สภาพของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม บอกอะไรได้หลายอย่าง ทั้งที่ อังกฤษ ผ่านเข้ารอบมาในฐานะอันดับ 1 ในสาย
สองทีมเต็งกำลังจะลงสนามในวันอาทิตย์นี้
“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ จะลงเล่นเวลา 23.00 น.พบกับ ทีมชาติสโลวะเกีย และ “กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน จะพบกับ จอร์เจีย เวลาตีสอง
สองทีมที่ถูกยกให้เป็นตัวเต็งในการเป็นแชมป์ยูโร ณ เวลานี้ แสดงผลงานได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในรอบแรก
ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น อังกฤษ เต็ง 1 ในอัตรา 7-2 และตอนนี้อัตรายังคงเท่ากับเมื่อตอนทัวร์นาเมนท์เริ่มต้น นั่นมาจากการที่พวกเขามาอยู่ “สายล่าง” ที่ไม่ได้รวมพวกฟอร์มแรงเหมือนกับสายบน
ขณะที่ สเปน ขยับจากเต็ง 5 ในอัตรา 8-1 มาเหลือครึ่งเดียวคือ 4-1 เนื่องจากชัยชนะที่สวยงามและดุดันมากในรอบแรก
ว่ากันถึงเกม อังกฤษ กันก่อน
รอบแรกไร้ความประทับใจ และเรียกเสียงโห่ รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วทุกสารทิศ เพราะการเล่นที่เป็นยิ่งกว่า “ยานอนหลับ” ไม่มีพิษสงอะไรใดๆ มีแต่ถ่ายบอลไปมา เล่นไม่สนุก และไร้ความเฉียบคม
แต่สุดท้าย “จ๊อบสำเร็จ” ตามที่คิดเอาไว้นั่นคือ เข้าเป็นที่ 1 ของกลุ่ม
ไม่รู้ว่า อังกฤษ จะตื่นมาได้เร็วแค่ไหน ตามที่เคยได้วิพากษ์วิจารณ์ไปแล้ว
ทีนี้คำถามอยู่ที่ “สโลวะเกีย” คือใคร………..
ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ มาคู่กับฟุตบอลอยู่เสมอ ดังนั้นเรื่องนี้มักจะพูดคุยกันบ่อยครั้งในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
สโลวะเกีย หรือจะเรียก สโลวาเกีย ก็ตามแต่สะดวกปาก แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ สโลวีเนีย ที่แยกมาจากยูโกสลาเวีย
พวกเขาเคยมาได้แชมป์คิงส์คัพ 2 สมัย ปี 2004 และ 2018 ชนะไทยทั้งสองครั้ง ด้วยจุดโทษ และ 3-2 โดยนักบอลไทยที่ยิงได้คือ จักรพันธ์ แก้วพรหม กับ พรรษา เหมวิบูลย์
มีนักบอล 7 คนจากชุดแชมป์คิงส์คัพ 2018 อยู่ในทีมชุดนี้ พร้อมกับลงเป็นตัวจริงยืนหลักให้มากถึง 5 คน คือ มิลาน สครีเนียร์, มาร์ติน ดูบราฟก้า, ปีเตอร์ เพคาริค, ออนเดรย์ ดูด้า และสตานิสลาฟโลบ็อตก้า ส่วนอีกสองคนพร้อมบนม้านั่งสำรอง คือ นอร์เบิร์ตกียอมเบอร์ และแพทริค ฮโรซอฟสกี้
สโลวะเกีย มีพื้นที่ประเทศเพียง 48,845 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเล็กกว่าภาคตะวันออกของไทยด้วยซ้ำไป
พวกเขารวมประเทศกับเช็ก กลายเป็น เชโกสโลวาเกีย ปี 1918 หลังจากมหาอำนาจเดิมแตกพ่ายจากสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยพวกเขาแยกจากอาณาจักรใหญ่อย่าง จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
มีการทำ velvet revolution หรือปฏิวัติกำมะหยี่ ไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการไปปกครองกันเองซะที
เหตุเกิดเมื่อปี 1990 กลุ่มนักศึกษากว่า 1 แสนคน ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยจากระบอบสังคมนิยม จนกระทั่งพรรคคอมมิวนิสต์ล่มสลาย และมีการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย ครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี
ฝั่ง เช็ก ไม่ได้อยากแยก แต่ฝั่งนี้ต้องการ ก่อนจะแยกได้สำเร็จ
ตอนแรกคือ สาธารณรัฐสโลวัค เมื่อ 1 มีนาคม 1990 แต่พวกเขายังไปฟุตบอลโลก 1990 ด้วยชื่อ เชโกสโลวาเกีย
กระทั่ง 1 มกราคม ปี 1993 แยกประเทศจาก เชโกสโลวาเกียสมบูรณ์แบบ มาเป็น 2 ชาติ คือ ประเทศเช็กเกีย หรือ เช็ก และประเทศสโลวะเกีย
พร้อมกับมีข้อตกลงว่า “เงื่อนไขต่างๆ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของเชโกสโลวาเกีย จะเป็นของประเทศเช็ก เท่านั้น”
หากเรานับตั้งแต่สมัยรวมชาติ นี่คือ ยูโรหนที่ 5 ของพวกเขา
ครั้งที่ 1 ในยุคที่เป็น เชโกสโลวาเกีย พวกเขาเป็นแชมป์เมื่อปี 1976 ถือกำเนิดจุดโทษของ อันโตนิน ปาเนนก้า ที่ชนะเยอรมันตะวันตก 5-3 หลังจากเสมอกันในช่วง 120 นาที 2-2
ครั้งที่ 2 ยังอยู่ในยุคเชโกสโลวาเกีย ในปี 1980 ตกรอบรองชนะเลิศ แพ้ให้กับ อิตาลี ด้วยการดวลจุดโทษ 8-9
หลังจากแยกประเทศ ก็มาอีก 2 ครั้ง
ปี 2016 รอมานาน 23 ปี เข้ารอบในฐานะชื่อ “สโลวะเกีย” เข้ารอบน็อกเอาท์ด้วยการเป็น 1 ในอันดับ 3 ดีที่สุด และแพ้ เยอรมนี 0-3
ปี 2020 เตะปี 2021 ตกรอบแรก อุตส่าห์สตาร์ทชนะ โปแลนด์ 2-1 แต่มาแพ้ สวีเดน 0-1 และแพ้ สเปน 1-5 ตกรอบมินิลีก ซึ่ง ยูเครน ได้เข้ารอบแทน
เท่ากับว่า สโลวะเกีย เคยเข้ายูโรรวม 3 ครั้งรวมถึงครั้งนี้ และไม่ถือว่าเป็น “อดีตแชมป์” แต่อย่างใด
เนื่องจากที่ว่า “เงื่อนไขต่างๆ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของเชโกสโลวาเกีย จะเป็นของประเทศเช็ก เท่านั้น” นั่นแหล่ะครับ!!!
สเปน ที่ฟอร์มสดปราบทุกทีมจากรอบแรก จะสดต่อไปได้หรือไม่เมื่อเจอบอลบล็อกต่ำเก่งๆ อย่าง จอร์เจีย ที่เล่นแบบไม่กดดัน
ทีมนี้เป็นนักบอลเก๋าๆ เป็นหลักในสไตล์ไลน์โฟร์ หรือกองหลัง 4 คนเรียงหน้ากระดาน โดยมี โลบ็อตก้า เป็นหลักใหญ่ในแดนกลางแล้วให้ ดูก้า กับ คุซก้า เป็นตัวเดินเกม
หน้ากระดานชุดแรกของพวกเขาค่อนข้างดี แต่จะเร่งขึ้นหรือไม่เนื่องมาจากนักบอลตัวสำรองค่อนข้างห่างจากตัวจริง นี่คือสิ่งที่พวกเขาเสียเปรียบเมื่อทัวร์นาเมนท์เดินทางไปเรื่อยๆ
เท่ากับ “ความสด” เป็นรองอังกฤษ แต่เทคนิคไม่ได้เป็นรองเลย
ขณะที่ สเปน ที่มาโดยไม่มีใครคาดคิดหรือคาดหวังถึงว่าพวกเขานั้นจะเล่นได้ดี และขยับวุฒิฐานะจากเดิมเป็นทางในกลุ่มรอง ขึ้นมาเป็นม้าเต็งได้อย่างน่าสนใจ
สเปน ไม่ได้เล่นบอลเคาะไปมา ติกิตาก้า ได้จบและหมดยุคไปแล้ว แต่เป็น สเปน ที่กำลังพุ่งไปข้างหน้า เล่นบอลเร็วและแม่นยำอย่างมีนัยสำคัญ
“กระทิงดุ” ภายใต้การคุมทีมของกุนซือสายสร้าง “หลุยส์เด ลา ฟวนเต้” เพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนท์
น้าฟวน ที่เพิ่งอายุครบ 63 ปี ไปเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เขาคุมทีมเล็กๆ มาโดยตลอด ก่อนจะรับงานกับ อลาเบส ปี 2011 กระทั่งมาทำงานกับสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ตั้งแต่ปี 2013 ไต่มาตั้งแต่ยู-19, ยู-21 และยู-23 ก่อนจะคุมชุดใหญ่ปี 2023
พาทีมเป็นแชมป์ยูโร รุ่นยู-19 ปี 2015 (โรดรี้ กับ อูไนซิม่อน), แชมป์ยูโร รุ่นยู-21 ปี 2019 (อูไน, ฟาเบียน รุยซ์, ดานี่โอลโม่) และเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2021 แพ้ บราซิล 1-2(อูไน, มาร์ค คูคูเรย่า,เปดรี้)
นักบอลในวงเล็บคือนักบอลคนสำคัญของชุดนี้ทั้งหมด แน่นอนว่าพวกเขาเหนือกว่า จอร์เจีย แบบสุดลิ่มทิ่มประตู แถมยังเคยถล่มแหลก 7-1 ในการเจอกันเมื่อ 8 กันยายนปีที่แล้ว นับเป็นความพ่ายแพ้ที่ยับเยินที่สุด นับตั้งแต่ได้รับเอกราชเมื่อปี 1990
อย่างไรก็ตาม จอร์เจีย คือหนึ่งในความปั่นป่วนที่น่าอัศจรรย์ที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโร ท่ามกลางความไม่สงบในบ้านเมืองของพวกเขาเอง
การเข้ารอบครั้งนี้ ตอกหน้าพวกที่เคยดูถูกเนชั่นส์ลีก ดังนั้นควรจำไว้ว่านี่คือเนชั่นส์ลีกที่ทำให้จอร์เจียได้มาตะลุยชิงแชมป์ยูโร!
หลายคนถามว่า จอร์เจีย มีอะไรพิเศษกับทีมชุดนี้
ผมมองว่า การเคลื่อนไหวด้านข้างของผู้เล่นจอร์เจียน่าสนใจกับวิธีการ, ทุกตำแหน่งทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยที่มีและไม่มีลูกบอล
ข้อสำคัญอีกอย่างก็คือ เต็มไปด้วยไหวพริบ และกล้าได้กล้าเสีย พร้อมจะเผชิญเรื่องความเสี่ยงกับลูกบอล ซึ่งนักบอลจอร์เจียหลายคนเหลือเชื่อจริงๆ
แน่นอนที่สุด ควีช่า ควารัตสเคเลีย ของแทร่จากนาโปลี
เขาคือความจริงที่ว่า ชาติที่ฟุตบอลไม่น่าดึงดูดสามารถอะไร กลับสร้างผู้เล่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดคนหนึ่งของทวีปได้นั้น
เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้เกมระดับนานาชาติยกระดับขึ้นมา
ใครจะคิดว่า จอร์จี้ มามาร์ดาซวิลี่ นายประตูจอมเซฟ จะปัดป้องได้พัลวันถึงขั้นนี้ 21 ทีเข้าให้แล้ว
จอร์เจส มิเคาตาดเซ่ เป็นผู้เล่นคนที่ 9 ที่ทำประตูได้ในเกมแบ่งกลุ่มทั้ง 3 นัดของทัวร์นาเมนท์ยูโร!!!!
อีกคนคือกองกลาง จอร์จี้ โคโชราสวิลี่ สร้างแรงกดดันได้มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ 316 ครั้งจาก 3 เกม!!!!
ประชากร 3.7 ล้านคน ทีมอันดับโลกต่ำสุด และเข้าทัวร์นาเมนท์สำคัญครั้งแรก แต่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์!
พวกเขามีประเพณีฟุตบอลที่ลึกซึ้งมากกว่าที่หลายคนคิด เพราะจริงๆ แล้วผู้เล่นจอร์เจีย มีในยุค 90 ก็น่าประทับใจเช่นกัน อาทิ คาค่าคาลัดเซ่, จอร์จี้ คินคลัดเซ่, เตมูร์ เค็ตส์บายา, โซต้า อาร์เวลัดเซ่
แต่คนรุ่นปัจจุบันเป็นรุ่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา
น้ำตา และความหลงใหล…จอร์เจียผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ยูโรมีความหมายทุกอย่างต่อแฟนบอล
วิลลี่ ซาญอล กุนซือของพวกเขา เคยเป็นนักเตะเอาชนะ โปรตุเกส ในฟุตบอลโลกกับฝรั่งเศส 2006 มาถึง ปี 2024 วิลลี่ ซาญอลเอาชนะโปรตุเกส ในยูโรร่วมกับ จอร์เจีย ซึ่งทั้งสองครั้งมีนักบอลชื่อ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ อยู่ในสนาม
11 ปีที่แล้ว คริสติอาโน่ โรนัลโด้ แม่ทัพตัวพ่อของโปรตุเกส เดินทางไปจอร์เจียเพื่อร่วมงานเปิดตัว Tbilisi Dynamo Academy อย่างยิ่งใหญ่ เขาจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับควาราและเด็กๆ ชาวจอร์เจียอีกนับไม่ถ้วนที่ตอนนี้เล่นให้กับทีมชาติ
หนึ่งในผลผลิตนั้นคือ ควิชา ควารัตสเคเลีย ที่กำลังจะวิ่งไปดีใจหลังเกมกับเพื่อน เขาเลือกที่จะเบรกก่อน แล้วเข้าไปกอดแรงบันดาลใจของพวกเขาคือ โรนัลโด้
แน่นอนว่า ผมไม่ได้เขียนตรงไหนว่า จอร์เจีย จะเป็นแชมป์ แต่นี่คือความภูมิใจอย่างที่สุด เพราะคนเราไม่จำเป็นต้องอยู่บนจุดสูงสุดอยู่ตลอดเวลา แต่คุณจำเป็นต้องมีความสุขในสถานะที่คุณเป็น
จอร์เจีย จะได้พิสูจน์ตัวเองแบบ “ไม่มีอะไรต้องเสีย” ในการเจอกับยอดทีมจากยุโรปใต้อีกทีมอย่าง สเปน ที่ไม่ชอบการเล่นแบบ “บล็อกต่ำ” เนื่องจากวิธีการของแกงค์กระทิงคือต้องการพื้นที่ในการแทงทะลุเข้าช่อง
ว่ากันตามเชิง รอบน็อกเอาท์นี่น่าสนใจมากๆ ตัวผมเองก็ไม่ได้ซาดิสพอที่อยากจะเห็นทีมใหญ่ตกรอบ แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่จับสลากแบ่งสายออกมาแล้วรู้สึกว่า ถ้าหากจะมี “ทีมที่เหนือกว่า” ต้องตกรอบ 16 ทีมไป
น่าจะเป็นหนึ่งในสองทีมที่จะลงเตะคืนนี้!!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี