“กระทิงดุ” สเปน ยังคงเก่งกาจเหลือกำลังลากไถในฟุตบอลระดับนานาชาติ

พวกเขาฟาดเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2024 หลังจากต่อเวลาเอาชนะ ฝรั่งเศส เจ้าภาพ สุดสะเด่า 4-3 ที่สนามพาร์ค เดอ แพรงส์ กรุงปารีส ครองเหรียญทองเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 1992

เกมที่พาร์ค เดอ แพรงซ์ มีประตูเกิดขึ้นมากมาย ฝรั่งเศส ได้ประตูนำเร็วจากการฉวยโอกาสที่ดีของ เอ็นโซ่ มิโญต์ กองกลางเนื้อหอมที่พุ่งขึ้นมาในปีนี้กับ สตุ๊ตการ์ท ในบุนเดสลีกา นาทีที่ 11

หลังจากได้ประตู ฝรั่งเศส ดูเสียสมาธิไป และการยืนแพ็กในมีปัญหาตำแหน่งการยืนตรงกลางดูซ้อนกันไป จนเป็นที่มาต่อการเสียประตูตีเสมอแบบทันควัน แค่ 7 นาทีต่อมา จาก เฟร์มีน โลเปซ ดาวจรัสแสงจากบาร์เซโลน่า แล้วจากนั้นก็เสียอีกสองประตูติดต่อกันให้กับ เฟร์มีน โลเปซ นาทีที่ 25 และ อเล็กซ์ บาเอน่า นาทีที่ 28

เธียร์รี่ อองรี กุนซือฝรั่งเศส พยายามให้ทีมเล่นบอลหนัก เพื่อชะลอเกมให้ช้าลง เพราะการดีเลย์เกมตรงกลางทำไม่ได้ เนื่องจากโดนผู้เล่นสเปน ที่มีความคล่องตัวกว่า และอยู่ตามหมุดที่วางเอาไว้โดยเฉพาะคู่กลาง ปาโบล บาร์ริออส จากแอตเลติโก มาดริด กับ อเล็กซ์ บาเอน่า จาก บียาร์เรอัล ทำผลงานได้ดีมาก ในการกลับตำแหน่ง

นึกถึง โรดรี้ กับ ฟาเบียน รุยซ์

ในเกมที่ครองบอลสูสี ตามสถิติ ฝรั่งเศส อาจจะครองบอลมากกว่าเล็กน้อย คือ 51-49 เปอร์เซ็นต์ แต่บอลของพวกเขาออกทางกว้างมากเกินไป ไม่เหมือนกับ สเปน ที่เจาะตรง

การเสียประตูแต่ละลูก ไม่ใช่แค่มาจากคุมตำแหน่งหลวมโพรก แต่เป็นการยืนกันค่อนข้างห่าง แถมยังโดนทีเด็ดฟรีคิกที่ต้องชม สเปน ว่า บาเอน่า ยิงดี แต่พื้นฐานมันมาจากการเข้าสกัดบอล และการคุมตำแหน่งที่ไม่ดีของพวกเขาคือจุดเริ่มต้น

ครึ่งหลัง อองรี อยู่ไม่ได้ปรับ จำเป็นต้องเสี่ยงเลือกแผนการเล่นแบบบุกทันที เลือกความสดมาแทน อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ โดยให้ มักเนส อากลีอูช ดาวรุ่งตัวรุกจากโมนาโก และ อาร์กโนด์กาลิมูเอนโด้ กองหน้าจากแรนส์ ที่ยิงไป 15 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมาลงสนาม

อีกคนที่ถูกถอดจากตำแหน่งกองกลาง คือ ญอริส โชตาร์ มาใช้กองกลางแบบคว่ำ จากเดิมเล่นกลางแบบหงาย เพื่อเพิ่มการโจมตี

บอลฝรั่งเศส ดีขึ้นชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น เมื่อ มีโญต์ กับ โคเน่ ได้เล่นอะลองไซด์ โดยให้ อากลีอูช เลี้ยงกินตัวและให้ มาเตต้า ขยับเข้าใกล้กรอบเขตโทษมากขึ้นไม่ต้องไปพิงทางด้านซ้าย

เกมกดดันทั้งเสียงเชียร์ด้วย และฝรั่งเศส ที่คุมสติด้วยการใช้บอลไดเร็กท์เล่นงานและได้ประตูจากจังหวะฟรีคิกที่เตะแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านเสียบตาข่ายของ ไมเคิล โอลิเซ่ ไปโดน มักเนส อากลีอูช

