ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ 3 สมาคมกีฬา ได้แก่ สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์จัดงาน “ตลาดนัดคนข่าวกีฬา” ปีที่ 3 เพื่อสานสัมพันธ์อันดีต่อสื่อมวลชนสายกีฬาและคนข่าวกีฬา สนับสนุนการสร้างรายได้เสริมให้กับนักข่าวกีฬาและครอบครัวได้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าของตนเองและได้เป็นงานที่รวมพลคนข่าวกีฬานักข่าวกีฬา ได้พบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานด้วยกัน โดยงานจัดขึ้น ระหว่างวันศุกร์ที่ 16 ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 นี้ บริเวณลานกิจกรรมปทุมวัน ฮอลล์ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์

ในพิธีการเปิดงานมี นายสมพล ตรีภพนารถประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พร้อมด้วย นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย, นายวรวุฒิ พงษ์ธีระพล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย และนายวันกล้า ขวัญแก้ว สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์

ซึ่งในงานวันแรกนั้นคือการเสวนากับฮีโร่โอลิมปิก ประกอบด้วย “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดหญิง เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย, “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็งนักมวยหญิงเหรียญทองแดงโอลิมปิก รุ่น 66 กิโลกรัมและ “น้องเอสที” วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาสเก็ตบอร์ดสาวดาวรุ่งวัย 12 ปี ที่สร้างประวัติศาสตร์อายุน้อยที่สุดของทัพนักกีฬาไทยที่ไปโอลิมปิกเกมส์ รอบ 72 ปี

พร้อมกันนี้ยังมีผู้บริหารและโค้ช ประกอบด้วย “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย, “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย, “โค้ชเช” ชัชชัย เช หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย และพันตำรวจโทวิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนมวยสากลหญิงทีมชาติไทย “ทิศทางของโอลิมปิกไทย”ร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ โอลิมปิก ปารีส 2024 ถึง โอลิมปิก แอลเอ 2028 โดยมี นายสยามพงษ์ ผลมาก ผู้สื่อข่าว-คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์แนวหน้า เป็นผู้สัมภาษณ์

“เทนนิส” พาณิภัค กล่าวว่า ชัยชนะที่ผ่านมาต้องแลกต้องความเจ็บปวดของร่างกายที่เจ็บตามจุดต่างๆ มากมาย แต่ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะสร้างความสำเร็จให้กับประเทศชาติ,ครอบครัว และตัวเอง จากนี้จะอยู่ในฐานะกองเชียร์ พร้อมกับหวังใจว่า ทัพนักกีฬาไทยจะได้เหรียญทองในแอลเอเกมส์ ในอีก 4 ปีข้างหน้า

“บี” จันทร์แจ่ม ระบุว่า ความฝันโอลิมปิกยังคงดำเนินต่อไป และจะตั้งใจซ้อมต่อเนื่องทันทีเพื่อไปแอลเอ พร้อมสู้กับทุกคนแม้ว่ารุ่นนี้จะแข็งแกร่งอย่างมากก็ตาม โดยเฉพาะ อิมาน เคลิฟ มวยคนดังจากแอลจีเรีย และสิ่งที่อยากกินตอนนี้คือ ผัดเผ็ดปลาไหลฝีมือพ่อ ก็ยังรอกลับบ้านก่อน เพราะยังต้องฉลองความสำเร็จในกรุงเทพฯ

“เอสที” กล่าวว่า อยากเห็นทุกคนมาเล่นสเก็ตบอร์ดกันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะให้เป็นที่แพร่หลาย และไปโอลิมปิกเพื่อชื่อเสียงของประเทศ ส่วนตัวของหนูก็ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะไปฝึกซ้อมที่ญี่ปุ่น เพราะมีนักกีฬาขวัญใจที่เก่งระดับแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิกอยู่ที่นั่นเพื่อพัฒนาฝีมือของตัวเองต่อไป

“บิ๊กต้อม” เผยว่า ครั้งนี้ได้ไปทำงานที่นั่นขาดไปแค่วันเดียวเท่านั้นก็จะครบ 1 เดือนเต็มพอดี ซึ่ง ฝรั่งเศส ทำหลายอย่างได้ค่อนข้างดี แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักอย่างไรก็ตามถือว่าเจ้าภาพได้พยายามเต็มที่แล้ว ผมขอให้คะแนนอยู่ที่ 7 เต็ม 10

“บิ๊กเอ” กล่าวว่า ขอชื่นชมนักกีฬาและโค้ชที่ทุ่มเททำงานหนักมาโดยตลอด เทนนิสเองต้องคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เป็นปีๆ กว่าที่จะได้ความสำเร็จนี้มา จากนี้เราเตรียมแผนงานเพื่อ 4 ปีข้างหน้าไว้แล้ว เพื่อไปป้องกันแชมป์ โดยในรุ่น 49 กก. มีตัวแทนที่จะก้าวขึ้นมาอย่างน้อย 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นแชมป์เยาวชนโลก

“โค้ชเช” เผยว่า การได้แชมป์ของ เทนนิส ครั้งนี้กับ 3 ปีก่อน สภาพร่างกายไม่ได้ต่างกัน เพราะนักกีฬามีวินัยดีมาก แต่การแข่งท่ามกลางกองเชียร์สนามใหญ่ถือว่ามีผลมากๆ แต่ เทนนิส ก็ควบคุมตัวเองจนกลับมาได้ หลังจากคุยกับ นายกสมาคมฯ และหมอจิตวิทยา หลังจบรอบแรก ส่วนเรื่องการชาเลนจ์นั้น เราทำงานร่วมกันจนสัมฤทธิผล

“วิจารณ์” กล่าวว่า สมัยเป็นนักมวย(เหรียญทองปี 2000) กับการเป็นโค้ช มีความความยากลำบากแตกต่างกันมาก เพราะคนชกกับคนบอกแค่นี้ก็ไม่เหมือนแล้ว ขณะเดียวกันการชกของนักมวยไทยจำเป็นต้องเปลี่ยน เนื่องจากการให้คะแนนเปลี่ยนไปแล้ว การชกแบบโอลิมปิกสไตล์คงจะได้คะแนนยากขึ้น อีกทั้งต้องขยันออกหมัดให้มากกว่าเดิม