุดเจอกับ แอสตัน วิลล่า
ม้ายังคงวิ่งกันดุเดือดทั้ง 3 ตัว บอลกำลังสูสีแบบพลาดกันไม่ได้จริงๆ
เวลา 20.00 น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือน “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ โดยที่ ลิเวอร์พูล อยู่ในช่วงเวลาสำคัญ เพราะเพิ่งพ่ายคารังให้กับ อตาลันต้า 0-3 ในศึกยูโรป้า ลีก รอบ 8 ทีม เลกแรก คารังแอนฟิลด์ ส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างมาก เพราะช่วงหลังไม่ค่อยได้เห็นพวกเขายับเยินคาบ้านแบบนี้
เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องปลุกเร้าดึงสติลูกทีมกลับมา เกมนี้ยังไม่มี โฌเอล มาติ๊ป ที่บาดเจ็บ รวมไปถึง อลิสซอน เบ๊คเกอร์ ที่กลับมาซ้อมแล้ว แต่ยังไม่น่าจะสมบูรณ์ นอกนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยีดระบบ 4-3-3 โดมินิค โซโบสไล กลับมาเป็นตัวจริงคุมแดนกลางร่วมกับ วาตารุ เอ็นโดะ และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ส่วนแดนหน้าดร็อป ดาร์วิน นูนเญซ ที่ความมั่นใจกำลังหดหายไปอย่างน่าตกใจ โดยสวนทางกับการกลับมาของ ดีโอโก้ โชต้า ที่จะได้ลงไปประสานงานกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และหลุยส์ ดิอาซ
ทางฝั่งทีมเยือนภายใต้การคุมทีมของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์รั้งอันดับ 14 ของตารางยังไม่ปลอดภัยสำหรับการอยู่รอดบนลีกสูงสุด แต่อย่างน้อยขอแค่เสมอก็พอใจมาก ๆ ซึ่งนักเตะกำลังอยู่ในขั้นตอนการปรับตัว เล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทัพโดย เอเบเรซี่เอเซ่, ไมเคิ่ล โอลิเซ่ และฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ที่จะเป็นสามประสานในแนวรุก
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 ครั้งหลังสุด ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเยอะไม่แพ้เลย ชนะ 3 เสมอ 2 แต่หนนี้จะพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
ขณะที่ คู่ดึกเวลา 22.30 น. ถือว่าเป็นเกมที่น่าสนใจ “ปืนใหญ่”อาร์เซน่อล จะเปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า
เจ้าถิ่นเพิ่งเปิดบ้านเสมอกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค 2-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีม เลกแรก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ผลงานในลีกปีปฏิทิน 2024 ถือว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร 11 เกมติด ชนะ 10 เสมอ 1 ทีนี้อยู่ที่ว่า มิเกล อาร์เตต้า กุนซือจะเลือกใครลงเล่น จะพักใครบ้าง เพราะวีคหน้าต้องบุกไปเยือนถิ่นเยอรมนี
เป็นไปได้ที่จะมีการโรเตชั่นบ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดแน่นอน เพราะจะประมาทวิลล่าไม่ได้
ฝั่งผู้มาเยือน แอสตัน วิลล่า อยู่ในกลุ่มลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป เพิ่งลงเล่นกลางสัปดาห์ในศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบ 8 มีเลกแรกเปิดบ้านเอาชนะลีลล์จากฝรั่งเศส 2-1 และนี่คือการกลับถิ่นปืนอีกครั้งของ อูไน เอเมรี่
ประเด็นคือ กองกลางของวิลล่า ต้องปรับไปปรับมา ดั๊กลาส ลุยซ์ ห้องเครื่องคนสำคัญที่ดันมาติดโทษแบน ส่วน จาค็อป แรมซีย์,เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย และบูบาการ์ กามาร่า อยู่ในลิสต์แข้งเดี้ยงคาดว่า ยูริ ตีเลมานส์ จะต้องถอยลงมาคุมแดนกลางร่วมกับ จอห์น แม็คกินน์
สโมสรในพรีเมียร์ลีก “ลงมติเป็นเอกฉันท์” นำเทคโนโลยีล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ หรือ Semi-Automated Offside Technology มาใช้ในฤดูกาลหน้า
ไม่แปลกเลยที่ อาร์เซน่อล จะชนะได้สำเร็จ แต่อยู่ที่ว่าอาร์เตต้า จะทำอย่างไรกับวิธีการลงสนามนัดนี้ เพราะมันค่อนข้างจะต้องใช้พลังอีกพอสมควรเลยทีเดียว
ประเด็นสุดท้ายคือ พรีเมียร์ลีก จะมีกฎใหม่ในซีซั่นหน้า และยึดกฎเก่าเอาไว้เพื่อค้ำยัน
พรีเมียร์ลีก ได้ออกแถลงการณ์ในการประชุมผู้ถือหุ้นของพรีเมียร์ลีกวันนี้ เกี่ยวกับมติเอกฉันท์ในการนำเทคโนโลยีเช็คล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automated Offside Technology) SAOT มาใช้งานโดยจะเริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2024-2025
คำชี้แจง คือ เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้การวางแนวล้ำหน้าเสมือนจริงรวดเร็วและแม่นยำ โดยยึดตามการติดตามผู้เล่นแบบออปติคัล “ในบริบทดังกล่าว เทคโนโลยีนี้จะผลิตกราฟิกคุณภาพสูง”
สรุปก็คือว่า กว่าจะคิดทำได้ ขออนุญาติที่ต้องใช้คำว่ารอให้(เกือบ)พังทลายก่อนจริงๆ เพราะยอดติดตามลดลง บ่มเพาะความไม่เข้าใจ การถกเถียง ขาดความเชื่อมั่น และต้องสงสัยในฟุตบอลมากยิ่งขึ้น
ความกังขามาจากการมองเห็นการตัดสินใจที่ไม่ดี โดยมีเส้นวางในสนามซึ่งไม่สามารถแทนที่มุมมองของบุคคลในการตัดสินใจล้ำหน้าจากมุมกล้องได้
ทำตัวไม่สมควรไม่สมค่าแห่ง “แผ่นดินแม่แห่งฟุตบอล” แม้แต่นิดเดียว
นี่แหละ อังกฤษ ที่มันดื้อจนบางทีไม่รู้จะดื้อไปทำไม
....ที่น่าสนใจก็คือ การยืนยันว่า “จะใช้” ในการแข่งขัน “ซีซั่นหน้า” แต่ไม่ได้บอกว่า “เริ่มเมื่อไหร่”!!!!
ESPN ระบุว่า พรีเมียร์ลีก จะต้องยกเลิกสัญญากับHawk-Eye ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีล้ำหน้าในปัจจุบัน และบริษัทใหม่ที่มาทำ จะไม่พร้อมสำหรับ เทคโนโลยี SAOT ภายในเดือนสิงหาคม ช่วงเปิดฤดูกาล
เนื่องจากต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม เนื่องจากพรีเมียร์ลีกต้องการให้แน่ใจว่า เทคโนโลยีมีความน่าเชื่อถือ
ถือเป็นช่วงเวลาที่รุงรังจริงๆ!!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี