สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ประกาศให้ โรมาเนีย เป็นฝ่ายชนะ โคโซโว 3-0 หลังจากที่ โคโซโว เดินออกจากสนามเพื่อประท้วงการตะโกนเหยียดเชื้อชาติของแฟนบอลเจ้าบ้านระหว่างเกมเนชั่นส์ลีก ที่บูคาเรสต์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม โรมาเนีย ถูกสั่งให้เล่นเกมต่อไปโดยปิดสนาม ไม่ให้มีคนดู เนื่องจากแฟนบอลแสดงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ
นักเตะโคโซโว เดินออกจากสนามในขณะที่สกอร์ 0-0 เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วินาทีจะหมดเวลา โดยในเวลาต่อมาสหพันธ์ฟุตบอลโคโซโว (FFK) กล่าวหาแฟนบอลเจ้าบ้านว่า “มีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจและยั่วยุ” รวมถึงตะโกนว่า “โคโซโวคือเซอร์เบีย”
สหพันธ์ฟุตบอลโรมาเนีย (FRF) แถลงการณ์ว่า “ไม่มีการตะโกนเหยียดเชื้อชาติระหว่างเกม” ยูฟ่าไม่ได้กล่าวถึงเซอร์เบียในคำตัดสินทางวินัย แต่ปรับโรมาเนีย 128,000 ยูโร (106,000 ปอนด์)จากการร้องเพลงชาติและความผิดอื่นๆ รวมถึงการรบกวนเพลงชาติและ “ถ่ายทอดข้อความทางการเมืองที่ยั่วยุซึ่งไม่เหมาะสมกับงานกีฬา”
นับเป็นครั้งที่สามที่ทั้งสองฝ่ายต้องเผชิญกับการลงโทษทางวินัยหลังจากการแข่งขันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ยูฟ่าปรับ โรมาเนีย 40,000 ยูโร (33,400 ปอนด์) และสั่งให้โรมาเนียเล่นเกมเหย้านัดต่อไปโดยปิดประตูสนาม หลังจากที่แฟนบอลโรมาเนียส่วนหนึ่งตะโกนยั่วยุระหว่างการแข่งขันคัดเลือกยูโร 2024 ในเดือนกันยายน 2023
ยูฟ่าปรับ โคโซโว 61,000 ยูโร (50,900 ปอนด์) เมื่อเดือนที่แล้วจากการที่แฟนบอลประพฤติมิชอบเมื่อทั้งสองทีมพบกันในแมทช์เนชั่นส์ลีกเมื่อเดือนกันยายน
มวลเหตุมาจาก โคโซโว ประกาศเอกราชจากเซอร์เบีย โดยฝ่ายเดียวในเดือนกุมภาพันธ์ 2008 หลังจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดยาวนานระหว่างชาวเซิร์บและชาวแอลเบเนียส่วนใหญ่
หลังจากการล่มสลายของ ยูโกสลาเวียในช่วงทศวรรษ 1990 โคโซโวก็พยายามหาเอกราช และเซอร์เบียก็ตอบโต้ด้วยการปราบปรามชาวแอลเบเนียอย่างรุนแรง ซึ่งสิ้นสุดลงในปี 1999 หลังจากการโจมตีด้วยระเบิดของนาโตต่อเซอร์เบีย
เอกราชของโคโซโวได้รับการยอมรับจาก 100 ประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร แต่โรมาเนียและเซอร์เบียไม่ยอมรับ โดยสถานการณ์ปัจจุบันในโลกของฟุตบอลนั้น โคโซโวและ เซอร์เบีย ถูกแยกออกจากกันในการแข่งขันยูฟ่าและสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ ฟีฟ่า
มีคนมักชอบพูดว่า “ต้องแยก” การเมืองกับกีฬา นั่นหมายว่า คุณกำลัง “ไม่เข้าใจโลก”
บางคนอ่านคอลัมน์นี้แล้ว “ไม่เข้าใจ”ว่าทำไมถึงมี “แอลเบเนีย” กับ “เซอร์เบีย”มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
เมื่อปี 2023 ผู้เล่นของโคโซโว เดินออกจากสนามระหว่างเกมยูโร 2024 รอบคัดเลือก กับ เจ้าถิ่นโรมาเนีย หลังจากที่แฟนๆ แดนผีดิบ ตะโกนว่า “โคโซโวคือเซอร์เบีย”
ขณะที่ พวกเขาก็กางแบนเนอร์ขนาดเขื่องพร้อมข้อความน่ารังเกียจแบบเดียวกัน ที่บูคาเรสต์
เกมถูกหยุดชั่วคราวในนาทีที่ 18 ภายหลังจากเสียงเชียร์จากแฟนบอลเจ้าบ้านชาวโรมาเนียส่วนหนึ่งที่ อารีน่า เนชันนาล่า
วิลลี่ เดลาจ็อด ผู้ตัดสินชาวฝรั่งเศสเป่ายุติเกม ก่อนที่การแข่งขันจะกลับมาลุยกันต่อในอีก 50 นาทีต่อมา
โฆษกสนาม ได้ส่งคำเตือนครั้งสุดท้าย ด้วยการประกาศขอให้แฟนบอล “อย่าตะโกนชื่อเพื่อนบ้านของเรา” และขอให้ “อย่าแสดงแบนเนอร์เดียวกันนี้อีกเลย”
ไม่เพียงแต่ป้ายฉาว “โคโซโวคือเซอร์เบีย” แล้ว กลุ่มแฟนบอลกลุ่มเดียวกัน ยังทำแบนเนอร์ขนาดใหญ่ ที่มีข้อความว่า “เบสซาราเบียคือโรมาเนีย”
สโลแกนนี้เป็นคำ “ชาตินิยมโรมาเนียน”ที่ได้รับความแพร่หลาย และใช้กันทั่วไป
กล่าวคือ คำนี้ถูกอ้างเกี่ยวกับภูมิภาค เบสซาราเบีย (Bessarabia) ซึ่ง “เคยเป็น” ส่วนหนึ่งของโรมาเนีย ระหว่างปี 1918-1940 แม้ว่าตอนนี้จะถูกแบ่งใหม่ และอยู่ในประเทศมอลโดวากับบางส่วนอยู่ใน ยูเครน
ทำให้สุดท้าย นักบอลผู้มาเยือนเดินออกจากสนามในครึ่งแรก หลังจากการตะโกนต่อต้านเหล่านักบอลแห่งโคโซวาน มันแรงชนิดที่เรียกได้ว่า “ล้ำเส้น”
เรื่องราวแห่ง “ชาติพันธุ์” ถูกนำมาผ่าน “ฟุตบอล” บ่อยมาก
ภาพชัดเจนผ่านในศึกยูโร 2016 รอบคัดเลือก ระหว่างเซอร์เบีย กับแอลเบเนีย และศึกบอลโลก 2018ระหว่างสวิตเซอร์แลนด์ กับเซอร์เบีย คือตัวอย่างของ “การแสดงออก” ถึงเรื่อง “ความขัดแย้ง”
หมายเหตุมาจากพื้นที่แดนยุโรปมีการหลอมรวมหลากหลายวัฒนธรรม ตัวอย่างคือ แอลเบเนีย ที่รับประเพณีจาก กรีก, โรม และเวเนเชี่ยนส์ มีดินแดนติดอยู่กับ กรีซ,ยูโกสลาเวีย, โคโซโว,เซอร์เบีย และทะเลเอเดรียติก
เมื่อจบสงครามบอลข่าน ในปี 1913 “โคโซโว” ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เบีย หรือ อดีตยูโกสลาเวียโดยพื้นที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวแอลเบเนี่ยนอาศัยอยู่
ดังนั้นจึงเกิดความขัดแย้งทางเชื้อชาติ
หนึ่งคือประชากรเชื้อสายแอลเบเนี่ยน กับอีกหนึ่งคือ ประชากรเชื้อสายเซิร์บ เพราะแอลเบเนีย มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกันกับ เซอร์เบีย
จุดนั้นมี “โคโซโว” คั่นกลางนั่นเอง!!!!!
ย้ำเตือนความทรงจำอีกครั้งก็คือเป้าประเด็นหลักอย่าง เซอร์เบียกับโคโซโว นั้นเคยเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดอย่างที่สุด เมื่อ เซอร์เบีย ส่งกองทัพฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมในโคโซโวในปี 1998 กระทั่งในเดือนมิถุนายน 1999สหประชาชาติ ได้ส่งทหารนาโต 40,000 คนเข้ารักษาความสงบในโคโซโว
จึงกลายเป็นสงครามระหว่าง ทหารเซิร์บ กับ ทหารนาโตสุดท้าย เซอร์เบีย ถอนทัพหลังโดนยำอย่างหนักถึง 3 เดือนเต็มๆ
จากนั้น โคโซโว จึงได้ชื่อว่าเป็นแคว้นหนึ่งของเซอร์เบีย เพียงในนามเท่านั้น เพราะการบริหารงานทุกอย่างอยู่ภายใต้การดูแลของสหประชาชาติ โดยมีโดยกองกำลังทหารของสหประชาชาติ นำโดย นาโต เป็นผู้ดูแลความปลอดภัยในประเทศ
ประเด็นสำคัญก็คือ หลังจากเอกราชของโคโซโว ที่ได้รับเมื่อปี 2008 หนึ่งในประเทศที่ไม่ยอมรับเอกราชของพวกเขาคือ โรมาเนีย
ผมเขียนเรื่องเหล่านี้ทีไร ก็จะย้ำเตือนว่า จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
มันก็จะมีครั้งต่อ ๆ ไป
เพราะมันคือ The Never Ending Story กับมนุษย์รับ........
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี