หลังจากจบไปเป็นที่เรียบร้อย และโดนลากมาสับทั้งคนที่อยู่ในวงการ คนที่รู้บ้างไม่รู้บ้าง พวกขี้หมูราขี้หมาแห้งบ้าง
ขออนุญาตินำ “ข้อมูลเชิงประจักษ์” และ “ฉากทัศน์” ต่างๆ มาให้ติดตามกัน กับมหกรรมกีฬาอลเวงอลม่าน และอลวน นั่นคือ การแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตส์เกมส์ ครั้งที่ 6 อีกสักครั้ง และหวังว่า “จะไม่มีใครดิ้น” อีกแล้ว
เพราะคุณยิ่งดิ้น ยิ่งแสดงความไม่รู้เรื่อง ยิ่งออกทะเล!!!!
สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) มอบเกมนี้อย่างเป็นทางการให้กับกรุงเทพฯ และจังหวัดชลบุรี และลงนามในสัญญาสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพในเดือนเมษายน 2563 สุดท้ายจะมีการชิงชัยกันมากถึง 36 กีฬา รวม 358 เหรียญทอง และ 2 กีฬาสาธิต คือ เทคบอค 3 เหรียญทองและกีฬาทางอากาศ อีก 3 เหรียญทองรวมทั้งสิ้น 364 เหรียญทอง
แรกเริ่มเดิมทีกำหนดการจะมีขึ้นในวันที่ 21-30 พฤษภาคม 2564 แต่ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 จากนั้นกำหนดการใหม่คือ 17-26 พฤศจิกายน 2566 แต่ขอเลื่อนไปเนื่องจากเหตุผลไทยเปลี่ยนรัฐบาล ไปเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์-6 มีนาคม 2567
ทีนี้ โอซีเอ ก็สั่งเลื่อนอีกครั้ง มาเป็นวันที่ 21-30พฤศจิกายน 2567 เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีนักกีฬาชั้นนำมาแข่งเพราะต้องเก็บตัวเพื่อไปโอลิมปิก ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็เออออห่อหมกว่า เป็นกีฬาอุ่นเครื่องก่อนโอลิมปิก
25 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ในวันเปิดไทยเฮาส์ ที่ศูนย์ลา ฟาบริก กรุงปารีส ฝรั่งเศส ก่อนพิธีเปิดโอลิมปิก 1 วัน ว่า อาจจะต้องพิจารณาตัดลดจำนวนชนิดกีฬาที่จะแข่งขัน เพราะเกรงว่าจะได้ไม่คุ้มที่ลงทุนไป
เรื่องการพิจารณาปรับลด 14 ชนิดกีฬาออกนั้น มาจากการพิจารณาของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งเอเชีย (OCA) ได้หารือร่วมกับ ผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้พิจารณาร่วมกันที่ผ่านมา ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันที่จะจัดการแข่งขันกีฬา “เอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ตส์เกมส์” แต่จะต้องดูแลให้มีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเหมาะสมกับจำนวนนักกีฬา
มีการตั้งโต๊ะแถลงทวงถามเรื่องการตัด 14 ชนิดกีฬาที่ตัดออก เมื่อ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา และ พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกไทย ประกาศให้จัดครบทุกกีฬา “อย่าตัด”
สถานการณ์คลุมเครือหนักเข้าไปอีก เมื่อ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เพราะประเทศไทยเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงเป็นแค่ “รักษาการ” เท่านั้น
หนังสือจาก OCA โดย มร.ราจา รันดีร์ ซิงห์ ประธานรักษาการโอซีเอ ระบุเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา เดธไลน์ มายังประเทศไทย ผ่านทาง เจ้ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กับ “บิ๊กป้อม” ว่า5 โมงเย็น วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ ถ้าแจกแจงหรือตอบคำถาม 9 ข้อ นี้ไม่ได้จะถูกยึดสิทธิ์
9 ข้อที่โอซีเอ ระบุมานั้น ประกอบด้วย
1. ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการแข่งขัน
2. ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ทำสัญญาไว้เพื่อดำเนินการจัดการแข่งขัน
3. ไม่มีการเซ็นสัญญากับสถานที่จัดการแข่งขัน
4. ไม่มีการเซ็นสัญญากับผู้จัดหาอุปกรณ์ต่างๆ
5. ไม่มีการเซ็นสัญญากับที่พัก
6. ไม่มีการเซ็นสัญญากับบริษัทขนส่งใดๆ
7. ไม่มีการเซ็นสัญญากับห้องปฏิบัติการทดสอบสารกระตุ้น
8. ไม่มีอาสาสมัคร
9. การล่าช้าในการจัดการแข่งขันต่อไปจะส่งผลร้ายแรงต่อการจัดการแข่งขันครั้งต่อไปที่ริยาด(ซาอุดีอาระเบีย)
16 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการเปิดเผยว่า หนังสือที่จะจัดการประชุมด่วนได้ถูกปฏิเสธ โดย รมต.การท่องเที่ยวและกีฬาขอพิจารณาจากวันสุดท้ายของการส่ง Entry form by name 31 สิงหาคมนี้เท่านั้น จึงจะมีการจัดประชุม
มีการเปิดเผยว่า รมต.การท่องเที่ยวและกีฬาชุดนี้ ไม่เคยมีการประชุมการจัดการแข่งขันเลย และได้เลื่อนโดยเหตุต่างๆ ทำให้ไม่สามารถเดินหน้า เนื่องจากงบประมาณ ไม่เคลียร์
กกท.ทำหนังสือชี้แจงไปยังโอซีเอเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาว่าใน 9 ข้อได้ปฏิบัติไปหลายข้อแล้ว แต่ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้อย่างเต็มที่เนื่องจากงบประมาณที่ไม่ได้มาจากรัฐบาล
การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แจกแจงว่า มีหน้าที่ในการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน อยู่ในฐานะผู้ปฏิบัติ ไม่ใช่ฝ่ายจัดการแข่งขัน และได้ดำเนินการล่วงหน้าไปแล้ว รวมถึงมีบางอย่างที่จ่ายเงินออกไปก่อน
วันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา เสริมศักดิ์ ได้ออกหนังสือไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกว่า 900 ล้านบาทที่เบิกจ่ายไปก่อนหน้านี้
กกท.มีการตรวจสอบการใช้เงินในการเก็บตัวนักกีฬาที่มีข่าวว่าใช้ไปแล้วถึง 980 ล้านบาท ปรากฏว่า กกท.ตรวจสอบแล้วใช้ไป 800 ล้านบาท
17.30 น. วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) ส่งหนังสือถึง โอลิมปิกไทย กับ กกท.ว่า ไม่สามารถยอมรับความเสี่ยงในครั้งนี้ได้ จึงได้มีมติให้ยกเลิกการจัดการแข่งขันฯ
ทั้งนี้ หาก คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ มีความประสงค์จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ก็สามารถยื่นเสนอตัวได้ภายหลังจาก ซาอุดีอาระเบีย จัดการแข่งขันไปแล้ว
ตรงๆ นั่นคือ พอเถ๊อะ!!!!!!!!
.......สำหรับผมก็คือ ถ้าจะจัด ก็จัด“เอเชี่ยนเกมส์” ไปจะดีกว่า เพราะก่อนหน้านี้เราเคยจัดกีฬานี้มาแล้วตอนที่ยังไม่ควบรวมซึ่งก็ “ประสบความไม่สำเร็จ”
เป็นกีฬาที่ “ไม่ค่อยมีใครเต็มใจจัด”เพราะเป็นความผิดพลาดในการ “เพิ่มเกม” ของ โอซีเอ อย่างที่เคยเขียนให้อ่านกันไปแล้ว
ส่วนเรื่องที่ว่าจะ “โดนแบน” ออกจากกีฬาหรือมหกรรมอื่น ๆ นั้น บอกได้เลยว่า อย่าไปคิดถึงขั้นนั้น เพราะมันยากถึงยากส์มากๆ เอาไป 3 ข้อพอประมาณ
1.ซีเกมส์ ไม่มีผลกระทบ เพราะไม่ได้ขึ้นกับ โอซีเอ
2.เอเชี่ยนเกมส์ ขนาด เวียดนาม หนักกว่าถอนสมอกลางคันและเรื่องใหญ่ด้วยในการ “เทเจ้าภาพปี 2019” ก็ไม่ได้โดนอะไรเลย
3.โอลิมปิกเกมส์ หรือ เวิลด์เกมส์ ก็ขึ้นกับ ไอโอซี หรือ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล
ดังนั้น สบายใจได้ เสียค่าปรับนิดหน่อยเหมือนทำผิดกฎจราจร แล้วก็รู้จักการเจรจา
แม้จะเสียเงิน, เสียหน้า, เสียท่า และเสียฟอร์ม ไปบ้างก็ตาม
แต่อย่าดิ้นจนออกทะเล เพราะเค้ายึดสิทธิ์เราไปแล้วครับพรี่!!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี