โรดรี้ เอร์นานเดซ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน และ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับการโหวตให้คว้ารางวัลบัลลงดอร์หรือนักฟุตบอลชาติยอดเยี่ยมประจำปี 2024 ไปครองได้สำเร็จ จากการโหวตของผู้สื่อข่าว 100 คนจาก 100 ประเทศที่มีอันดับดีที่สุดตามข้อมูลของฟีฟ่า ซึ่งปีนี้เป็นหนแรกในรอบเกือบ 20 ปี ที่ไม่มีชื่อสตาร์ดังอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ และคริสติอาโน่ โรนัลโด้ อยู่ในลิสต์แคนดิเดต 30 คนสุดท้าย

ก่อนเริ่มงานประเทศรางวัลที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส มีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นเมื่อไม่มีนักเตะหรือบุคลากรจากทีมเจ้าของแชมป์ยุโรปสมัยล่าสุดอย่าง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เดินทางมาร่วมงานเลย เนื่องจากรู้ว่านักบอลกับโค้ชจะไม่ได้รับรางวัล แต่สุดท้ายกลายเป็นค่ำคืนประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลสเปน เพราะนักเตะทั้งชายและหญิงได้รางวัลพร้อมกันเป็นครั้งแรก

โรดรี้ มิดฟิลด์ห้องเครื่องจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีส่วนสำคัญพาต้นสังกัดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 4 สมัยติด และยังพาทีมชาติสเปน ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2024 โดยเอาชนะอันดับ 2-3-4 อย่าง วินิซิอุส จูเนียร์, จู๊ด เบลลิ่งแฮม และ ดานี่ การ์บาฆาล จากเรอัล มาดริด

สำหรับผลงานของ โรดรี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เขาประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ถึง 8รายการ ไล่ตั้งแต่พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ซูเปอร์ คัพ
1 สมัย, คลับ เวิลด์คัพ 1 สมัย, เนชั่นส์ลีก1 สมัย และยูโร 1 สมัย

ขณะเดียวกัน ไอตานา บอนมาติ แข้งสาวกองกลางวัย 26 ปี ของทีมชาติสเปน และ บาร์เซโลน่า ได้รับเลือกให้คว้ารางวัล บัลลง ดอร์ เฟมิแน็ง หรือยอดนักเตะหญิง 2 ปีซ้อน หลังจากเธอนำทัพ บาร์เซโลน่า ผงาด 3 แชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้ว ทั้งการป้องกันแชมป์บอลลีกหญิง สเปน ด้วยการจบที่ 88 แต้มทิ้งห่าง เรอัล มาดริด กระจุย 15 แต้ม, แชมป์บอลถ้วยสเปน หรือ โกปา เดอลา เรน่า ด้วยการถล่ม เรอัล โซเซียดัด8-0 และป้องกันแชมป์ยูฟ่า วูเมนส์ แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการทุบ โอลิมปิก ลียงจากฝรั่งเศส 2-0 โดยเธอลงสนามในระดับสโมสรไปถึง 41 นัด ยิงได้ 19 ประตู และติดธงสเปน ในปีนี้ 5 นัด ยิง 5 ประตู