สายสุนีย์ จ๊ะนะ กลายเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่กวาดเหรียญทองฟันดาบ ทั้ง 3 ประเภทพาราลิมปิกเกมส์ มาครองได้ในการแข่งขันครั้งเดียว

ในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา วีลแชร์ฟันดาบเอเป้ บุคคลหญิง Category B เริ่มจากรอบ 8 คนสุดท้าย ชนะ โอเลนา เฟโดตา-อิไซเยวา จากยูเครน 15-6 จากนั้นรอบรองชนะเลิศ ชนะถิง ตง งา จากฮ่องกง 15-7 และรอบชิงชนะเลิศ สายสุนีย์ จ๊ะนะอดีตเหรียญทอง 2004 และ 2012 ประเภทนี้ เอาชนะ คัง ซู จากจีน 15-7 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครอง นั่นหมายความว่า นี่เป็นเหรียญทองที่ 3 ของเธอ หลังจากได้มาแล้วจากดาบฟอยล์และดาบเซเบอร์

นักกีฬาวัย 50 ปี ได้เหรียญทองครั้งนี้ 3 เหรียญ จากประเภทเซเบอร์ คลาส B หญิง ชนะ เซียว หรง จากจีน 15-14 ตามด้วย ประเภทดาบฟอยล์หญิง คลาสบี ก็ชนะ เซียว หรง จากจีน อีกครั้ง อย่างเด็ดขาด 15-11 คะแนน ล่าสุดคือ ดาบเอเป้ ทำให้เธอได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาฯ ไปแล้ว 21.6 ล้านบาท

l จากผู้ผิดหวังสู่ราชินีวงการฟันดาบโลก

สายสุนีย์ มีจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ที่ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตบนวีลแชร์ นั่นคือประสบอุบัติเหตุตอนอายุ 17 ปี เธอซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อไปทำงานที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ลำพูน ได้มีรถยนต์พุ่งเข้ามาชนท้ายมอเตอร์ไซค์ที่เธอซ้อนอยู่ ทำให้เธอต้องเป็นอัมพาตช่วงล่าง เพราะกระดูกสันหลังถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป

เหตุการณ์อันน่าเจ็บปวดครั้งนั้น ทำให้เธอถึงกับคิดอยากจะจากโลกนี้ไป เพราะไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในสภาพนี้ และครอบครัวก็ค่อนข้างยากจน ก่อนที่เธอจะได้กำลังใจจากครอบครัว และมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งที่ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการหยาดฝน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อฝึกอาชีพและเล่นกีฬา

เธอเริ่มต้นจากวีลแชร์บาสเกตบอล ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นวีลแชร์ฟันดาบ กระทั่งติดทีมชาติครั้งแรกในการแข่งขันเฟสปิก เกมส์(เอเชียนพาราเกมส์) ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพเมื่อปี 1999 พร้อมกับคว้า 2 เหรียญทอง และได้เงินอัดฉีด 2 แสนบาท เป็นปฐมบทให้เธอมีแรงผลักดันก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่

l แข่งพาราลิมปิก4สมัยกวาดไปแล้ว9เหรียญ

สายสุนีย์ ลงแข่งขัน พาราลิมปิก ครั้งแรกเมื่อปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และเธอก็สร้างผลงานการคว้าเหรียญทอง ประเภทดาบเอเป้ คลาส B และเหรียญทองแดง ประเภทดาบฟอยล์ คลาส B มาครองอย่างยิ่งใหญ่ จารึกชื่อของเธอว่า นี่คือ “นักกีฬาหญิงคนแรก” ที่ได้เหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์

เธอสร้างความสำเร็จและมีเหรียญรางวัลติดมือกลับบ้านตลอดทุกครั้ง นั่นคือ เหรียญเงิน พาราลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง, เหรียญทอง พาราลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน, เหรียญเงิน พาราลิมปิก2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร, เหรียญทองแดง พาราลิมปิก 2020 ที่โตเกียว และเวลานี้ได้ถึง 3 เหรียญทองที่ปารีสเกมส์ 2024

สายสุนีย์ คว้าเหรียญรางวัลจากศึกพาราลิมปิกได้ทุกครั้งที่ลงทำการแข่งขัน โดยเธอได้เหรียญพาราลิมปิกมาแล้วถึง 9 เหรียญ แบ่งเป็น 5 ทอง 1 เงิน และ 3 ทองแดง

ตามสถิติตลอดกาลของพาราลิมปิกเกมส์ 16 ครั้งที่ผ่านมาซึ่งจัดครั้งแรกปี 1960 หรือ 64 ปีที่แล้วนั้น มีมนุษย์คนเดียวที่คว้าเหรียญทอง วีลแชร์ฟันดาบทั้ง 3 เหรียญทองในการแข่งขันครั้งเดียว นั่นคือ โรแบร์โต แมร์สัน นักกีฬาชายจากอิตาลี ทำได้เมื่อปี 1968 หรือ 56 ปีที่แล้ว

สายสุนีย์ ยังมีโอกาสคว้าเหรียญทองเพิมอีก นั่นคือ เอเป้ ทีมหญิง วันที่ 7 กันยายนนี้ เริ่มที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เวลาไทย 16.30 น. ทีมไทย พบ เกาหลีใต้

l ร่ำไห้มีความสุขบอกพูดอะไรไม่ออก

ภายหลังการแข่งขัน “แม่แวว” ยอดหญิงสิงห์นักฟันดาบ กล่าวว่า ดีใจอย่างที่สุด ภูมิใจในตัวเอง ไม่คิดว่าจะทำได้ น้ำตาแห่งความดีใจ น้ำตาแห่งความปลื้มปิติ บรรยายออกมาไม่ได้ มีความสุขมากๆ ไม่คิดว่าจะทำได้ขนาดนี้ ตั้งเป้าแค่ 1 ทองในเอเป้ แต่กลับทำได้ทุกประเภท

“สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ คือตั้งสมาธิอยู่กับตัวเอง ก่อนแข่งจะไม่คิดว่าได้อยู่แล้ว แต่คิดว่าต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ทำให้ได้อย่างที่ซ้อม มีทีมงานฟันดาบที่ดี มีผู้ฝึกสอนที่ดี เตือนสติว่าต้องเล่นแบบไหน แบบนี้นี้ไม่ได้แล้ว ต้องหนี ต้องดึง”

สายสุนีย์กล่าวต่อไปว่า ในการเตรียมตัว ต้องขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนดีมาก ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ตนเองและทีมกีฬาไทย ที่ส่งข้อความมา ตนเห็นหมด แต่ขอโทษที่ไม่ได้ไปตอบ เพราะต้องพยายามตั้งสมาธิ

“ขอขอบคุณ คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่อยู่บนฟ้า ส่งจิตมาให้ สายสุนีย์ มีพลัง รวมทั้ง คุณณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคนปัจจุบันที่เป็นกำลังใจอย่างใกล้ชิด ขอบคุณสมาคมวีลแชร์ฟันดาบคนพิการแห่งประเทศไทย, สิงห์ รวมถึง เดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่จ้างทำงาน และให้ทำหน้าที่จนสำเร็จ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน รวมทั้งครอบครัวเป็นกำลังใจยิ่งใหญ่มากๆ ขอเอาประสบการณ์ชีวิตของตนเอง เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ท้อแท้ เพราะกว่าจะถึงวันนี้ไม่ง่าย ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุ จนพิการ จนมาถึงวันนี้ หวังว่าจะเป็นบันดาลใจให้คนที่ท้อ”

l นักกีฬาไทยทุบสถิติเหรียญรวมตลอดกาล

ในการแข่งขันวันเดียวกัน ทีมฟันดาบยังได้อีก 1 เหรียญเงิน จาก “สปาย” วิสิทธิ์ กิ่งมะนาว ใน เอเป้ บุคคล ชาย คลาส B โดยนักดาบวัย 35 ปี รอบ 16 คนสุดท้าย ชนะ มิชิโนบุ ฟูจิตะ จากญี่ปุ่น 15-5, รอบ 8 คนสุดท้าย ชนะ อัมมาร์ อาลี จากอิรัก 15-13, รอบรองชนะเลิศ ชนะ เจีย จาง จากจีน 15-13 ก่อนที่รอบชิงชนะเลิศ แพ้ ดิมิทรี คูตยา จากสหราชอาณาจักร 10-15

ขณะที่ เทเบิลเทนนิส ทำผลงานได้มา 1 เหรียญเงิน กับ 2 เหรียญทองแดง โดย 1 เหรียญเงิน จาก รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ลงแข่งชายเดี่ยว คลาส MS6 รอบชิงชนะเลิศ แพ้ มัตเตโอ ปาเรนซาจากอิตาลี 0-3 เกม 6-11, 6-11, 5-11, ชายเดี่ยว คลาส MS8 “เซ้ง” พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ แพ้ วิคเตอร์ ดิดุก จากยูเครน 1-3 เกม 2-11, 11-8, 6-11, 8-11 และ ชายเดี่ยว คลาส MS7 “เน่ะ” เฉลิมพงษ์ พันภู่ แพ้ ชัว หยัน จากจีน 2-3 เกม 11-5, 17-19, 8-11, 11-3, 3-11 ทั้ง พิสิษฐ์ และ เฉลิมพงษ์ คว้าเหรียญทองแดง

จากผลงานครั้งนี้ ทัพไทยหลังจบการแข่งขันวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา คว้าไปแล้ว 6 เหรียญทอง, 9 เหรียญเงิน และ 11 เหรียญทองแดง นับเป็นผลงานที่ดีสุดในประวัติศาสตร์นักกีฬาไทย ตั้งแต่ส่งแข่งพาราลิมปิกเกมส์ก่อนหน้านี้ 9 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1988 หรือ 36 ปีที่แล้ว ด้วยการ “ทำเหรียญทองมากที่สุด” โดยก่อนหน้านี้ ดีสุดคือ ปี 2016 ที่รีโอ เดอ จาเนโร 6 ทอง นอกจากนี้ทีมปารีสเกมส์ 2024 ทีมไทยจำนวนเหรียญที่เคยได้รวมมากสุด แซงหน้าที่ริโอ รวม 18 เหรียญ กับ โตเกียว 2021 รวม 18 เหรียญ(5 ทอง 5 เงิน 8 ทองแดง) โดยตอนนี้ได้แล้ว 26 เหรียญ

l เหรียญรวมอยู่ที่18-จีนยังนำโด่ง

สำหรับตารางเหรียญรางวัลจนถึงขณะนี้ ไทย อยู่ในอันดับที่ 18 ทำได้ 6 เหรียญทอง, 9 เหรียญเงิน และ 11 เหรียญทองแดง โดยเหลือการแข่งขันอีก 2 วัน ขณะที่ จีน นำโด่งที่ 83 ทอง 64 เงินและ 41 ทองแดง โดนมี เกรท บริเตน หรือสหราชอาณาจักร อยู่ที่ 2 ทำได 42 ทอง 34 เงิน และ 24 ทองแดง

สรุปผลงานทัพไทย มีดังนี้ 6 เหรียญทอง มาจาก วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T53 พงศกร แปยอ, บอคเซีย บุคคล BC2 “เจมส์” วรวุฒิ แสงอำภา, วีลแชร์เรซซิงชาย 100 เมตร คลาส T34 “บีม” ชัยวัฒน์ รัตนะ, ฟันดาบ เซเบอร์ บุคคลหญิง คลาส B สายสุนีย์ จ๊ะนะ, ฟันดาบ ฟอยล์ บุคคลหญิง คลาส B สายสุนีย์ จ๊ะนะ, ฟันดาบ เอเป้ บุคคลหญิง คลาส B สายสุนีย์ จ๊ะนะ

9 เหรียญเงิน จาก เทเบิลเทนนิส คู่ผสม คลาส XD7 ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น-วิจิตรา ใจอ่อน, เทเบิลเทนนิส ชายคู่ คลาส MD14 รุ่งโรจน์ ไทยนิยม-พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ, วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T54 อธิวัฒน์ แพงเหนือ, แบดมินตันหญิงเดี่ยว คลาส WH1 “ปุ๊” สุจิรัตน์ ปุกคำ, วีลแชร์ เรซซิ่ง 100 เมตร T54 อธิวัฒน์ แพงเหนือ, วีลแชร์ เรซซิ่ง 100 เมตร T53 พงศกร แปยอ, วีลแชร์เรซซิ่ง 800 เมตรชาย T53 พงศกร แปยอ, เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS6 รุ่งโรจน์ ไทยนิยม, ฟันดาบ เอเป้ บุคคล ชาย คลาส B วิสิทธิ์ กิ่งมะนาว

11 เหรียญทองแดง จาก เทควันโด 47 กก.หญิง คลาส K44 ขวัญสุดา พวงกิจจา, เทเบิลเทนนิส หญิงคู่ คลาส WD5 ดารารัตน์ อาสายุทธ์-ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา, เทเบิลเทนนิส ชายคู่ คลาส MD8 วันชัย ชัยวุฒิ-ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น, แบดมินตัน หญิงคู่ WH1-WH2 สุจิรัตน์ ปุกคำ-อำนวย เวชวิฐาน, บอคเซีย บุคคล BC2 วัชรพล วงษา, แบดมินตันชายเดี่ยว SL3 “วี” มงคล บุญสุน, เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว MS3 ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น, บอคเซีย ทีมผสม คลาส BC4พรโชค ลาภเย็น-นวลจันทร์ พลศิลา, ยกน้ำหนัก รุ่น 55 กก. หญิง กมลพรรณ กระราชเพชร, เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS8 พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ, เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS7 เฉลิมพงษ์ พันภู่

สำหรับเกณฑ์เงินรางวัลนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เหรียญทอง 7.2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท

บี แหลมสิงห์