หลังจากจบเกมการแข่งขัน ระหว่างสองทีมไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ซึ่งเหลือ 10 คน ตั้งแต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ก่อนจะเสมอกัน 2-2 แบบโชกโชน เกิดวิวาทะมากมายสำหรับศึกนี้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า เข้าใจได้ถ้าอาร์เซน่อลจะต้องเล่นในสไตล์ดึงช้า หรือถ่วงเวลาเนื่องจากตัวผู้เล่นน้อยกว่า เพราะถ้าเขาเองตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็อาจทำแบบเดียวกัน
“พวกเขาป้องกันได้ทุกลูกจนถึงท้ายเกม เราสร้างโอกาสได้แม้จะไม่ชัดเจนนัก” เป๊ป กล่าวหลังเกม “เราอดทน และความพยายามของเราสัมฤทธิผล แต่ผมไม่รู้ว่ามีนักเตะอาร์เซน่อลกี่คนที่เป็นตะคริว แต่มันเกิดชึ้นได้ในเกมที่ต้องใช้พลังงานสูงแบบนี้ เรื่องนี้คุณต้องไปถาม มิเกล อาร์เตต้า ว่าแท็กติกของพวกเขาคืออะไร”
ขณะที่ เป๊ป ก็ไม่พอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินจังหวะที่ทีมเสียประตูตีเสมอให้ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ หลังจากทีมเพิ่งเสีย โรดรี้ ไปหมาดๆ จากอาการบาดเจ็บแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น โดย ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินเรียกกัปตันทีมทั้ง 2 ทีมไปคุยที่กลางสนาม ทำให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ กลับมาคุมพื้นที่ทางขวาไม่ทัน เป็นที่มาทำให้ทีมต้องเสียประตูตีเสมอ ทำให้ เป๊ปโกรธจัดอย่างมาก
“ความกังวลของผม คือ เมื่อผู้ตัดสินขอให้อยู่ห่างจากตำแหน่งของเขา 20 ไมล์ ครั้งต่อไปผมจะบอกกับลูกทีมของผมว่า ถ้าผู้ตัดสินใจเรียกไปคุยอีก ให้บอกกลับไปเลยว่า กรรมการนั่นแหละที่ต้องเข้ามาคุยกับเรา เราจะไม่เดินไปหา”
นอกจากนี้ เป๊ป ยังไม่มั่นใจและถามหามาตรฐานของผู้ตัดสินตอนที่เล่นลูกเตะมุม หลังมองว่า เอแดร์ซอนสมควรถูกตีความว่า โดนผู้เล่นอาร์เซน่อลขัดขวางการเล่น เพราะมันเป็นการบล็อก ซึ่งปัจจุบันบางครั้งก็ฟาวล์ บางครั้งก็ไม่ฟาวล์
“มันเป็นการตั้งคำถามถึงมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสิน มันคือการบล็อก บางครั้งมีการบล็อกเกิดขึ้นในตำแหน่งนั้น บางครั้งก็ถูกตัดสินว่าฟาวล์ บางครั้งก็ให้เป็นประตู” เป๊ป กล่าว
ทางด้าน มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลกล่าวว่า มันชัดเจนไม่จำเป็นที่ผมต้องคอมเมนท์อะไรอีกมันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ตอนนี้ผมคาดหวังได้เลยว่าจะได้เห็นเกมพรีเมียร์ลีก 100 เกม ที่เล่นแบบ 10 ต่อ 11หรือ 10 ต่อ 9 ส่วนผู้เล่นคิดอย่างไรกับใบแดงมันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะมาตัดสินสิ่งที่เกิดขึ้น หน้าที่ของผมคือ ต้องผ่านสภาพแวดล้อมที่ยากที่สุดในวงการฟุตบอลเป็นเวลา 55 นาที และพยายามทำทุกอย่างเอาตัวรอดให้ได้
ทางด้านสองนักเตะคนสำคัญของ ซิตี้ ทั้ง แบร์นาโด กับ จอห์น สโตนส์ ออกมาให้สัมภาษณ์ ในทิศทางที่ใกล้เคียงกัน
แบร์นาโด้ กล่าวว่า วันนี้มีแค่ทีมเดียวที่ลงสนามไปเพื่อพยายามเล่นฟุตบอลส่วนอีกทีมต้องการเล่นกับข้อจำกัดของสิ่งที่ผู้ตัดสินอนุญาตให้ทำ เกมนี้เรารู้ตั้งแต่จังหวะแรกว่าจะเกิดอะไรขึ้น โรดรี้ บาดเจ็บหลังจากโดนอาร์เซน่อล อัดใส่จนคว่ำ 2 ครั้ง ใน 10 นาที”
“เราเสียประตูแรก ในจังหวะที่ผู้ตัดสินเรียกกัปตันทีมไปคุย แล้วไม่ยอมรอให้กลับประจำตำแหน่ง เราเสียประตูที่สอง ในจังหวะที่ อาร์เซน่อล ขัดขวางผู้รักษาประตูเรา และผู้ตัดสินยอมให้ทำแบบนั้นได้ยังไง จากนั้นก็ปล่อยให้มีการถ่วงเวลาหลายครั้ง เรื่องที่ทำให้ผมติดใจที่สุด คือก่อนเริ่มซีซั่นเอฟเอ บอกว่าพวกเขาจะควบคุมสถานการณ์แบบนี้แต่สุดท้ายกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย”
“ผมบอกได้เลยว่า โดยส่วนตัวผมดีใจกับวิธีการเล่นของทีม เราลงสนามไปเพื่อพยายามชนะทุกๆ เกม ไม่ใช่มาเล่นเพื่ออะไรก็ไม่รู้ ถ้าเทียบกันแล้ว คู่ปรับก่อนหน้านี้ของเราอย่าง ลิเวอร์พูล พวกเขาเล่นเพื่อต้องการชนะอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตรงข้ามกับ อาร์เซน่อล บางทีอาจเป็นเพราะ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว แต่อาร์เซน่อล ไม่เคยได้ หรืออาจเป็นเพราะ ลิเวอร์พูล คว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีก ไปแล้ว ส่วน อาร์เซน่อลยังไม่เคยได้”
ทางด้าน จอห์น สโตนส์ ผู้ทำประตูตีเสมอเซฟแต้มได้สำเร็จ กล่าวว่า อาร์เซน่อลทำแบบนั้นมาหลายปีแล้ว อาจจะเรียกวิธีแบบนั้นว่า เป็นการเล่นอย่างชาญฉลาด หรือเล่นอย่างสกปรกก็ได้ พวกเขาพยายามที่จะเบรกเกมในทุกๆ สถานการณ์เพื่อให้ได้เปรียบ อีกทั้งการเข้าปะทะหนัก ก็ทำให้ทีมที่เล่นด้วยนั้นต้องเจอกับปัญหา นอกจากนี้สโตนส์ เผยถึงแผนเด็ดที่ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่าส่งให้ไปยืนคู่กับ ฮาลันด์ ในแดนหน้า เพื่อชิงจังหวะโหม่ง และร่วมเล่นลูกกลางอากาศ จนทำประตูสำเร็จ
ส่วนกรณีที่ เออร์ลิ่ง เบรา ฮาลันด์ ตกเป็นประเด็นวิจารณ์อย่างมาก หลังจากที่เขาจงใจไปปาลูกบอลใส่ที่ศรีษะของ กาเบรียล มากัลเญส หลังจาก ซิตี้ ได้ประตูตีเสมอ 2-2 โดย ฮาลันด์ หยิบลูกบอลขึ้นมาแล้วขว้างไปโดนหัวของ กาเบรียล ซึ่งกำลังยืนหันหลัง และดึงเสื้อมาปิดหน้า จากนั้นเมื่อเกมจบลง นักเตะทั้งสองฝั่ง
และสต๊าฟโค้ชมีการกระทบกระทั่งเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไรบานปลาย อย่างไรก็ตาม วีดีโอประจำการแข่งขันได้บันทึกไว้แล้ว และน่าจะทำให้ต้องถูกพิจารณาเรื่องดังกล่าวแน่นอน
ผลการแข่งขันนัดนี้ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ยังนำจ่าฝูง มี 13 คะแนน จาก 5 เกมส่วน อาร์เซน่อล อยู่ที่ 4 มี 11 แต้ม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี