ประวัติศาสตร์เหรียญทอง2สมัย
‘น้องเทนนิส’ผงาด
คว้าชัยเทควันโดโอลิมปิก
เงินอัดฉีดพุ่ง15.8ล้าน
ยอมรับเตรียมเลิกเล่น
เหตุร่างกายเจ็บหลายจุด
“น้องเทนนิส”สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติด เป็นคนแรก สร้างสถิติคว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันโอลิมปิก3 ครั้ง ครอบครัว-กองเชียร์ ได้เฮ ร่วมเป่าเค้กฉลองวันเกิด 27 ปี ให้เทนนิส ส่วนนายกฯ ร่วมยินดีเทนนิส สร้างประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทย คาดยอดเงินอัดฉีดพุ่งทะลุ 15.8 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงมหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งดำเนินการแข่งขันมาตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนเมื่อถึงวันที่
7 สิงหาคม ในการแข่งขันกีฬาเทควันโด ที่สนาม เลอ กร็อง ปาแลส์เดส์ฌ็อง เซลิเซ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์เก่าเทควันโด รุ่น 49 กิโลกรัม หญิง โอลิมปิก ของไทย ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ หลังจากลงแข่งขัน 3รอบ โดยเริ่มจากรอบ 16 คน เอาชนะโอไมม่าเอลบุชติ จากโมร็อกโก 2-0 ยก 8-1, 10-1,รอบ 8คน ชนะดุลญา อาลี อาบู ทาเลบ จากซาอุดีอาระเบีย 2-0 ยก 4-1, 13-3, รอบรองชนะเลิศ ชนะลีน่า สตอยโควิช จากโครเอเชีย 2-0 ยก 8-0, 11-5
สำหรับคู่แข่งของเทนนิส ในรอบชิงชนะเลิศ นั่นคือ กั๊วะฉิง นักกีฬาจากจีนแผ่นดินใหญ่ วัย 24 ปี ที่เอาชนะดีน่า พูรยูเนส จากเรฟูจี ทีม ในรอบ 16 คน 2-0 ยก 5-4, 12-0, รอบ 8คน ชนะเมิร์ฟ ดินเซล จากตุรกี 2-0 ยก 6-1, 3-2, รอบรองชนะเลิศ ชนะโมบิน่า เนมัตเซเดห์ จากอิหร่าน2-0ยก4-1, 6-2
เมื่อเปิดฉากยกที่ 1 ทั้งสองคนขยับเข้าหากันก่อนที่จีน จะมีโอกาสเตะเข้าที่ศีรษะได้ไปก่อน3 แต้มเมื่อเหลืออีก 44 วินาที แต่เทนนิสกดสูตรทีเดียวแซง 4-3 ในช่วง 20 วินาทีสุดท้าย ก่อนจะทำได้อีก2 แต้มในช่วงวินาทีสุดท้ายขึ้นนำ 6-3 ยกที่ 2 ทั้งคู่จ้องดึงจังหวะก่อนที่จีน จะขึ้นนำในช่วงเข้าสู่นาทีสุดท้าย 1-0 ทำให้เทนนิสแพ้ไปในยกนี้ 2-3 แม้ว่าจะมีการรีวิวการตัดสินในช่วงท้ายแต่กรรมการยืนยันให้จีนเป็นผู้ชนะในยกนี้ จนต้องมาตัดสินกันต่อในยกสุดท้าย ซึ่งทั้งสองสู้กันอย่างสูสี โค้ชเชประท้วงเมื่อเหลืออยู่ 29วินาทีสุดท้าย นำ 3-0 จากนั้นเหลือ 14 วินาทีโค้ชเชขอเช็คอีกครั้งหนึ่งวิดีโอ Replay ปรากฏว่าได้คะแนนสำคัญมาอีก3 คะแนนทำให้เราชนะไปในยกนี้ 6-0 ส่งผลให้เทนนิส คว้าเหรียญทองได้สำเร็จอย่างสะใจ
ทั้งนี้ ในส่วนของเทนนิส ซึ่งรับใช้ชาติมา 13 ปี ได้กลายเป็นนักกีฬาประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยเนื่องจากเป็นคนแรกที่ได้เหรียญโอลิมปิกเกมส์ คนเดียวถึง 3 เหรียญ จากเหรียญทองแดง เมื่อปี 2016 ที่บราซิล, เหรียญทอง ปี 2021 ที่ญี่ปุ่น และเหรียญทองในครั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เทนนิส การคว้าชัยครั้งนี้ทำให้เธอเป็นคนแรกของประเทศไทย ที่ครองเหรียญทองได้ถึง 2สมัยติดต่อกันเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย จากโอลิมปิกเกมส์ และเป็นแชมป์รายการหลักครั้งที่52 ของเธออีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศที่บ้านเกิดของเทนนิส ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ทางครอบครัวและเหล่ากองเชียร์ แฟนๆ ของเทนนิส ได้มาร่วมกันปักหลักรอชมและเชียร์การแข่งขันของเทนนิส นับตั้งแต่รอบ 16 คน รอบ 8 คน รอบ 4 คน จนถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยภายหลังกรรมการประกาศผลคะแนน ว่าเทนนิส สามารถเอาชนะคู่แข่ง คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ ทุกคนต่างดีใจจนนั่งไม่ติดเก้าอี้
นอกจากนี้ในวันที่ 8 สิงหาคม ยังเป็นวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของเทนนิส อายุครบ 27 ปี พอดี ภายหลังการแข่งขันเสร็จสิ้น ทางครอบครัวและแฟนๆได้ร่วมกันเป่าเค้กวันเกิดให้เทนนิส ก่อนจะมีกองเชียร์บางส่วนกระโดดลงสระน้ำบริเวณหน้าบ้านของเทนนิส เพื่อเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้
ด้านนายสายัณ วารีอรุณโรจน์ ลุงของเทนนิสกล่าวว่า ในช่วงกลางของการแข่งขัน ทุกคนรู้สึกตื่นเต้น เพราะคู่นี้ฝีมือสูสีกันมาก แต่น้องเทนนิสก็พลิกเกมจนเอาชนะได้ โดยอาศัยประสบการณ์ที่ผ่านมา
ขณะที่เทนนิส เปิดเผยถึงความรู้สึกต่อกองทัพสื่อ ภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ว่านี่เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิต และอยากมอบเหรียญนี้ให้กับคนไทยทุกคน เพราะทุกคนตั้งตาลุ้นไปด้วยกัน บวกกับที่ตัวเองมีอาการบาดเจ็บเยอะมาก หลายคนก็สงสาร อยากจะตอบแทนสิ่งเหล่านี้กลับไปให้กับทุกคน
ต่อมาเวลา 08.40 น.วันเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานทหาร บน.6 ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีน้องเทนนิส-ร.ท.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ สามารถคว้าเหรียญทองแรกในโอลิมปิก 2024 ให้กับประเทศไทยในการแข่งขันกีฬาเทควันโดรุ่น 49 กิโลกรัม หญิง รวมถึง “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ที่คว้าเหรียญเงินในการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักรุ่น 61 กิโลกรัมชาย และ “ออย” สุรจนา คำเบ้า ที่คว้าเหรียญทองแดงจากกีฬายกน้ำหนักรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง ว่าเข้าใจว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ได้ 3 เหรียญ ทั้งเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ซึ่งก็เป็นเหรียญทองแรก และตนก็ดีใจที่เทนนิสเป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถได้ 3 เหรียญใน 3 ครั้ง (2 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง) ตอนนี้อายุ 27 ซึ่งก็ 12 ปีแล้ว ก็ถือว่าเทนนิสเป็นคนที่มีการจัดการชีวิตในช่วงที่คนอื่นเขาสนุกสนานกันแต่เทนนิสก็ฝึกฝน มีวินัย ทั้งเรื่องน้ำหนักตนก็เห็นใจ ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันเดียวกันนี้เป็นวันเกิดของน้องเทนนิส นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ครับ สุขสันต์วันเกิด เป็นรางวัลที่มีค่าที่สุดของเขาเอง เพราะเขาทำด้วยตัวของเขาเองไม่ต้องให้ใครมาให้ เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เมื่อคืนตนอยู่ดูไม่ไหวหลับก่อน” นายเศรษฐา กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเทนนิสจอมเตะสาวเบอร์ 1 ของโลก สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์เป็นสมัยที่ 2 ของตัวเอง และยังเป็นเหรียญทองแรกของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ในส่วนของยอดเงินรางวัลของเทนนิส เบื้องต้นจะได้รับจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NDSF) 10 ล้านบาท (ถ้ารับแบบผ่อนจ่ายได้ 12 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมี เงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เดือนละ 12,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี เป็นเงิน 2.88 ล้านบาท บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) มอบเงินรางวัลอัดฉีดเหรียญทอง 1 ล้านบาท รวมทั้งหมด 15.88 ล้านบาท และมีโอกาสที่จะได้รับมากกว่านี้ จากการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาคเอกชน และภาคส่วนต่างๆ
สำหรับ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่สามารถคว้าเหรียญทอง 2 สมัยในโอลิมปิกเกมส์ และเป็นเหรียญรางวัลเหรียญที่ 3 จากการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 3 สมัย โดยมีแค่ที่กรุงริโอเดอจาเนโร่ ประเทศบราซิล 2016 ที่ทำได้เพียงเหรียญทองแดงเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี