เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดยาวในเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด วันอาทิตย์นี้หลังจากเกมระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้บ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ จบลง

นั่นหมายว่า รุด ฟาน นิสเตลรอย จะหมดหน้าที่“ผู้จัดการทีมขัดตาทัพ (Interim manager)” และทีมจะเข้าสู่ยุคใหม่ของ รูเบน อโมริม ทันที

ยูไนเต็ด กำลังจะปฏิวัติใหม่อีกครั้ง เปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่อีกครา และนี่คือ กุนซือคนที่ 10 ทั้งแบบถาวร และชั่วคราว นับตั้งแต่หมดยุคของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อซัมเมอร์ ปี 2013

สัญญาณนับจากนี้ เรายังไม่รู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับทีมสต๊าฟที่ยังอยู่จากยุคของ เอริค เทน ฮาก ที่โดนปลดไปเมื่อเกือบๆ สองสัปดาห์ที่ผ่านมา

รุด ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนนำทัพลุยกับ เลสเตอร์ ว่า เขายังไม่ได้ยินข่าวคราวอะไรเลยจาก รูเบน อโมริม เกี่ยวกับอนาคตของเขา

“ตอนนี้ผมต้องตรวจสอบโทรศัพท์ของผม เพื่อดูว่าอโมริมส่งข้อความหาผมหรือไม่” รุด กล่าวแบบติดตลก “เรื่องนี้เราคงต้องรอดูกันต่อไป ผมคิดว่ารูเบนกำลังโฟกัสที่บราก้า ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของเขาที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และผมโฟกัสที่เลสเตอร์”

รุด บอกว่า ตอนนี้แค่นั้นก็พอแล้ว และมันแสดงให้เห็นว่าเรามุ่งมั่นกับงานประจำวัน ให้เขาโฟกัสที่บราก้า ส่วนผมโฟกัสที่เลสเตอร์ แล้วเราค่อยมาดูกันหลังจากนั้น เพราะเวลานี้ผมยุ่งอยู่กับเรื่องเดียวเท่านั้น

“สำหรับเกมสุดท้ายของผมในโค้ชตัวสำรอง ผมต้องการเตรียมตัวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทุ่มเททุกอย่างให้กับนักเตะนั่นคือความสนใจสูงสุดของผม และนอกเหนือจากนั้น ผมไม่มองไปไกลเกินไป”

“ช่วงเวลาสั้นๆ นี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องตอบสนองได้ดี หลังจากเราแพ้เวสต์แฮม เราจำเป็นต้องเริ่มทำผลงานให้ได้และนั่นคือเหตุผลที่ผมบอกว่ามันสำคัญ สำหรับผมแล้วสิ่งสำคัญคือต้องเดินหน้าต่อไปและสร้างผลงานต่อจากเลสเตอร์ เชลซี และพีเอโอเค เราสามารถสร้างผลงานต่อจากชัยชนะในบ้านนัดแรกของยุโรปในรอบหนึ่งปีได้ เราพูดถึงเรื่องนั้นในห้องแต่งตัวแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น และเราก็ทำสำเร็จแล้ว วันอาทิตย์นี้เป็นเกมใหญ่สำหรับเราในลีก และเราต้องเล่นให้เต็มที่”

ผู้สื่อข่าวถามว่า รุด อยากจะกลับมาเป็นนายใหญ่ที่นี่อีกหรือไม่ เขาตอบทันทีว่า “แน่นอน”

“ผมคิดเรื่องนี้มาอย่างดีเมื่อตัดสินใจมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมหรือผู้ช่วยโค้ช ผมคิดมาอย่างดีแล้วและรู้ว่าการมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นโอกาสพิเศษสำหรับผมที่ผมรู้สึกว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้กับสโมสรในบทบาทที่ต่างออกไปสมัยเป็นนักเตะ ตัวผมมีความทะเยอทะยานอย่างชัดเจนที่จะคุมทีม ผมตัดสินใจเซ็นสัญญาสองปีในตำแหน่งผู้ช่วย และผมยังคงอยู่ในกรอบความคิดนั้นเพื่อความยุติธรรม เพื่ออยู่ในตำแหน่งนั้นต่อไป”

รายงานจากอังกฤษ มีข้อสรุปว่า อโมริม จะเริ่มทำงานในวันจันทร์ และจะหารือกับ ฟาน นิสเตลรอย เกี่ยวกับบทบาทของ รุด ที่ยูไนเต็ด กุนซือชาวโปรตุเกสจะมีเวลาเกือบสองสัปดาห์ในการวางแผนสำหรับเกมแรกของเขาในการคุมทีมเยือนอิปสวิช ทาวน์ แม้ว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ของเขาจะติดภารกิจทีมชาติในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่

ประเด็นสำคัญประการหนึ่งที่ อโมริม ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนนั่นคือ การขาดแคลนการพังประตู เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งรั้งอยู่ในอันดับที่ 13 ยิงไป 9 ประตูจาก 10 เกมในพรีเมียร์ลีก

“เมื่อคุณต้องการประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกและในยุโรป คุณจำเป็นต้องทำประตูให้ได้จำนวนหนึ่ง” รุด กล่าว “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทีมที่ดีที่สุดในโลกถึงมีผู้เล่นเหล่านี้ ในขณะนี้เรามีผู้เล่นที่ยิงประตูหรือแอสซิสต์ได้จำนวนหนึ่ง แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยู่ในวัยที่ต้องได้รับการพัฒนา และมีศักยภาพที่พวกเขาจะทำได้ และเราเชื่อว่าพวกเขาทำได้ ในช่วงเวลานี้เราอยู่ในช่วงเวลาแบบนั้น”

รุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตกองหน้าระดับตำนานวัย48 ปี เคยค้าแข้งกับแมนฯ ยูไนเต็ด 5 ฤดูกาล และทำประตูให้กับทีมปีศาจแดงถึง 150 ลูกจากการลงสนาม 219 นัด

เขาเริ่มผันตัวมาจับงานสายเทรนเนอร์ด้วยการเป็นผู้ช่วยโค้ชก่อน จากนั้นก็ผันตัวมาเป็นโค้ชมาตั้งแต่ปี 2014 หรือราว 10 ปีมาแล้ว

เขาเคยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ราว2 ปีด้วยกัน ในช่วงปี 2014-2016

จากนั้น “เฮียรุด” ได้ผันตัวมาเป็นโค้ชกองหน้าและโค้ชทีมชุดเยาวชนของ พีเอสวี ไอด์โฮเฟ่น ตั้งแต่ชุด ยู-18, ยู-19 และ ยู-21 กินเวลา 6 ปี ตั้งแต่ปี 2016-2022

จากนั้นใน รุด ฟาน นิสเตลรอย ขยับขึ้นมาเป็นเฮดโค้ช ทีมชุดใหญ่ของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์และแชมป์ ดัทช์ ซูเปอร์ลีก ในฤดูกาล 2022/2023 ก่อนจะลาออกจากสโมสรและว่างงานจนได้รับการแต่งตั้งมาเป็นผู้ช่วย เอริก เทน ฮาก ในฤดูกาลนี้

งานนี้ไม่เพียงแต่ รุด ฟาน นิสเตลรอย เท่านั้น ยังมีทีมสต๊าฟที่ยัง “ลูกผีลูกคน” แทบจะทุกตำแหน่ง โดยนอกจาก รุดแล้ว ยังมีอีก 3 คนที่เพิ่งมาช่วงซัมเมอร์ 2024

ไล่เลียงจาก เรเน่ เฮค ที่มาในซัมเมอร์นี้จากโกอเฮดอีเกิ้ลส์ ที่มารับตำแหน่งผู้ช่วยโค้ช พร้อมๆ กับ รุด เพื่อเป็น “ดัทช์ คอนเนคชั่น”

เยลเล่ เทน รูเวลาร์ โค้ชประตูที่ชาวเนเธอร์แลนด์ และอันเดรส กอร์จสัน โค้ชทีมชุดใหญ่ ชาวสวีเดน ก็เพิ่งมาเมื่อกลางปี เช่นกัน

ดังนั้นสถานการณ์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด จึงน่าจับตาทุกวินาที

ว่าแต่ถ้าคุณเป็นอโมริม....คุณจะเก็บ “รุด” เอาไว้หรือไม่?!?

บี แหลมสิงห์