การแข่งขันฟุตบอลลีกยุโรปฤดูกาล 2024-25 เดินทางมาถึงการพักเบรกทีมชาติหนที่ 2 หรือราวๆ 2 เดือน จำนวนแมทช์การแข่งขันในแต่ละลีก ช้า-เร็วแตกต่างกันไป วันนี้จะมาสรุปภาพรวมของทั้ง 5 ลีก ว่าตอนนี้ไปกันถึงไหนแล้ว
l พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาไปแล้ว 7 เกม มีอยู่ 2 ทีมที่ในเวลานี้ยังไม่แพ้ใครคือตัวเต็งในการแย่งแชมป์อย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่ลงเล่นไป 7 เกม ชนะ 5 เสมอ 2 มีอยู่ 17 คะแนนเท่ากัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองทีมรั้งอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ จ่าฝูงในเวลานี้คือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ก่อนเปิดม่านซีซั่นพวกเขาถูกมองว่าเป็นเต็ง 3 ชนะ 6 แพ้ 1 มี 18 คะแนนเท่ากับว่าการเข้ามาทำงานของหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่อย่าง อาร์เน่อ สล็อต 10 เกม ชนะได้ถึง 9 แพ้ 1 ไม่มีเสมอ ถือว่ายอดเยี่ยมสุดๆ ชัยชนะเหนือ คริสตัล พาเลซ 1-0 เกมล่าสุด ทำให้แฟนๆ“หงส์แดง” ยังคงหนาวกันต่อไป
ทีมที่ถือว่าทำผลงานได้อย่างร้อนแรงในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา คือ “สิงห์บลูส์” เชลซี ชนะ 3 เสมอ 2 ในลีก ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตาราง เช่นเดียวกับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ทีมดังจากย่านมิดแลนด์แม้ว่าทั้งสองทีมนี้จะสะดุดในเกมนัดล่าสุดเสมอทั้งคู่ก็ตาม
ส่วนทีมใหญ่ที่อาการค่อนข้างหนักในเวลานี้คือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบพักเบรกเดือนนี้รั้งอันดับ 14 ของตาราง ถือว่าเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุด ในรอบหลายปี เอริค เทน ฮาก คุมทีมไม่ชนะใครมา 5 เกมติดในทุกรายการ จนบอร์ดบริหารระดับสูงต้องแจ้งประชุมด่วนเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ และดูเหมือนว่า “เซอร์จิม” ยังไฟเขียวให้โอกาสได้คุมทีมต่อไป
ในโซนท้ายตารางในเวลานี้มีอยู่ 4 ทีมที่ออกสตาร์ทมา 7 เกมยังไม่ชนะใครคือ คริสตัล พาเลซ,วูล์ฟแฮมป์ตัน, อิปสวิช ทาวน์ และเซาแธมป์ตัน ขณะที่เลสเตอร์ ซิตี้ และเอฟเวอร์ตัน ปลดล็อกคว้าชัยนัดแรกได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปิดท้ายด้วยอันดับดาวซัลโว ผู้นำยังเป็น เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ จากแมนฯซิตี้ ที่ซัดไปแล้ว 10 ประตู ตามด้วย โคล พัลเมอร์ จากเชลซี 6 ประตู เท่ากับ
ไบรอัน เอ็มเบอโม่ จากเบรนท์ฟอร์ด ขณะที่ หลุยส์ดิอาซ จากทีมจ่าฝูง ลิเวอร์พูล กดไปแล้ว 5 ประตู ส่วนผู้นำแอสซิสต์คือ บูกาโย่ ซาก้า จากอาร์เซน่อลทำไปแล้ว 7 ครั้ง
l บุนเดสลีกา เยอรมนี
ผ่านไปแล้ว 6 เกม มีอยู่ 2 ทีมที่ยังไม่แพ้ใครคือ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค และแอร์เบ ไลป์ซิก ชนะ 4 เสมอ 2 มีอยู่ 14 คะแนนเท่ากัน ส่วนแชมป์เก่า “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ปิดวีกไม่ส่วนเท่าไหร่ ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอกับน้องใหม่อย่าง โฮลสไตน์ คีล 2-2 ทิ้ง 2 คะแนนไปโดยใช่เหตุ
หนึ่งในทีมที่ฟอร์มน่าสนใจในฤดูกาลนี้คือ “อินทรีแดง-ดำ” ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ภายใต้การกุมบังเหียนของ ดีโน่ ท็อปป์โมลเลอร์ เปิดบ้านไล่ตามตีเสมอ
บาเยิร์น มิวนิค ไปแบบสุดมันส์ 3-3 ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 มีอยู่ 13 คะแนน
ส่วนนักเตะที่กำลังฮอตสุดๆ ของบุนเดสลีกาในชั่วโมงนี้คงหนีไม่พ้น โอมาร์ มาร์มูช แนวรุกทีมชาติอียิปต์จาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ที่ไม่รู้ไปกินอะไรมา ซัดไปแล้ว 8 ประตู และ 4 แอสซิสต์ เป็นผู้นำดาวซัลโวในเวลานี้ ทำให้ชื่อของเขาตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล อาจจะเข้าไปเป็นตัวแทนรุ่นพี่ในทีมชาติอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์
โซนท้ายตาราง โฮลสไตน์ คีล และโบคุ่ม คือ 2 ทีมที่ยังไม่ชนะใครในฤดูกาลนี้ แต่ทีมที่ดูอาการน่าเป็นห่วงคือ “หมู่บ้านหรรษา” ฮอฟเฟ่นไฮม์ ของ เปลเลกริโน่ มาตาราซโซ่ ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 4 เกมรับโดนถลุงไป 16 ประตู มีเพียง โฮลสไตน์ คีล ที่โดนยิงมากกว่าพวกเขา
l ลาลีกา สเปน
ลาลีกา สเปน จำนวนแมทช์ลงเล่นมากกว่าลีกอื่นๆในเวลานี้ผ่านไปแล้ว 9 เกม จ่าฝูงยังคงเป็น “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลน่า ชนะ 8 แพ้ 1 มีอยู่ 24 คะแนน น่าเสียดายที่ ฮันซี่ ฟลิค อดทำสถิติสูงสุดในการคุมทีมชนะรวดในลีกเพราะดันไปโรเตชั่นในการไปเยือน โอซาซูน่า จนโดนถล่มกลับมา 4-2
ที่ผ่านมาไม่ห่างคือ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ที่เริ่มลงตัวขึ้นเรื่อยๆ ชนะ 6 เสมอ 3 มีอยู่ 21 คะแนน ยังไม่แพ้ใคร เช่นเดียวกับ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ที่รั้งอันดับ 3 มีอยู่ 17 คะแนน
ทีมฟอร์มแรงจากฤดูกาลที่แล้วอย่าง กิโรน่า เสียตัวหลักไปหลายตำแหน่งคุณภาพทีมลดลง ผ่านไป 9 เกม ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 3 มี 12 คะแนน รั้งอันดับ 11ของตาราง
ในโซนท้ายตาราง ลาส พัลมาส ที่ขึ้นชื่อว่าเก่งในบ้านปีนี้ฟอร์มรูดมหาราชกลายเป็นทีมเดียวในลีกที่ยังไม่ชนะใคร เสมอ 3 แพ้ 6 รั้งบ๊วย “ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซียก็อาการหนักรั้งอันดับ 18 ชนะได้แค่เกมเดียว
ส่วนผู้นำดาวซัลโวในเวลานี้คือ โรเบิร์ตเลวานดอฟสกี้ หัวหอกจอมเก๋าชาวโปแลนด์ ที่ซัดไปแล้ว 10 ประตู ตามมาด้วย อโยเซ่ เปเรซ จากบีญาร์รีล6 ประตู และสตาร์ดังอย่าง คีลียัน เอ็มบัปเป้ จากเรอัล มาดริด กดไป 5 ประตู
l กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี
ผ่านมาแล้ว 7 เกม สถานการณ์ลุ้นแชมป์ถือว่าสูสี กลายเป็น นาโปลี ยอดทีมจากเนเปิ้ลส์ ที่ได้ อันโตนิโอคอนเต้ เข้ามาคุมทีม ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 1 มีอยู่ 16 คะแนน ตามมาด้วยแชมป์เก่าอย่าง “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ที่แพ้เกมดาร์บี้เดลล่า มาดอนนิน่า คารังให้กับ “ปีศาจแดง-ดำ” เอซีมิลาน 1-2 พวกเขามีอยู่ 14 คะแนนจากการชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 1
อันดับ 3 คือ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ภายใต้การคุมทีมของ ติอาโก้ ม็อตต้า มีอยู่ 13 คะแนน พวกเขาคือทีมเดียวในลีกที่ผ่านมา 7 เกม ยังไม่แพ้ใคร ยังคงเอกลักษณ์สไตล์การเล่นแบบตีหัวเข้าบ้าน นำแล้วล็อกสกอร์ แม้ว่าเกมล่าสุดจะพลาดท่าเปิดบ้านเสมอ กายารี่
1-1
ในโซนท้ายตาราง เอซี มอนซ่า คือทีมเดียวในลีกที่ยังไม่ชนะใคร เสมอ 4 แพ้ 3 มี 4 คะแนน เท่ากับทีมน้องใหม่ที่รั้งบ๊วยอย่าง เวเนเซีย
ส่วนผู้นำดาวซัลโวในเวลานี้คือ มาร์คุส ตูราม จากอินเตอร์ มิลาน และมาเตโอ เรเตกี จากอตาลันต้าที่ซัดไปแล้ว 7 ประตูเท่ากัน ตามมาด้วย คริสเตียนพูลิซิซ จากเอซี มิลาน และดูซาน วลาโฮวิช จากยูเวนตุสกดไปคนละ 5 ประตู
l ลีกเอิง ฝรั่งเศส
ผ่านมาแล้ว 7 เกม ตอนนี้มีอยู่ 3 ทีมที่ยังไม่แพ้ใครคือ จ่าฝูง โมนาโก ภายใต้การคุมทัพของ อาดี้ ฮุตเตอร์ ชนะ 6 เสมอ 1 มี 19 คะแนน ตามมาด้วย ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง ชนะ 5 เสมอ 2 มี 17 คะแนน อีกทีมที่ยังไม่ปราชัยให้ใครคือ ล็องส์ ที่รั้งอันดับ 6 ชนะ 2 เสมอ 5
โอลิมปิก มาร์กเซย ของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ถือว่าทำผลงานได้ดีรั้งอันดับ 3 ของตาราง ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 1 แนวรุกอย่าง เมสัน กรีนวู้ด กำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงอีกครั้ง ทำไปแล้ว 5 ประตู ตามหลังผู้นำดาวซัลโวอย่าง แบรดลีย์ บาร์โคล่า จากเปแอสเช ที่ถูกวางให้เป็นตัวแทนของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่กดไปแล้ว 6 ประตู
ในโซนท้ายตาราง อองเช่ร์ส เป็นทีมเดียวที่ยังไม่ชนะใครรั้งอันดับสุดท้ายตาราง เสมอ 3 แพ้ 4 มี 3 คะแนน ตูลูส ที่ฤดูกาลที่แล้วไปเล่นฟุตบอลยุโรป ปีนี้อาการหนัก ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 5
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี