ศึกลูกหนัง รีโว่ ไทยลีก ประจำวันเสาร์นี้ จะมีลงสนามฟาดแข้ง 4 คู่ บิ๊กแมทช์จะอยู่ในเกมที่ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเปิดสนาม ช้าง อารีน่า รับการมาเยือนของ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด เริ่มฟาดแข้งในเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

ทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ยังคงนำจ่าฝูงเวลานี้ โดยมีแต้มนำ แบงค็อก ยูไนเต็ด อยู่ 3 คะแนน เกมนี้สภาพทีมของจอร์จินโญ่ กุนซือชาวบราซิล จะยังไม่มี 2 นักเตะทีมชาติไทยอย่าง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ พรรษา เหมวิบูลย์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆ พร้อมลงสนามทั้งหมด นำโดยศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงเฝ้าเสา ส่วนแนวรับมี ดิออน คูลส์, พรรษา เหมวิบูลย์ และ คิม มิน-ฮยอก ลงเป็นปราการหลังพร้อมให้ ธีราทร บุญมาทัน และ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เป็นวิงแบ๊กสองฝั่ง ส่วนแดนกลาง โกรัน เคาซิช, ลูคัสคริสปริม และ เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส จะคอยขับเคลื่อนเกมอยู่หลังสองกองหน้าอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด และ กิลเยร์เมบิสโซลี่

ทางฝั่ง “กิเลนผยอง” ที่ฟอร์มช่วงหลังไม่ธรรมดา ชนะ 4 เสมอ 1 จาก 5 เกมหลังสุด รั้งอันดับ 5 ของตารางเกมนี้สภาพทีมของ มิลอส โจซิค กุนซือของทีม จะไม่มี อี แจ-ซอง ปราการหลังคนสำคัญที่ติดโทษแบน แต่จะได้ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ กลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นภารกิจกับทีมชาติไทย U-23 นอกจากนี้ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวรและ ปรเมศย์ อาจวิไล ก็จะสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาในเกมนี้เช่นกัน ส่วนแกนหลักรายอื่นพร้อมลุยทั้งหมด นำโดย กวินทร์ธรรมสัจจานันท์ ฌอง-โคลด บิลลงก์, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์,พิชา อุทรา, วิลเลี่ยม ป๊อปป์ และ ปรเมศย์ อาจวิไล

ทั้งนี้ ผลงาน 5 นัดหลังสุดที่ทั้งคู่ดวลกันปรากฏว่า บุรีรัมย์ ชนะไปได้ 2 เกม เสมอ 3 เกม โดย 2 เกมหลังสุดจบด้วยผลเสมอทั้งคู่

สำหรับโปรแกรมคู่อื่นประจำวันเสาร์มีดังนี้ 18.30 น. ชลบุรีเอฟซี - นครปฐม ยูไนเต็ด, 19.0 น. สุโขทัย เอฟซี - อุทัยธานีเอฟซี, 20.00 น. บีจี ปทุม ยูไนเต็ด - การท่าเรือ เอฟซี