เม็ดมะม่วงหิมพานต์
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นพืชในตระกูลถั่วที่มีรสชาติหวาน มัน อร่อย และเป็นแหล่งรวบรวมวิตามิน เกลือแร่ พร้อมช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น ผู้คนนิยมที่จะนำถั่วประเภทนี้ไปเป็นส่วนผสมในอาหาร รวมถึงนำไปคั่วผสมเกลือรับประทานในเวลาว่าง เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยใน 100 กรัม มีพลังงานรวมแล้ว 553 กิโลแคลอรี ไขมันปริมาณ 43.85 กรัม ซึ่งประกอบไปด้วยสารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินบี 6 วิตามินอีวิตามินเค ฟอสฟอรัส สังกะสี แมกนีเซียม ทองแดง ซีลีเนียม เหล็ก และมีโปรตีนสูง ซึ่งสารอาหารแต่ละชนิดในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่มีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย และที่สำคัญเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีไขมันชนิดดี ใยอาหาร โปรตีน และกรดอะมิโนอาร์จีนีน (Arginine) ช่วยให้ผนังหลอดเลือดขยายตัว และลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในเลือดและไขมันชนิดไม่ดีที่อาจอุดตันหลอดเลือดหัวใจได้ จึงช่วยเรื่องระบบไหลเวียนของเลือด ลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงปัญหา
เกี่ยวกับความดันโลหิต คอเลสเตอรอลในร่างกายที่สูงก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องของโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดแล้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นๆ อีกเช่น
-ช่วยในเรื่องการมองเห็น ด้วยสาร ซีแซนทีน (Zeaxanthin) และลูเมอิน (Lutein) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อทานอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่เหมาะสม
จะช่วยป้องกันดวงตาที่ถูกแสงแดดทำลาย มีโอกาสเกิดอาการตาบอดในผู้สูงอายุ พร้อมช่วยลดการเกิดโรคต้อกระจกได้ด้วยเช่นกัน
-ช่วยป้องกันความเสี่ยงโรคเบาหวาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์จะมีสารสกัดที่สามารถต้านทานโรคเบาหวานได้ดี ป้องกันกันภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายรับการควบคุมน้ำตาลในเลือดในปริมาณเหมาะสม กระตุ้นให้การลำเลียงของน้ำตาลเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อได้เพิ่มมากขึ้น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
-ช่วยควบคุมน้ำหนัก การทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ประมาณ 10 เม็ดต่อวัน จะช่วยให้เกิดการป้องกันโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในหลอดเลือด และมะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยลองเปลี่ยนรูปแบบการทานไขมันจากสัตว์มาเป็นพืช ซึ่งไขมันที่ได้จัดอยู่ในชนิดที่ไม่อิ่มตัว สามารถพบในเม็ดถั่วหลายชนิด ซึ่งถือเป็นการช่วยเรื่องควบคุมน้ำหนักไปในตัวด้วย
ผู้ที่ต้องระวังในการทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ได้แก่
1.ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่ว หรือแพ้สารเพคติน ที่จะทำให้เกิดโอกาสแพ้กำเริบขึ้นมา ความรุนแรงที่สุดอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
2.ผู้ที่ต้องรับการผ่าตัด เพราะสารบางชนิดจะไปสร้างระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงมากขึ้น ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ จึงควรหยุดทานก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 อาทิตย์ (14 วัน)
ในการทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม และควรระวังการทานโดยไม่ได้นำไปผ่านความร้อนหรือปรุงสุก มีโอกาสที่จะก่อให้เกิดอาการผิวหนังระคายเคืองง่ายได้
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี