คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่เก็บชัยชนะกับทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังทีมเปิดบ้านชนะ โปแลนด์ 5-1 ศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

เกมที่ เอสตาดิโอ โด ดราเกา ทัพ “ฝอยทอง” มารัว5 ประตู ในครึ่งหลังจาก ราฟาเอล เลเอา นาทีที่่ 59, โรนัลโด้ ทำ 2 ประตูนาทีที่ 72 (จุดโทษ) และ 87 ส่วนอีก 2 ลูกได้จาก บรูโน่ เฟอร์นันเดส และ เปโดร เนโต้ ขณะที่ทีมเยือนตีไข่แตกทาง โดมินิค มาร์ชซุค นาทีที่ 88

จากชัยชนะในเกมนี้ทำให้ โรนัลโด้ เก็บชัยชนะกับ โปรตุเกส เป็นเกมที่ 132 ขึ้นแท่นเป็นนักเตะที่ชนะกับชาติมากที่สุดในโลก หลังจากที่ก่อนหน้านี้สถิติเท่ากับ เซร์คิโอ รามอส กองหลังทีมชาติสเปน ที่ 131 เกม ส่วนอันดับ 3 เป็น อีเกร์ กาซียาส ที่ 121 เกม

ประตูในเกมนี้ทำให้เจ้าตัวสะสมประตูกับทีมชาติเป็น 135 ลูกรวมแล้วตลอดอาชีกเจ้าตัวกดไปแล้ว 910 ประตู โดยประตูหลัก 900 โรนัลโด้ ทำได้ในเกมกับ โปรตุเกส เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ขณะที่ทัพ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ก็ระเบิดฟอร์มแกร่งไล่ถล่ม บอสเนีย ขาดลอย 7-0 พร้อมการันตีคว้าแชมป์กลุ่ม ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ลีก เอ กลุ่ม 3 ทันที

โดยสกอร์ดังกล่าวทำให้ เยอรมนี กลายเป็นทีมชายทีมแรกที่ยิงประตูคู่แข่งได้ถึง 7 ลูก ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันรายการนี้ ซึ่งเริ่มชิงชัยกันมา 6 ปี และทำให้ทีมอินทรีเหล็กเก็บเพิ่มเป็น 13 แต้ม จาก 5 นัด การันตี ผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ในฐานะแชมป์กลุ่มของกลุ่นมี้ทันที แบบที่ไม่ต้องรอลุ้นเกมนัดสุดท้าย ขณะที่ บอสเนีย มี เพิ่งมีแต้มเดียว จาก 5 นัด ตกชั้นไปเล่นในลีกรอง

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เนเธอร์แลนด์ ชนะ ฮังการี 4-0

ทางด้าน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศ 5 ทีมสต๊าฟโค้ช ของ รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ยูไนเต็ด แต่งตั้ง อโมริม เข้ามาเป็นกุนซือใหม่แทนที่เอริค เทน ฮาก โดยเขารีเควสขอนำทีมงานปัจจุบันของตนเองมาทำงานด้วยที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ล่าสุดสโมสรได้ออกมายืนยันแล้วว่า คาร์ลอส แฟร์นานเดส,ฮอร์เก้ วิทัล, อเดลิโอ คานดิโด้, เอ็มมานูเอล แฟร์โร่ และ เปาโล บาร์เรร่า จะเป็นสตาฟฟ์โค้ชชุดใหญ่ของสโมสร

โดยทั้ง 5 ราย จะเข้ามาทำงานร่วมกับ ดาร์เรน เฟลตเชอร์และ อันเดรียส จอร์จสัน สต๊าฟชุดเก่า และผู้ช่วยโค้ชผู้รักษาประตู เคร็ก มอว์สัน

ซึ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของทีมงานทั้ง 5 รายมีดังนี้ โดย แฟร์นานเดส จะทำงานเป็นมือขวาของ อโมริม ซึ่งโค้ชวัย 29 ปี ถือเป็นโค้ชสนิทที่รู้ใจอยู่กับอโมริมมาตลอดทั้งแต่ที่บราก้าและคาซ่า ปิอา ฮอร์เก้ วิทัล จะทำหน้าเป็นโค้ชผู้รักษาประตู,คานดิโด้ และ แฟร์โร่ เป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ และ บาร์เรร่า จะทำหน้าที่เป็นโค้ชสมรรถภาพดูแลสภาพร่างกายของผู้เล่น

สำหรับทัพ “ปีศาจแดง” ในยุคของ อโมริม จะประเดิมสนามดวลกับ อิปสวิช ทาวน์ ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในวันที่ 24 พ.ย. นี้

ขณะที่ ปอล ป็อกบา กองกลางชาวฝรั่งเศส จะย้ายออกจาก ยูเวนตุส ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หลังตกลงยกเลิกสัญญาด้วยความยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย

ดาวเตะวัย 31 ปีโดนแบน 4 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จากความผิดฐานใช้สารกระตุ้น แต่ในเดือนตุลาคมถูกลดโทษลงเหลือ 18 เดือน โดยถูกเริ่มต้นแบนชั่วคราวครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2023

แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า ป็อกบา ได้บอกกับ บีบีซี สปอร์ต ว่าเขาสามารถกลับมาซ้อมได้ในเดือนมกราคมปีหน้า และจะพร้อมลงสนามอีกครั้งในเดือนมีนาคมถัดไป ซึ่งตอนนี้มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส กลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ จะสามารถเจ้าร่วมทีมใหม่ได้ในตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้

“สโมสรขออวยพรให้ ป็อกบา โชคดีกับอนาคตในอาชีพของเขา” ยูเวนตุส แถลงการณ์

ทางด้าน ป็อกบา กล่าวว่า “มันเป็นสิทธิพิเศษที่ได้สวมเสื้อของ เบียงโคเนรี่ และได้แบ่งปันช่วงเวลาที่พิเศษมากมายร่วมกัน ผมหวงแหนความทรงจำที่เรามีร่วมกัน มันจะอยู่ตลอดไป”

ซึ่งก่อนถูกแบน ป็อกบา รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 6.9 ล้านปอนด์ต่อปีกับ ยูเวนตุส โดยมีสัญญาถึงปี 2026 เชื่อกันว่ายูเวนตุส ได้ลดเงินเดือนของ ป็อกบา ลงเหลือ 2,000 ปอนด์ต่อเดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงร่วมกันระหว่างสโมสรกับสหภาพนักเตะ

ทั้งนี้ ป็อกบา ไม่ได้ลงสนามมากนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ลงเล่นเพียง 162 นาที ตลอด 5 นัด ระหว่างฤดูกาล 2022-23 และลงเล่นเพียง 51 นาที ในฐานะตัวสำรองเมื่อฤดูกาลก่อนที่จะถูกลงโทษแบน