อังกฤษ ทีมขวัญใจสองด้านเหรียญสองฝั่ง ทั้งมหาชังและมหาชน
ไม่เคยสร้างผลงานผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ต่อเนื่อง 2 สมัยติดต่อกันทั้งในฟุตบอลโลก หรือฟุตบอลยูโร แต่ครั้งนี้พวกเขาทำได้สำเร็จแล้ว
3 ปีก่อนการดวลแตกแพ้ให้กับ อิตาลี ในการดวลจุดโทษ ถูกพวกโรมันมาปักธงชัยกลางใจลอนดีนิอุม แต่พวกเขากัดฟันฝ่าวิกฤตของตัวเองด้วยการยิงจุดโทษผ่านเข้ารอบมาได้
ถามว่า อังกฤษ ทำไมถึงต้องทำตัวทุรนทุรายขนาดนี้ โดยเฉพาะ 2 เกมในรอบน็อกเอาท์ที่ต้องไล่ตีเสมอ ก่อนจะต้องให้ทุกอย่างมันล่วงเลยมาถึงช่วงต่อเวลา
เป้าใหญ่ไม่พ้น “แกเร็ธ เซาธ์เกต” ในฐานะผู้ถือบังเหียน
อังกฤษ มีนักบอลคุณภาพมากมายหลายคน แต่ต้องมาดิ้นพล่านเหมือนโดนข้าวสารเสก หรือต้องถอยร่นมาอยู่ในมุ้งตัวเองเมื่อขึ้นนำ ทำไมสไตล์มันถึงได้น่าชวนง่วงขั้นนี้
ถ้าบุกมากกว่านี้จะดีกว่าที่เป็น แต่ที่เห็นมันยังไม่ใช่ มันน่าหงุดหงิดหัวใจอย่างมาก
ทั้งหมดนี้มันคือ แผนการณ์ เป็นการกำหนดมา ไม่ได้มาทิ้งตัวเหมือนอย่างที่ทุกคนคิดว่า อังกฤษนะเหรอจะเล่นได้ “แค่นี้”
เอาเข้าจริง เซาธ์เกต เองก็เป็นคนที่มากความสามารถเขารู้ว่าเมื่อ “แผนหลุด” ตัวเขาจะต้องทำอย่างไร เพราะการเตรียมทีมมาเพื่อ “ระบบชนระบบ” ในเกมกับ สวิตเซอร์แลนด์ ดันถูกตีแผ่หราทั่วโลกจากสื่อของตัวเอง
ลงท้ายก็เอาผู้เล่นชุดที่จะลงสนาม ระบบ 3-4-2-1 ให้กลับมาเป็น 4-2-3-1 แล้วค่อยอาศัยการเคลื่อนที่ในเกมรุกปรับสมดุลตำแหน่ง
จะบอก เซาธ์เกต รั้นเกินเหตุหรือไม่ที่จัดทีมแบบนี้ คงจะตอบว่า “ไม่” เนื่องจากเขาเองต่างหากที่พลาดตั้งแต่แรก และเมื่อโดนวิจารณ์หนัก สองสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ “กองกลางคู่” กับ “แนวรุกตอนบน”
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คือคนที่ เซาธ์เกต ทำพลาดเหมือนส่งไปให้ถูกลากไปตบกลางตลาด รวมถึงฟิล โฟเด้น ที่ไปพิงซ้ายอย่างเดียว ทำให้บอลไม่เดินไปไหน ลงท้ายเขาเลือก ค็อบบี้ เมนู ไปยืนกลางแทน เทรนท์ และให้ โฟเด้น ขยับมาตรงกลาง แล้วขยับ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ออกไปเล่นทางซ้ายแต่เป็นอินเวิร์สท์
ว่ากันตรงนี้ เซาธ์เกต ไม่ได้รั้น
แต่วิธีการของเขามันขัดหูขัดตาขัดอารมณ์อย่างมาก เพราะทีมมาในสไตล์ “เน้นครองบอล” มาในสไตล์ “ไม่ได้อย่าเสีย”เนื่องจากถ้ามีอะไรผิดพลาดมา ก็จะเป็น เซาธ์เกต อีกนั่นแหล่ะที่โดนแบบทั้งขึ้นทั้งล่อง
อย่างไรก็ตาม “เซาธ์เกต บอล” มีสิ่งที่ถูกจับตามองอย่างมากอยู่ 2 ประการ
1.จ่ายแบบกล้าได้กล้าเสียน้อยมาก
2.บอลด้านข้างมีแต่เปิดเข้าหาประตู หรือ อินสวิง
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากนักบอล แต่เกิดจากการถูกสั่งลงมาให้ทำแบบนี้
หลายจังหวะนักบอลถูกตีกรอบเหมือนกับ “นกในกรงทอง”สวยๆ งามๆ แต่ไม่ต้องบินไปไหน ขณะเดียวกัน การเปิดบอลจากด้านข้าง ไม่มีลูกเปิดหนีมือประตู หรือ เอาท์สวิง แม้แต่นิดเดียว
ฝั่งซ้าย วาง ฟิล โฟเด้น ถนัดซ้ายเล่นปีก แต่ไม่เคยไปถึงสุดเส้น และการเล่นร่วมกับ คีแรน ทริปเปียร์ ที่ถนัดขวา แน่นอนว่า ก็ต้องล็อกกลับมาเปิด
ฝั่งขวา วาง บูกาโย่ ซาก้า ถนัดซ้ายเล่นปีก จังหวะเปิดน้อยมาก และการเล่นร่วมกับ ไคล์ วอลคเกอร์ ที่ถนัดขวาอันนี้เปิดบอลไม่แม่นตั้งแต่หนุ่ม ๆ จนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น “ตัวเป้า” อย่าง แฮร์รี่ เคน จึงคายพิษสงแทบจะไม่ออก นี่คืออีกจุดที่ เซาธ์เกต ต้องแก้ไข เพราะการมีสไตรเกอร์ระดับนี้ กลับไม่ได้ใช้เลย มันเสียของมากๆ
กลายเป็นว่า ตัวโป้งปิดบัญชีต้องมาไล่บอล เขามีสถิติไล่ล่ามากถึง 503 ครั้งจากทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในแดนฝ่ายตรงข้าม 326 ครั้ง
จังหวะมันจะออกกั๊กไปหมด เพราะเมื่อเติมขึ้นมาแล้ว อังกฤษก็จะไม่เสี่ยงโยน ไม่เสี่ยงเปิด หรือไม่เสี่ยงเล่นบอลยัดใน
เมื่อบอลมันโล้ไปมา คนที่เล่นกองหน้านี่ละเหี่ยใจ
สปรินท์ไปแล้ว หาพื้นที่ไปแล้ว เพื่อนก็ส่งกลับหลัง
เอาเข้าจริง ถ้า อังกฤษ กล้าเปิดเกมบุก ด้วยศักยภาพที่มีทั้งตัวจริงตัวสำรอง หาทีมรับมือยากเหมือนกัน เพราะเราเห็นชัดเจนว่า เมื่อพวกเขาเร่งครั้งใดใครก็หยุดลำบาก ทีนี้มาเจอกับทีมจอมเทคนิคเน้นเกมรุกอย่าง เนเธอร์แลนด์ แบบนี้ สบายใจได้เลย
อังกฤษ เล่นเหมือนเดิมแน่นอน
ไม่ใช่เหมือนเดิมที่เคยเป็น เหมือนเดิมที่ครองใจแฟนบอล แต่เป็นเหมือนเดิมในทัวร์นาเมนท์นี้
แต่จะรอดเหมือนเดิมหรือไม่นั้น อันนี้ไม่รับประกันครับ!!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี