ต่างอารมณ์ : ขุนพลแข้ง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สะใจสุดขีดหลัง บุกมาเอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถึงถิ่นพาร์ค เดสแพรงส์ 1-0 (รวมผลสองนัดชนะ 2-0) ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี

มาร์โก รอยส์ ตัวรุกจอมเก๋าของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอมรับว่าเขาไม่อยากจะเชื่อที่ทัพ “เสือเหลือง” สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้งในรอบ 11 ปี

โดย “เสือเหลือง” หักปากกาเซียนด้วยการน็อก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในรอบรองชนะเลิศด้วยประตูรวม 2-0 ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลี่ย์ อีกครั้ง นับตั้งแต่ฤดูกาล 2012-13ที่พวกเขาพลาดท่าแพ้ บาเยิิร์นฯ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-2

รอยส์ เป็น 1 ใน 2 ผู้เล่นเคียงข้าง มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ ที่ยังคงเหลืออยู่จาก 11 ตัวจริงจากเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูซีแอล หนก่อน ซึ่งดาวเตะวัย 34 ปี เพิ่งประกาศจะแยกทางกับ ดอร์ทมุนด์ หลังจบฤดูกาลนี้เท่ากับว่าเกมที่ เวมบลี่ย์ จะเป็นนัดสุดท้ายในสีเสื้อ“เสือเหลือง” ด้วย

“พูดไม่ออกเลย หลังมากกว่า 10 ปี ผมอยู่ในรอบชิงชนะเลิศ(ยูซีแอล) กับ ดอร์ทมุนด์ อีกครั้ง อุสมาน เดมเบเล่ และ อาชราฟ ฮาคิมี่นั้นขึ้นเกมด้วยความเร็ว และเราต้องอดทนอย่างมาก เราชนะเกมนี้อย่างไร จะไม่มีใครถามถึงในวันพรุ่งนี้”

“การยิงชนเสาอีกครั้งจะไม่สำคัญในวันพรุ่งนี้ สิ่งสำคัญคือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อยู่ในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง ไม่มีใครคาดหวังเรื่องนี้ มันเหลือเชื่อจริงๆ”

ขณะเดียวกัน หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะปลอบใจลูกทีมให้พ้นความเจ็บปวดหลังทัพเปแอสเช ต้องอกหักอีกครั้งในเกม ที่พาร์ค เดส แพรงส์

โดยเกมนี้แม้ว่า เปแอสเช จะมีโอกาสลุ้นทำประตู 31 ครั้ง และยิงชนเสากับคานไปถึง 6 ครั้ง ทำให้ต้องรอแชมป์สมัยแรกต่อไปภายหลังเกม เอ็นริเก้ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดสุดๆ กับผลงานที่เกิดขึ้น “ผมได้คุยกับนักเตะทุกคนเป็นรายบุคคล และพยายามที่จะปลอบใจพวกเขา แต่มันเป็นไปไม่ได้ลเยที่จะปลอบใจนักเตะที่แพ้ในเกมรอบรองชนะเลิศที่เตะในบ้านตัวเอง หลายคนเจ็บปวดมาก แต่นั่นคือกีฬา และเราต้องเดินหน้าต่อไป” กุนซือชาวสเปน กล่าว

ทั้งนี้ รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้จะมีขึ้นที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 25 พ.ค.นี้