เข้าสู่นาทีสุดท้าย ฝรั่งเศส บดจนได้จุดโทษจากการดูวีเออาร์ ในนาทีสุดท้าย ซึ่ง เบนัต ตูร์ริเอนเตส ที่เพิ่งลงสำรองไปนาทีที่ 83 ไปดึงและโดยใบเหลือง

มาเตต้า สังหารในนาทีที่ 90+2 สกอร์กลับมา 3-3 จากนั้นไม่กี่อึดใจ เบนัต ตูร์ริเอนเตส มีโอกาสแก้ตัวเมื่อได้ยิงกลางประตูแต่ซัดไปโดนคาน ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ

แน่นอนว่า บอลบดมาหนักตลอดทั้งครึ่งหลัง ทำให้ ฝรั่งเศส ไม่สามารถเล่นได้เหมือนเดิม กับสไตล์ลากแล้วฝาก และการเสียประตูจากการเจาะเข้าช่องอีกครั้ง เซร์คิโอ คามัลโญ่ ตัวสำรองจากราโย่ บาเยกาโน่ ยิงเข้าไปในนาทีที่ 100

ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงด้วยประตูชัยในนาทีสุดท้าย ในจังหวะที่เจ้าบ้านโถมหมด แล้วบอลมาเข้ามือของ อาร์เนาท์ เตนาส ขว้างไกลสวนกลับมาให้กับ เซร์คิโอ คามัลโญ่ ยิงประตูที่ 2 ของตัวเอง และคว้าชัยไปสุดมันส์ 5-3

สเปน ครองแชมป์อีกรายการ ชุดนี้คุมโดย ซานติอาโก้ เดเนียวัย 50 ปี ซึ่งทำงานให้กับสหพันธ์ฟุตบอลสเปน มาตั้งแต่ปี 2010 โดยคุมทีมชุดยู-17 มาตั้งแต่ปี 2010-2018 จากนั้นคุมทีมชุดยู-19 ปี 2018-2022 และได้คุมทีมชุดยู-21 เมื่อปี 2022 หลังจาก หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ ไปคุมทีมชุดใหญ่

พูดกันง่ายๆ ก็คือ เดเนีย คุมทีมแบบ “รับไม้ต่อ” จากเด ลา ฟูเอนเต้ มาแล้ว 2 ชุด คือ ยู-19 กับ ยู-21

ดาเนีย คุมทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้ถึง 6 รายการสำคัญ

เริ่มจากชุดยู-17 ชิงแชมป์ยุโรป ปี 2016 แพ้ จุดโทษ โปรตุเกส 4-5 หลังจากเสมอ 1-1 จากนั้น ปี 2017 ชนะจุดโทษ อังกฤษ 4-1 หลังจากเสมอ 2-2 และปี 2017 แพ้ชิงแชมป์โลก ต่อ อังกฤษ 2-5

ขยับขึ้นมาทำทีมชุด ยู-19 ครองแชมป์ยุโรป ปี 2019 ลบแค้น โปรตุเกส 2-0

ล่าสุดคุมทีมชุด ยู-21 เป็นรองแชมป์ยุโรป ปี 2023 แพ้ อังกฤษ 0-1

ลูกศิษย์ของเขาคือ อเบล รุยซ์, เซร์คิโอ โกเมซ, เอริค การ์เซียและอเล็กซ์ บาเอน่า

ด้วยสไตล์กาบริหารแบบใหม่ไม่เน้น การผ่านบอลหรือเคาะบอลแบบติกิตาก้า แต่เป็นการโจมตีเร็ว ทำให้ สเปน ครองความยิ่งใหญ่บนโลกลูกหนังในซัมเมอร์นี้ ทั้ง ยูโร และโอลิมปิก

ในรายการนี้ครองเหรียญทองเป็นสมัยที่ 2 และเป็นอีกครั้งที่แพ้ในถิ่นตัวเอง เพราะเมื่อปี 2016 ก็แพ้นัดชิงให้กับ โปรตุเกส 0-1 ช่วงต่อเวลาในยูโร

หนนั้นที่แซงต์ เดนีส์ ส่วนหนนี้ที่พาร์ค เดอ แพรงส์

บี แหลมสิงห์