นายสยามพงษ์ ผลมาก ผู้สื่อข่าวและคอลัมนิสต์กีฬาหนังสือพิมพ์แนวหน้า รายงานข่าวมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกม ครั้งที่ 33 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 11 สิงหาคม 2567
มหกรรมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์จบลงแล้ว ที่สต๊าดเดอ ฟรองซ์ ซึ่งผลงานของทัพนักกีฬาไทย ได้บทสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้เหรียญมาครองทั้งสิ้น 6 เหรียญ ประกอบด้วย1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง
จากการที่ทัพนักกีฬาไทย คว้าเหรียญรางวัลมาครองจากมหกรรมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 “ปารีสเกมส์” รวมทั้งสิ้น 6 เหรียญ ประกอบด้วย 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงินและ 2 เหรียญทองแดงนั้น
ไทย จบอันดับที่ 44 ร่วมกับ จาเมกา และเซาท์ แอฟริกา โดยเป็นอันดับที่ 11 ของเอเชีย ต่อจาก จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อุซเบกิสถาน, อิหร่าน, บาห์เรน, ไทเป, ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
ในย่านภูมิภาคอาเซียน มี 5 ชาติที่ได้เหรียญรางวัลไทยเราจบเป็นอันดับที่ 3 โดยปีนี้ ฟิลิปปินส์ ซึ่งจบอันดับ 37นับเป็นที่ 1 ของย่านนี้ ได้ไป 2 ทอง 2 ทองแดง ตามมาด้วยอินโดนีเซีย ซึ่งจบที่ 39 ร่วม ได้ 2 ทอง 1 ทองแดง, ไทย เป็นอันดับ 3,อันดับ 4 มาเลเซีย ได้อันดับ 80 ร่วม จาก 2 ทองแดง และอันดับ 5สิงคโปร์ ได้อันดับ 84 ร่วม ได้ไป 1 ทองแดง ส่วน เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, บรูไน และติมอร์เลสเต ไม่ได้เหรียญรางวัล
อย่างไรก็ตาม หากนับจำนวนเหรียญรวมแล้ว ไทย ได้มากที่สุดในอาเซียน โดยได้รวมทั้งสิ้น 6 เหรียญ, ฟิลิปปินส์ 4 เหรียญ,อินโดนีเซีย 3 เหรียญ, มาเลเซีย 2 เหรียญ และสิงคโปร์ 1 เหรียญ
l ผลงานคว้าเหรียญดีสุดอันดับ 2 ร่วม
การคว้า 6 เหรียญรางวัลในครั้งนี้ ทำให้ทีมชาติไทยชุดโอลิมปิกเกมส์ 2024 ทำเหรียญรวมได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ร่วมในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาสยามประเทศ ทำได้เท่ากับเมื่อปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และปี 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโรประเทศบราซิล ที่ได้ครั้งละ 6 เหรียญเท่ากัน โดยมีเพียงปีเดียวที่ไทยสามารถคว้าเหรียญได้มากที่สุดนั่นคือ ปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ประเทศกรีซ ทำได้ 8 เหรียญ
ทัพนักกีฬาไทย ทำยอดเหรียญรวมตลอดกาลในโอลิมปิกเกมส์ นับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันปี 1952 จนถึงปัจจุบันหลังจากจบการแข่งขันที่ประเทศฝรั่งเศส ไปแล้วทั้งสิ้น 41 เหรียญแบ่งเป็น 11 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน และ 19เหรียญทองแดง
เหรียญทั้งหมดนั้นแบ่งเป็น “ยกน้ำหนัก” ที่คว้ามาครองได้มากที่สุด โดยทำได้ 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน8 เหรียญทองแดง รวม 17 เหรียญ, อันดับ 2 คือ “มวยสากล” ที่ทำได้รวม 4 ทอง 4 เงิน 8 ทองแดง รวม 16 เหรียญ, อันดับ 3คือ “เทควันโด” ทำได้ 2 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง และล่าสุดคือ “แบดมินตัน” ที่ได้เหรียญครั้งแรกในประวัติศาสตร์ครั้งนี้โดยทำได้ 1 เหรียญเงิน
สรุปเหรียญนักกีฬาไทยมีดังนี้ เหรียญทอง“เทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโด หญิง รุ่น 49 กิโลกรัม,เหรียญเงิน “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบดมินตัน ชายเดี่ยว,เหรียญเงิน “เวฟ” วีรพล วิชุมา ยกน้ำหนัก รุ่น 73 กิโลกรัมชาย,เหรียญเงิน “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนัก รุ่น 61 กิโลกรัมชาย,เหรียญทองแดง “ออย” สุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง และเหรียญทองแดง “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล หญิง รุ่น 66 กิโลกรัม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี