อะไรที่ไม่เคยได้เห็นก็เห็นกันในโอลิมปิกเกมส์ ฉลอง 100 ปี การเป็นเจ้าภาพของฝรั่งเศส
บันทึกเอาไว้ว่า 7 สิงหาคม 2567 เกิดเหตุการณ์สำคัญกับวงการกีฬาไทยมากมาย
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทัพนักกีฬาไทยได้เหรียญโอลิมปิกวันเดียว 3 เหรียญ
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทัพนักกีฬาไทย ได้เหรียญโอลิมปิกพร้อมกัน 3 สี ในวันเดียว
นั่นคือ เหรียญทอง จาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง, เหรียญเงิน “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนักรุ่น 61 กิโลกรัมชาย และเหรียญทองแดง ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง “ออย”สุรจนา คำเบ้า
สาแก่ใจกองเชียร์อย่างยิ่ง
เป็นวันที่ยาวนานมากสำหรับ “อีกมุม” ของ “มุมมอง” จากบ็อกซ์ผู้สื่อข่าวที่ปารีส
ผมมาปักหลักที่ “เลอ กร็อง ปาแลส์ เดส์ ฌ็อง เซลิเซ่” (The Grand Palais des Champs-Élysées) พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศ สร้างมาเมื่อปี 1900 เป็นปีที่ ฝรั่งเศส งานนิทรรศการสากล (Universal Exhibition)
ซึ่งในปีนั้นตรงกับการเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิก สมัยแรก และเป็นสมัยที่ 2 ของโลกในยุคใหม่ต่อจากกรีซ ปี 1896
ตามตำราระบุเอาไว้ว่า นักกีฬาบางคนไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า “โอลิมปิกคืออะไร” พวกเขาคิดว่า มาเล่นกีฬาเพื่อโชว์ในการเอ็กซิบิชั่น!!!!!
“อนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นโดยสาธารณรัฐเพื่อความรุ่งเรืองของศิลปะฝรั่งเศส” นี่คือความมุ่งมาดปรารถนาของการก่อสร้าง
ออกจากที่พัก 9 โมงครึ่ง เพื่อควบม้าเหล็กมุ่งหน้าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นมหกรรมแห่งการเดินก็ยังเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งปัญหาสำคัญของเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส ก็คือ ไม่ทราบรายละเอียดทางเข้าทางออกเท่าไหร่นัก
ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ “ปิดสถานี” และ “ปิดถนน” เพื่อความปลอดภัยแบบแจ้งล่วงหน้าไม่นาน ดังนั้น เราจึงประเดิมการเดินเข้าที่เกือบ ๆ 2 กิโลเมตร!
โฟกัสสำคัญคือ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ยอดหญิงสิงห์เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง ที่จะลงเล่นเป็นวันสุดท้ายที่เดิมพันด้วยเหรียญโอลิมปิก
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จะชนะหรือว่าแพ้ เธอคือประเด็นใหญ่ประจำวัน
ด้วยเหตุผลนี้ “นักข่าวทัพหน้า” ชาวไทย “จึงต้องเลือก” มาที่นี่ แล้วก็รอเช็คประเด็น “ยกน้ำหนัก” ที่แข่งขันอีกฟากหนึ่งไปด้วย
การทำงานเทควันโด นั่นคือ “ต้องอยู่ทั้งวัน” และประเด็นเทนนิสคือ “พลาดไม่ได้”
ซึ่งผมนึกถึง โทนี่ โครส ยังไงบอกไม่ถูก
ระหว่างที่ เทนนิส คว้าชัย 3 เกมติด ในรอบรองชนะเลิศเราเตรียมไว้แล้วว่าจะออกไปหาข้าวหาปลากินกันหน่อย เพราะมีระยะในการรอเกือบ 5 ชั่วโมง แต่แล้วก็ไม่ได้ออกไปเมื่อ เกิดปรากฏการณ์สำคัญกับการรุงรังวุ่นวาย เพราะช่วงเวลานั้น
เพราะเหรียญเงินได้มาจากอีกฟากด้วยพลังของ “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนักรุ่น 61 กิโลกรัมชาย ทีนี้ก็ไม่ต้องไหนกันแล้ว
ตัดสินใจหาอะไรในเพรสฯอัดก่อน ที่เค้าเรียกว่า “กินเพื่ออยู่”แต่ราคาสะเทือนแอะเป๋าตังค์ เพราะแซนด์วิช 1 ชิ้น 480 บาท บวกกับน้ำอัดลมเติมน้ำตาลหน่อย อีก 240 บาท
ค่อยยังดีตรงนี้ “รองตั๋ว” โปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการฝ่ายส่งเสริมกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาทำงานในครั้งนี้ เห็นนักข่าวหัวแทบปักคอมพ์ เลยไปสั่งข้าวจากด้านนอกมาเติมพลังทัพหน้า
หนึ่งชั่วโมงต่อมา กลิ่นของ “กะเพราไข่ดาว” อบอวลนวลไปทั้งเพรส ฮ่า!!!!!!!
เมื่อ เทนนิส ขึ้นเวทีชิงชัยครั้งสุดท้าย ก็ตรงกับ ยกน้ำหนักรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง “ออย” สุรจนา คำเบ้า แข่งขันในเวลาไล่เลี่ยกัน ผมขึ้นไปอยู่บนบ็อกซ์นักข่าว และเข้าใจทุกอย่างว่า เกิดอะไรขึ้นกับยอดหญิงสิงห์เทควันโดของเราบ้าง
เอาเข้าจริงมันเกิดขึ้นตั้งแต่รอบแรกแล้ว เพราะเราจับอิริยายทของ เทนนิส ได้ชัดเจนว่า เธอมีอาการเครียด และเธอก็ให้สัมภาษณ์ออกมาแบบนั้นจริงๆ
ร้อนถึง คุณพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโด ต้องรีบไปพูดคุยเพื่อลดความกดดันของเธอทันที หลังจากจบเกมกับโมร็อกโก
ขณะที่ชัยชนะอันสุดระทึก ก็มาพร้อมกับเหรียญทองแดงของ “ออย” สุรจนา คำเบ้า เพราะกลุ่มนักข่าวทัพหน้าของเราที่บางคนขึ้นมาบนบ็อกซ์ไม่ได้(เพราะเต็มเอี๊ยด)มาบอกกับผมว่า “เราได้เหรียญอีกแล้วพี่”
ไม่ว่ายุคใดสมัยใด ยกน้ำหนักไทยมีอะไรให้เซอร์ไพรส์ทุกที
ในส่วนของ เทนนิสนั้น ชัดเจนที่ได้เห็นจากริงไซด์ ผมให้ไว้สัก 4-5 ข้อ กับชัยชนะครั้งนี้
1.การสลัดความเครียดอย่างรวดเร็ว อันนี้น่าสนใจยิ่ง
2.ประสบการณ์ “โค้ชเช” ชัชชัช เช ที่จัดเจนบนสังเวียน สายตาดุจพญาเหยี่ยว ท้าชาลเลนจ์เรียก วีดีโอ รีวิว ทีไรได้เรื่องทุกที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 6 แต้มในยกตัดสินแชมป์
3.ประสบการณ์ของ “น้องเทนนิส” ที่ท้วงกับทีมงานทันทีเมื่อมั่นใจว่า เธอเตะได้เข้าเป้า
4.ทั้งหมดทั้งมวลคือ “ข้อสรุป” ว่า การแข่งขันระบุไว้ชัดนี่คือ “ประเภทหญิงเดี่ยว” แต่ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร ทุกคนจะต้อง “ทำงานเป็นทีม”
ต่อให้คุณเก่ง แต่ทีมของคุณห่วย ไม่มีวันจะขึ้นถึงยอดเสา
เมื่อได้แชมป์เรียบร้อย พร้อมกับเพลงชาติไทยดังในโอลิมปิกเกมส์ เป็นครั้งที่ 11 ตลอด 72 ปี กับการร่วมแข่งขันในมหกรรมแห่งมวลมนุษยชาติ บรรยากาศก็เริ่มผ่อนคลาย
เทนนิส มาแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งที่เพรสคอนเฟอเรนซ์ นักข่าวต่างประเทศถามว่า ทำไมเธอถึงเลิกเล่น ทั้งที่ยังอยู่ในการเล่นระดับ “ท็อปฟอร์มอย่างมาก”
พอได้ยินคำตอบทำเอา นักข่าวตาน้ำข้าวอ้าปากค้าง เพราะอาการบาดเจ็บของ เทนนิส คือ มีแต่อาการบาดเจ็บ ทั้งไหล่, เข่า, สะโพก, ข้อเท้า ดังนั้น จึงอยากจะเลิกแล้ว!!!!!
เรียกว่า น่วมไปทั้งตัว
ก่อนเธอจะแบขายของเบาๆ แต่หัวเราะดังลั่นสนั่นทั้งฮอลล์ ว่า จากนี้หันไปปั้นนักกีฬาเยาวชนด้วยการสร้าง “พาณิภัค ยิม” ขึ้นมา แล้วก็ชวนให้คนในนั้นส่งเด็กๆ มาเรียนที่ไทยด้วย
ปิดท้ายด้วยการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอย่างเป็นกันเอง ผมแซวเธอว่า “นิส ข้าวแมวดาว สักจานมั๊ย” ชีหัวเราะลั่นเพราะเคยสัมภาษณ์กันผ่านรายการ The Locker Room แล้วผมเรียกชื่ออาหารมั่วตั้วเหล็งจนเธอขำกลิ้ง จากนั้นในช่วงท้ายเราได้ร้องเพลงฉลองวันเกิดให้กับเธอ ซึ่ง “น้องสาวแห่งชาติ”ก็ร่วมร้องและเต้นอย่างสนุกสนานเป็นการผ่อนคลายหลังจากที่ผ่านเกณฑ์สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเธอ
นี่คือเส้นทางของวันแห่งชัย จาก 9 โมงกว่าๆ เราต้องเดินเท้าออกจากสนามแข่งเพื่อออกมาหาทางกลับบ้านอีก2 กิโลเมตร แล้วใช้เวลาอีก 30 นาทีถึงที่พักตีหนึ่งกว่าๆ
เป็นโอลิมปิกที่เดือดจริงๆ แต่เมื่อได้ร้องเพลงชาติไทย และเห็นชัยชนะของนักกีฬาทุกเหรียญรางวัล
ถือว่าช่วยได้.....หายเหนื่อย!!!!
บี แหลมสิงห์ Made in France
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี