เจาะและผ่า5ประเด็น ‘หงส์’ทะยานยึดฝูงพรีเมียร์
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สยายปีก เปิดสนามแอนฟิลด์ ทำศึกพรีเมียร์ลีก เอาชนะ ไบรท์ตัน ไปได้ในเกมที่สุดมันและโชกโชน 2-1
ทำให้พวกเขาทะยานขึ้นไปรั้งจ่าฝูงฟุตบอลอังกฤษได้อีกครั้ง
เนื่องจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี แล่นใบในแดนใต้ พ่าย บอร์นมัธ 1-2
ลิเวอร์พูล กลับมาเล่นในแอนฟิลด์ เป็นครั้งแรกหลังจากออกไปเยือนมา 3 เกมติดต่อกัน ทั้งไปเยอรมนี ชนะ ไลป์ซิก ในแชมเปี้ยนส์ลีก, บุกไปยันเสมอ อาร์เซนอล 2-2 ในพรีเมียร์ลีก และชนะ ไบรท์ตัน ที่แดนใต้ 3-2 ได้เข้ารอบบอลลีกคัพ
ไบรท์ตัน นำก่อน 1-0 จากการยิงของ คาดิโอกลู นาทีที่ 14 แต่ โคดี้ กักโป กึ่งยิงกึ่งผ่านและได้ลูกโหม่งไร้เงาของ ดาร์วิน นูนเญซ มาช่วยป่วนทำให้ตีเสมอ 1-1 นาทีที่ 69 ก่อนจะได้ประตูชัยจาก โม ซาลาห์ นาทีที่ 72 ทำให้ ซาลาห์ ขึ้นชั้นอันดับ 8 ดาวยิงตลอดกาลพรีเมียร์ลีก ที่ 164 ประตู
ลิเวอร์พูล ชนะ 13 จาก 15 เกมในยุคของ อาร์เน่อ ชล็อต ทะยานนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง มี 25 แต้ม เหนือ แมนฯซิตี้ 2 คะแนน เนื่องจาก แมนฯซิตี้ บุกไปแพ้ ให้กับ บอร์นมัธ 1-2 ที่ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม
นี่คือ 5 ประเด็นเห็นจากการดูบอลในเกมนี้
1.สตาร์ทช้า
ครึ่งแรกมีโอกาสได้ประตูก่อน แต่ติดเซฟเป็นพัลวัน และลูกที่โดนยิงคือ ผีจับยัดของแทร่
ฟาดิโอกลู ยิงลูกนั้นได้สมบูรณ์แบบ เพราะยิงยากมาก บังคับเอวแทบเคล็ดให้บอลพุ่งมาตรงเสาประตู และทำได้
ลิเวอร์พูล ยังเร่งเครื่องช้า ๆ ในครึ่งแรก แม้ว่าเกมนี้จะเล่นได้เร็วและแรงกว่าเดิม แต่เมื่อยิงไม่ได้ก่อน จึงโดนลงโทษจากจังหวะโต้กลับ
********** ********** **********
2.การกล้าเสี่ยง
ครึ่งหลัง การเดินเครื่องของทีมเริ่มแรงขึ้น บีบสูงขึ้น ทุกคนขยับขึ้นจากตำแหน่งเดิม ก่อนจะพลิกแผนให้คู่แข่งกางตำรารับลำบาก
4-2-4 เอากลางออกสองคน โซโบสไล กับ แม็กก้า เหตุผลก็คือตัวลึกของลิเวอร์พูลมันเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ แม็กก้า งานหนักเกินไป และเจอจังหวะอัดหนักไปด้วยเลยไม่ไหว
ชล็อต เลือกที่จะเหลือกลางสองคนคือ โจนส์ กับ กราเฟนแบร์ช ในเวลานั้นยืนแนวตั้ง แล้วจัดแนวรุกใส่ 4 คน ให้ ซาลาห์ ขยับเข้าใกล้กรอบโทษ แล้วให้ ดิอาซ ขยับเหมือนยืนขวา แต่แทบจะซ้อนหลัง ซาลาห์ อีกที เพื่อมากดอีกคนทางฝั่งขวา
เป็นช่วงเวลาที่วัดใจ และกล้าเสี่ยงครั้งแรกที่เห็นแบบจะ ๆ
ในยุคของ ชล็อต
********** ********** **********
3.การได้ประตู
การได้ประตูนัดนี้ ถือว่ามาพร้อมกันจนทำให้ ไบรท์ตัน หงายท้อง เพราะมันต่อเนื่องมาก ๆ
ห่างกันไม่ถึง 4 นาทีดี
ลูกตีเสมอด้วยสไตล์นวล ๆ ของ กัคโป เปิดเข้ามาแบบวัดใจได้เสีย และได้จังหวะลูกโหม่งไร้เงาของดาร์วิน นูนเญซ
ก่อนที่ “เทรดมาร์กโกล์” จาก โม ซาลาห์ จะเกิดขึ้น และเป็นประตูที่ทำให้เขาเป็นอันดับ 8 ดาวยิงตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก 164 ประตู
โม พลาดบ่อยในนัดนี้ และไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ประตูนี้ยุติเสียงนกเสียงกาได้จนหมดสิ้นอีกครั้ง
ด้วยสไตล์ความเป็นตัวของตัวเอง คนที่พึ่งได้อยู่เสมอ ๆ
ที่ยังคงไม่ได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่
********** ********** **********
4.การเปลี่ยนเกมลดความเสี่ยง
หลายคนชอบบอกว่า นำแล้วผ่อน ซึ่งแน่นอนมันเป็นปกติของฟุตบอล
เร่งมา 25 นาทีเป็นใครก็หมด ลิ้นจะถึงทีนแล้วนะ!!!!!
เมื่อได้ประตูนำ ชล็อต รีบจัดการให้ทีมกลับมาเล่นเหมือนเดิม เน้นความรัดกุมทันที ด้วยการส่ง วาตารึ เอนโดะ ถูกส่งลงไปคู่กับ กราเฟนแบร์ช ปรับโจนส์ยืนตัวไล่ บอลกลับมาเล่น 4-3-3 อีกครั้ง
แต่ปรับทิศให้ กราเฟนแบร์ช ไปยืนขวา และวาง เอนโดะ ปักซ้าย ยืนคู่กันต่ำกว่าเดิม ก่อนจะให้ โจนส์ เป็นตัวไล่
ถือเป็นการทำที่ถูกต้อง เพราะความสดเป็นรอง
********** ********** **********
5.อาการเจ็บ
อาการเจ็บของ อิบราฮิมา โกนาเต้ ที่แขนในจังหวะโดนเหยียบโดย เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค เป็นอุบัติเหตุ อันนี้น่าติดตาม
คาดการณ์ถึงเหตุผลว่า ทำไม่ถึงเลือก โจ โกเมซ นั่นก็เพราะสปีดบอลของ ไบรท์ตัน ที่สามารถเร่งเครื่องได้จากทุกจุดทุกหมุดของสนาม
โจ ไม่ใช่ตัวเลือกตัวที่ 3 แต่สถานการณ์นี้ต้องใช้เพื่อมาช่วยรับบอลเร็ว พร้อมกับซ้อนตำแหน่งของ เทรนท์ ที่ต้องรับด้วยรุกด้วย และทำได้ดีมาก ๆ
กองหลังเล่นได้ดีทุกคน เทรนท์ แสดงออกถึงความแข็งกร้าวมีสมาธิที่ดีในการรับมือกับ มิโตมะ และ ซิมิกาส ปักเกมรับได้และเติมเกมรุกอย่างน่าสนใจเสมอ
เกมนี้ ชล็อต ทำได้ครบถ้วน คือ กล้าได้กล้าเสีย และกลับเข้าฐานเมื่อได้ผลที่ต้องการ
แมนฯซิตี้ แพ้ และทีมพลิกกลับมากับ 3 แต้มอันล้ำค่า และลิเวอร์พูล ขึ้นนำ เข้าตำราที่(ผม)ว่า……
ออกบ้านเมียด่า.....ออกมาจ่าฝูง!!!!!
#บีแหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี