ธงชาติไทยสู่ยอดเสาในสนามแบดครั้งแรกประวัติศาสตร์โอลิมปิก!!!!
ทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 อย่างเป็นทางการ จากกีฬาแบดมินตัน ของ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ทีมชาติไทย
ในประเภทชายเดี่ยว ที่คว้าเหรียญเงิน มาครอง
เหรียญรางวัลของ วิว นับเป็นเหรียญโอลิมปิกเกมส์ ลำดับที่ 36 ของทัพนักกีฬาไทย นับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันเมื่อปี 1952 และเป็นเหรียญแรกของประเทศจากการแข่งขันแบดมินตัน
ทีมแบดมินตันทุ่มเทตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานของ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย, สโมสรโรงเรียนบ้านทองหยอด ต้นสังกัดของนักกีฬา, คณะโค้ช และทีมงานต่างๆ
สำคัญก็คือ นักกีฬาที่ฝ่าฟันมาได้ถึงขั้นนี้ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ใกล้เคียงที่สุดของทัพแบดมินตัน ก็คือ บุญศักดิ์ พลสนะ ที่ได้อันดับ 4 ปี 2004
แล้ว “วิว-กุลวุฒิ” คือใคร!?!?!?!?
กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เจ้าของเหรียญประวัติศาสตร์แบดมินตันของประเทศไทย เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2544 เป็นบุตรชายคนโตของ คุณพ่อณัฐวัชร และ คุณแม่นัฎกนก วิทิตศานต์ มีน้องสาว 1 คน คือ “ส้ม” สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ ซึ่งเป็นนักกีฬาแบดมินตันเช่นกัน
เริ่มเล่นแบดมินตันเมื่ออายุ 7 ขวบ โดยครอบครัวต้องการให้ออกกำลังกายเป็นการสันทนาการ และอยากให้แข็งแรงเนื่องจากเป็นโรคภูมิแพ้ ก่อนจะเข้าสู่ชมรมแบดมินตันเสนานิคม ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนบ้านทองหยอด เมื่ออายุ 13 ปี เมื่อปี 2557 ก่อนจะได้รับตำแหน่งแชมป์เยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยรุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี ในปีนั้น และเริ่มเข้าสู่เส้นทางทีมชาติไทย
วิว กวาดแชมป์รายการต่างๆ ที่ลงทำการแข่งขันทั้งแชมป์เอเชีย รุ่นยู-15 แชมป์รุ่นยู-17
เขาเข้าร่วมการแข่งขันรายการแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นครั้งแรกในปี 2557 และได้รับรางวัลชนะเลิศ ต่อมาในปี 2559 และ 2560 ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศในรุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ในรายการนี้เช่นกันก่อนจะกลายเป็นแชมป์เยาวชนโลกคนแรกของไทย ด้วยอายุเพียง 16 ปี 5 เดือน โดยได้แชมป์ระดับเยาวชน “BWF Junior International” มากถึง 11 รายการด้วยกัน และแชมป์เยาวชนโลก BWF World Junior Championships รวม 3 สมัยซ้อน ปี 2560-2562 พร้อมได้เหรียญเงินรายการยูธ โอลิมปิกเกมส์ ปี 2561 หรือปี 2018
จากนั้น วิว เริ่มตะลุยระดับอาชีพ พร้อมๆ กับการรับใช้ชาติ จนได้ 2 เหรียญทอง ทั้งประเภทเดี่ยว และทีม ปี 2564 หรือ “เวียดนาม 2021”
ในปีต่อมา “วิว” ได้ชิงแชมป์โลกครั้งแรก ปี 2022 ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่แพ้ให้กับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือ 1 โลกในขณะนั้น 0-2 สกอร์ 5-21 และ 16-21
นอกจากนี้ วิว กุลวุฒิ ยังผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศรายการชิงแชมป์โลก กับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 1 ของโลกจากเดนมาร์ก ในตอนนั้น ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และได้รองแชมป์มาครอง แต่อีก 1 ปีต่อมา กลายเป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์ ครองแชมป์โลกชายเดี่ยว 2023 ด้วยการชนะ โกดาอิ นาราโอกะ จากญี่ปุ่น 2-1
ปีที่แล้ว ได้รับรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายดีเด่น เป็นสมัยที่ 2 ในงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2566 ที่จัดโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
ในปีนี้ วิว กลายเป็น นักแบดมินตันคนแรกของประเทศไทย ที่ได้เหรียญรางวัลโอลิมปิก โดยได้เหรียญเงินตำแหน่งรองชนะเลิศประเภทชายเดี่ยว
เงินรางวัลแห่งความบากบั่นเวลานี้ ยอดเงินพุ่งไปแตะที่ตัวเลข 11 ล้านบาท จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) สูงสุด 7.2 ล้านบาท หากเลือกรับแบบแบ่งจ่ายจากกองทุนฯ อีกทั้งนักกีฬาเหรียญโอลิมปิก จะยังได้รับเงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยอีกเป็นระยะเวลา 20 ปี เดือนละ 10,000 บาท หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท
พร้อมกับได้รับอีก 1.5 ล้านบาทจากเงินส่วนตัว คุณหญิงปัทมา ที่ตบรางวัลให้กับ วิว เป็นรางวัลแห่งความพยายาม ทำให้ยอดเงินรางวัลสูงสุดพุ่งเกิน 11 ล้าน
ก่อนหน้านี้ ไทย ได้เหรียญจาก มวยสากล 15 เหรียญ,ยกน้ำหนัก 14 เหรียญ และเทควันโด 6 เหรียญ ทำให้ แบดมินตัน เป็นสมาคมที่ 4 ที่ประสบความสำเร็จ
ทำเนียบเหรียญรางวัลของไทย ในโอลิมปิกเกมส์ ขยับขึ้นไปเป็น คือ 10 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน และ 17 เหรียญทองแดง
เราหวังว่า โอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้จะขยับต่อไป และจะไม่หยุดเพียงเท่านี้
เช่นเดียวกับอนาคตของ วิว และวงการแบดมินตัน
เชื่อว่าไปได้อีกไกล ตามที่ตั้งใจปรารถนา
บี แหลมสิงห์ Made in France
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี