โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกคนสำคัญของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลสร้างสถิติกลายเป็นนักเตะคนแรกใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่ทำประตูและแอสซิสต์ได้ถึง 2 หลักในฤดูกาลนี้

ในเกมที่ “หงส์แดง” เปิดบ้านชนะ “สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลล่า 2-0 แข้งทีมชาติอียิปต์ มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูในเกมนี้ เริ่มจากประตูแรกในนาที 20 ที่เจ้าตัวถูก เลออน ไบลี่ย์ เหนี่ยวด้านหลังจังหวะจะหลุดทำประตูแต่บอลไปเข้าทาง ดาร์วิน นูนเญซที่สปีดขึ้นมาทำประตู และในนาที 84 มายิงปิดท้ายให้ทีมเก็บ3 คะแนนเต็ม

จากประตูและแอสซิสต์ในเกมนี้ทำให้ ซาลาห์ กลายเป็นผู้เล่นคนแรกในบรรดานักเตะ 5 ลีกใหญ่ซีซั่นนี้ที่ทั้งยิงและแอสซิสต์แตะ 2 หลัก โดยใช้เวลาเพียง 17 เกมเท่านั้น

8 จาก 10 ประตูของ ซาลาห์ เกิดขึ้นใน พรีเมียร์ลีก ส่วนอีก2 ลูกเกิดขึ้นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก และ คาราบาว คัพ ส่วน 10 แอสซิสต์เกิดขึ้นใน พรีเมียร์ลีก 6 ครั้ง และในแชมเปี้ยนส์ ลีก 4 ครั้ง

จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล ที่ออกสตาร์ท 11 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ด้วยผลงานชนะ 9 เสมอ 1 และ แพ้ 1 ทำแต้มทิ้งห่างรองจ่าฝูงอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกไปพ่าย ไบรท์ตัน 1-2 และแพ้มา 4 นัดติดในทุกรายการ ไปถึง 5 คะแนนแล้ว ก่อนจะกลับมาลงสนามอีกครั้งหลังหมดช่วงพักเบรกทีมชาติ โดยจะบุกไปเยือน เซาแธมป์ตัน ในวันที่ 24 พ.ย. นี้

ขณะเดียวกัน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บันทึกสถิติสุดแย่คือ คุมทีมเเพ้ทุกรายการ 4 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกในอาชีพการทำงานของเขา

นายใหญ่สเปนคุมทีม “เรือใบสีฟ้า” 4 เกหลังสุดเป็นการเเพ้ 4 เกมจาก 3 รายการ คือพรีเมียร์ลีก 2 นัดที่ล่าสุดบุกเเพ้ ไบรท์ตัน 1-2 รวมถึงแพ้ บอร์นมัธ 1-2 เมื่อสัปดาห์ที่เเล้ว นอกจากนั้นยังมีเกมที่เเพ้ สเปอร์ส 1-2 ตกรอบคาราบาวคัพ เเละเเพ้ สปอร์ติ้งลิสบอน 1-4 เเบบหมดรูปในเเชมเปี้ยนส์ลีก

นอกจากนั้น ยังมีสถิติแย่ๆ ตามมาอีกเยอะ คือแมนฯซิตี้ แพ้ 4 เกมติด เป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี โดยครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2006 สมัยที่ สจ๊วต เพียร์ซ คุมทีมอยู่ ขณะเดียวกันเออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ที่ก่อนหน้านี้ถือสถิติยิงประตูให้ทีมขึ้นนำไม่แพ้มาติดต่อกันนานถึง 46 นัด โดยแบ่งเป็นชนะถึง 40 เกมเสมอ 6 ก็ต้องสิ้นสุดที่เกมนี้ด้วย

“เรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นสักครั้งหนึ่งในชีวิตเสมอ ใช่ไหมล่ะ?มันย่อมมีครั้งแรกเสมอ เราแพ้ 2 นัดในพรีเมียร์ ลีก และเราต้องเปลี่ยนแปลงมัน เพื่อกลับมาชนะ กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เราต้องอยู่ในตาราง”

“บางทีหลังจากผ่านไป 7 ปี ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัยบางทีปีนี้ก็อาจจะมีทีมอื่นที่เหมาะสมกว่า แต่นี่แหละคือความท้าทายของผม ความท้าทายของเรา และผมชอบที่จะเผชิญหน้ากับมัน ผมจะไม่ถอยหลัง ผมจะทำในสิ่งที่ต้องทำให้มากกว่าเดิม เราจะพยายามกันอีกครั้ง”

“เมื่อนักเตะกลับมา (หลังพักเบรคทีมชาติ) ผมไม่สงสัยเลยว่าเราจะกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด” เป๊ป กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะกลับมาลงสนามอีกครั้ง เปิดบ้านเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เกม พรีเมียร์ ลีก วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน นี้