“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ หงายเหงือกคารังตัวเอง พ่ายให้กับ ทีมชาติกรีซ 1-2 ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่สนามเวมบลีย์ ซึ่งลี คาร์สลีย์ ผู้จัดการทีมชั่วคราวของอังกฤษ พยายามใช้กลยุทธ์รุกสุดตัว แต่กลับล้มเหลวอย่างยับเยินเมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ต่อกรีซอย่างสุดช็อก

วานเจลิส พาฟลิดิส พังประตูให้ทีมเยือนนำก่อน นาทีที่ 49 จากนั้นประตูของจู๊ด เบลลิ่งแฮม ในนาทีที่ 87 ดูเหมือนจะกอบกู้สถานการณ์ของอังกฤษที่น่าผิดหวังได้สำเร็จ แต่พาฟลิดิส มาทำประตูให้กรีซ นาทีที่ 90+4 ทำให้ทีมจากแดนเทพนิยายคว้าชัยไปอย่างพลิกล็อก

คาร์สลี่ย์ มีปัญหาในการจัดทัพ โดยไม่มีกัปตันทีม แฮร์ร่ี เคน ซึ่งได้รับบาดเจ็บ ทำให้ คาร์สลีย์ เลือกที่จะส่ง จู๊ด เบลลิ่งแฮมเล่นในตำแหน่งฟอลส์ไนน์ และให้ ฟิล โฟเดน,แอนโธนี่ กอร์ดอน, บูกาโย ซาก้า และโคล พาล์มเมอร์ ลงสนาม ผลที่ได้คือความยุ่งเหยิงที่ขาดความต่อเนื่องและสับสน ก่อนจะจบสถิติไร้พ่าย 100% ของคาร์สลีย์ นับตั้งแต่เข้ามารับงานชั่วคราวแทนที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต

นักเตะกรีกการเฉลิมฉลองประตูด้วยการชูเสื้อที่มีชื่อของ จอร์จี้ บัลด็อค อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติของพวกเขา ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ด้วยวัยเพียง 31 ปี

ยิ่งไปกว่านั้น บูกาโย ซาก้า ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา โดยปีกขวาของอาร์เซน่อล ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 51 โดย โนนี มาดูเอเก้ ปีกของเชลซี ได้ลงสนามไปแทน หลังจาก ซาก้า วัย 23 ปี พยายามยืดเส้นตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงพร้อมกับจับไปที่ด้านหลังของขาขวา

ลี คาร์สลีย์ หัวหน้าโค้ชชั่วคราวของอังกฤษกล่าวว่า “เขากำลังได้รับการประเมิน เห็นได้ชัดว่าระหว่างการเตรียมการก่อนจะยิงประตูแรก คุณเห็นได้ว่าเขารู้สึกอะไรบางอย่างที่ขาของเขา”

ขณะที่ อาร์เซน่อล ของมิเกล อาร์เตต้าต้องลุ้นหนัก เพราะตอนนี้ก็ขาด มาร์ตินโอเดการ์ด กัปตันทีมอยู่แล้ว ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขณะเล่นให้กับนอร์เวย์เมื่อเดือนกันยายนซึ่งทีมนั้นจะกลับมาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในวันที่ 19 ตุลาคม โดยจะพบกับ บอร์นมัธที่สนามไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม

ขณะเดียวกัน เออร์ล่ิง เบรา ฮาลันด์ กองหน้าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำลายสถิติการทำประตูสูงสุดตลอดกาลของนอร์เวย์ในศึกเนชั่นส์ลีก เมื่ออายุได้ 24 ปี ในเกมที่เอาชนะสโลวีเนียในศึกเนชั่นส์ลีก โดยเขายิงประตูในนามทีมชาติได้ 33 ประตูในช่วงต้นเกม เท่ากับ ยอร์เกน ยูเว่ซึ่งเคยเล่นในช่วงทศวรรษที่ 1920 และ 1930 จากนั้นก็ทำลายสถิติในครึ่งหลังด้วยการยิงประตูที่ 34 ให้กับนอร์เวย์

ฮาลันด์ ซึ่งประเดิมสนามให้กับนอร์เวย์ในปี 2019 ใช้เวลาเพียง 36 เกมเท่านั้นในการทำประตูสูงสุดดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ยูเว่ทำลายสถิติเดิมได้สำเร็จใน 27 เกมแรกของเขา เขาเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ๊กในช่วงท้ายของอาชีพค้าแข้ง และลงเล่นไป 45 นัด โดยไม่สามารถเพิ่มจำนวนประตูได้จากนั้นเขาผันตัวมาเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์หลังจากเลิกเล่นฟุตบอล

ฮาลันด์ ทำประตูได้มากมายตลอดอาชีพค้าแข้งกับสโมสร โดยยิงได้ 236 ประตูให้กับโมลด์, เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และแมนฯ ซิตี้

ประตูที่ 100 ของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมที่ 105 ของเขา เท่ากับสถิติของคริสเตียโน โรนัลโด้ ที่เรอัล มาดริด โดยเขายิงได้น้อยที่สุดใน 100 ประตูให้กับทีมจาก 5 ลีกชั้นนำของยุโรป และเขาครองสถิติทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล โดยทำได้ 36 ประตู ในฤดูกาล 2022-23

ในเยอรมนี เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ยิงได้ 50 ประตูในบุนเดสลีกา เมื่ออายุ 21 ปี และใช้เวลาลงสนามน้อยที่สุดเพียง 50 เกมเท่านั้น เขายังยิงได้ 40 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกจากการลงสนาม 35 นัด เท่านั้น